“แคนนอน” เดินหน้ารุกตลาดต่อเนื่อง หลังผลประกอบการปี 2555 ทะลุ 1 หมื่นล้าน ตั้งเป้าปีนี้โต 17% คาดรายได้ทะลุ 2 หมื่นล้านใน 5 ปีข้างหน้า โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอลเป็นตัวชูโรง ตามด้วยกลุ่มเครื่องพิมพ์หลากหลายรูปแบบ นายวาตารุ นิชิโอกะ ประธานบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวสรุปผลประกอบการในช่วงปี 2555 ที่ผ่านมาว่า ถือเป็นครั้งแรกที่แคนนอนมียอดขายต่อปีทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ด้วยยอดขายรวมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 10,248 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 18%
โดยแบ่งเป็นรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ อิมเมจ คอมมูนิเคชัน โปรดักต์ (กล้องและเลนส์) ที่มีอัตราการเติบโต 24% คิดเป็นยอดขายรวม 5,748 ล้านบาท ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ ซิสเต็ม โปรดักต์ (พรินเตอร์ และอุปกรณ์พรีเซ็นเตชัน) มีอัตราการเติบโต 12% ยอดขายรวม 3,201 ล้านบาท กลุ่มผลิตภัณฑ์บิซิเนส อิมเมจจิง โซลูชัน (เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันและอุปกรณ์สำนักงาน) เติบโต 12% คิดเป็นยอดรวม 1,299 ล้านบาท
“ปีนี้แคนนอนตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรการเติบโตที่ 17% และคาดว่าภายในปี 2560 รายได้ของบริษัทจะอยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท โดยคิดเป็นสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์กล้อง 50% รองลงมาเป็นพรินเตอร์ 25% เครื่องถ่ายเอกสาร 20% และเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง 5% พร้อมกับขึ้นเป็นอันดับ 1 ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์”
สำหรับเป้าหมายในปี 2556 ในกลุ่มบิซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชัน ตั้งเป้าเติบโต 20% หรือคิดเป็นรายได้ 1,460 ล้านบาท โดยมุ่งขยายตลากลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารขาวดำ จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งตลาด 14% ให้ขึ้นเป็น 16% และเครื่องถ่ายเอกสารสีจาก 20% เป็น 22% พร้อมกับการขยายตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
ส่วนกลุ่มคอนซูเมอร์ ซิสเต็ม โปรดักต์ ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มเป็น 3,500 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 9% พร้อมกับรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดที่ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดในเครื่องพิมพ์แบบซิงเกิลฟังก์ชันถึง 59% และออลอินวันพรินเตอร์ 57%
ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ อิมเมจ คอมมูนิเคชัน โปรดักต์ หวังเพิ่มยอดขายเป็น 6,400 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 11% ด้วยการรักษาส่วนแบ่งในตลาดกล้อง DSLR ที่ 61% และกล้องวิดีโอีที่ 20% ส่วนกล้องคอมแพกต์ต้องการเพิ่มส่วนแบ่งเป็น 24% จากเดิม 23% สุดท้ายกลุ่มผลิตภัณฑ์ โปรเฟสชันนอล พรินติง โปรดักต์ (เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง) ที่เพิ่งควบรวมกิจการบริษัท โอเช่น (ประเทศไทย) จำกัด ที่ตั้งเป้ารายได้ในกลุ่มนี้ไว้ 460 ล้านบาท
สำหรับกลยุทธ์หลักที่จะดำเนินการในปีนี้คือการสร้างแบรนด์ให้ดูพรีเมี่ยมมากขึ้น พร้อมกับนำเทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาด อย่างเช่นกล้องคอมแพกต์ที่สามารถเชื่อมต่อไวไฟได้ พร้อมกับเสริมผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรินเตอร์ให้รองรับการสั่งงานผ่านไวไฟ เนื่องจากเล็งเห็นการเติบโตในการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น
Company Relate Link :
Canon
ที่มา: manager.co.th