สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข่าว ระบุว่านินเทนโดแพ้คดีความที่เกี่ยวข้องกับเครื่องเกมพกพา 3DS ซึ่งศาลได้สั่งให้นินเทนโดจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายให้กับ "เซอิจิโร โทมิตะ" เป็นจำนวนเงิน 30.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากนินเทนโดไปละเมิดลิขสิทธิ์ของโทมิตะ ที่เขาเคยคิดค้นไว้เกี่ยวกับการแสดงภาพ 3 มิติให้ชมได้โดยไม่จำเป็นต้องใส่แว่นสามมิติ เมื่อเดือนที่แล้วในห้องพิจารณาคดีความ "โจ เดียมันต์" ทนายความของ โทมิตะ ระบุว่าเมื่อปี 2003 ลูกความของเขาได้นำเทคโนโลยีแสดงภาพสามมิติโดยที่ไม่ต้องใส่แว่นเวอร์ชันต้นแบบมาประชุมและโชว์กับผู้บริหารของนินเทนโดที่นั่งอยู่ในตอนนั้น 7 คน และจำนวน 4 ใน 7 คนก็ได้เป็นผู้ช่วยในการสร้างเครื่อง 3DS
"สก็อต ลินด์แวล์" ทนายความของนินเทนโด ระบุว่าข้อกล่าวหาที่แจ้งมานั้นไม่มีมูล เพราะว่าเครื่องเกมพกพา 3DS ไม่ได้มีการใช้ส่วนสำคัญจากสิทธิบัตรของโทมิตะ นอกจากนั้นการประชุมพูดคุยกันเมื่อปี 2003 ก็เป็นเพียงที่การนินเทนโดพบกับหนึ่งในพ่อค้าที่เข้ามาเสนอขายเทคโนโลยีสามมิติแค่นั้นเอง
โทมิตะ ยื่นเรื่องฟ้องนินเทนโดตั้งแต่ปี 2011 เมื่อเดือนที่แล้วโทมิตะ ออกมาเรียกร้องว่าต้องการค่าเสียหายเป็นเงินส่วนแบ่ง 9.80 เหรียญสหรัฐ ต่อเครื่อง 3DS ที่ขายออกไปได้ ดังนั้นเงินชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 30.2 ล้านเหรียญสหรัฐ จึงเป็นเงินน้อยนิดมาก หากเทียบกับค่าเสียหายที่โทมิตะเรียกร้อง นับจนถึงสิ้นปี 2012 เครื่อง 3DS ทำยอดขายได้ 29.84 ล้านเครื่อง หากนินเทนโดต้องจ่ายค่าเสียหายตามที่โทมิตะเรียกร้อง จะต้องจ่ายเงินถึง 292,432,000 เหรียญสหรัฐ
จากการพิจารณาคดีข้างต้น ทางนินเทนโดได้แสดงท่าทีผ่านแถลงการณ์ที่ส่งให้กับทาง Kotaku โดยนินเทนโดยอมรับต่อตัวเลขค่าเสียหายที่ต้องจ่าย แต่ยังคงยืนยันว่าสิทธิบัตรของโทมิตะ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเล่นเกมสามมิติบนเครื่อง 3DS พร้อมกับระบุว่าการตัดสินคดีความในลักษณะดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อการขายเครื่องเกม , ซอฟต์แวร์เกม และอุปกรณ์เสริมของนินเทนโดในอเมริกา และย้ำว่านินเทนโดเป็นบริษัทเกมที่มีประวัติอันยาวนานในการพัฒนาเกมที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเคารพสิทธิทางปัญญาของผู้อื่นเสมอมา
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com
ที่มา: manager.co.th
