Author Topic: ASUS ENGTX480/470 พบกับผลการทดสอบสองกราฟฟิกการ์ดสุดยอดแห่งยุค  (Read 2064 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai



   ในที่สุด ห้าฮ่า5! ผมก็ได้กราฟฟิกการ์ดที่ใช้ชิพเซ็ต GF100 หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อ Fermi มาทดสอบจนได้ หลังจากที่คอยจนเหงือกแห้งมานานหลายเดือนนับตั้งแต่ ATI ได้ปล่อยกราฟฟิกชิพในตระกูล Radeon HD 5000 ที่รองรับ DirectX 11 อย่างเต็มรูปแบบออกมาตั้งแต่เมื่อราวเดือนกันยายนของปีที่แล้ว ซึ่งจะว่าไปทาง NVIDIA ได้ตามหลังคู่แข่งถึง 6 เดือนด้วยกันกว่าที่จะปล่อยเจ้า GF100 ออกสู่ตลาด ซึ่งในระยะเวลา 6 เดือนนั้นก็น่าจะรู้กันแล้วนะครับว่าทาง ATI ไม่ได้ปล่อยให้โอกาสทองหลุดลอยจากมือไปด้วยการออกลูกออกหลานชิพ Radeon HD 5000 ย่อยออกมาอุดตลาดแทบจะทุกรูแล้ว ซึ่งจะว่าไปในตอนนี้แทบจะไม่มีตลาดระดับใดที่จะไม่มีการ์ด Radeon HD 5000 อยู่ ถ้า ATI จะออกการ์ดรุ่นใหม่ออกมาอีกผมว่าคงจะเป็นชิพรุ่นใหม่ที่มีชื่อรหัสในการพัฒนาว่า “Southern Island” เป็นแน่

     เมื่อมาพิจารณาเทคโนโลยีของชิพกราฟฟิกในยุคนี้ดีๆ จะเห็นว่า Windows 7 นั้นมีส่วนช่วยในการผลักดันให้การ์ดรุ่นใหม่ๆ เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเพราะตัว Windows 7 ที่มีความเสถียรเชื่อถือได้ ตลอดจนความสามารถ DirectX 11 และ DirectCompute ที่มาพร้อมกับตัว Windows เอง ซึ่งแต่แรกเริ่มเดิมทีนั้นก็ได้มีการคาดเดาไปต่างๆ นานาว่า NVIDIA น่าจะปล่อยชิพกราฟฟิก DirectX 11 ออกมาทันพอดีในช่วงเดียวกับที่ Windows 7 ออกวางตลาด แต่การณ์กลับกลายเป็นว่าในช่วงนั้นค่ายเขียวกับเงียบจนน่าแปลกใจ จนกระทั่งถึงช่วงงาน CES 2010 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาที่ทาง NVIDIA ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดโครงสร้างของชิพ GF100 เป็นครั้งแรก ซึ่งผมได้พูดถึงไปแล้วในบทความนี้  และนับแต่นั้นเจ้าชิพตัวนี้ก็เลื่อนกำหนดวางตลาดเรื่อยมาท่ามกลางข่าวลือที่ว่าทาง TSMC ไม่สามารถผลิตชิพ 40 นาโนเมตรได้ทัน หรือจะเป็นข่าวที่ว่าทาง NVIDIA ประสบกับปัญหาบั๊กหรือข้อผิดพลาดของตัวการ์ดต้นแบบจนไม่สามารถผลิตเป็นจำนวนมากได้ทันเวลา แต่จนแล้วจนรอดค่ายเขียวก็สามารถปล่อยการ์ด GF100 สุดแรงในรุ่นระดับบนออกมาได้ในชื่อ Geforce GTX 480 และ 470 ที่ผมได้มาทดสอบในวันนี้ครับ แต่ก่อนที่จะไปพบกับผลการทดสอบนั้นเช่นเคยที่ผมจะขอกล่าวถึงรายละเอียดของตัวการ์ดคร่าวๆ ซะก่อน

Specification

     โดยทั่วไปแล้ว คุณสมบัติของการ์ด Geforce GTX 480 และ 470 นั้นแทบจะเหมือนกันทุกประการไม่ว่าจะเป็นการรองรับคุณสมบัติทั้งหมดที่มีมาใน DirectX 11 ฉะนั้นแล้วผู้ที่ใช้ Windows Vista และ 7 นั้นจะได้เห็นประสิทธิภาพอันน่าทึ่งของ DirectX เวอร์ชั่นพลิกโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติ DirectCompute, Multi-threading, การทำ Tessellation ในระดับฮาร์ดแวร์ และ Shader Model 5 เป็นต้น แต่จุดที่แตกต่างกันระหว่างการ์ดทั้งสองตัวนั้นโดยหลักๆ คือ

-    Geforce GTX 480 มี CUDA Cores 480 ตัว, แรม 384 บิท, มีค่า TDP 250W
-    Geforce GTX 470 มี CUDA Cores 448 ตัว, แรม 320 บิท, มีค่า TDP 215W

     แต่ท่านที่เคยอ่านบทความเจาะลึกชิพ GF100 ของผมไปแล้วอาจจะพอจำได้ว่าในตอนแรกนั้นทาง NVIDIA บอกว่าการ์ดในรุ่นบนสุดของตนนั้นจะมี CUDA Cores ทั้งหมด 512 ตัว ซึ่งพูดตามตรงผมเองก็แปลกใจเหมือนกันทีรู้ว่า Geforce GTX 480 มี CUDA Cores เพียง 480 ตัวเท่านั้น เมื่อย้อนกลับไปในตอนที่ทาง NVIDIA แถลงข่าวถึงโครงสร้างสถาปัตยกรรมของ GF100 อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกก็จะพบว่าเจ้า GF100 จะมี Streaming Multiprocessors (SM) อยู่ 16 ตัว แต่ใน Geforce GTX 480 นั้นมีการปิดการทำงาน SM ไปหนึ่งตัว และใน Geforce GTX 470 นั้นได้มีการปิดการทำงานไปทั้งหมด 2 ตัวนั่นเอง ดูภาพด้านล่างดีกว่าครับจะได้เข้าใจมากขึ้น



เครดิตภาพ - Guru3D บริเวณสีแดงคือ SM ที่ได้ปิดการทำงานไป

     ในตอนนี้นั้นเราก็คงคาดเดาไปต่างๆ นานาถึงเหตุผลที่ว่าทำไมทาง NVIDIA ถึงตัดสินใจลดจำนวน SM ลง บ้างก็ว่าถ้าใส่มาเต็ม 512 ตัวจะทำให้การ์ดมีราคาแพงขึ้น บ้างก็ว่าทาง TSMC ไม่สามารถผลิตชิพ 40 นาโนเมตรที่ GF100 ใช้ได้ทัน บ้างก็ว่าการ์ดตัวต้นแบบนั้นร้อนและบริโภคพลังงานมากเกินไป แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตามมันก็คงไม่สำคัญอะไรนักแล้วล่ะครับ ในตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าเมื่อทาง NVIDIA สามารถขจัดปัญหาใดๆ ได้เสร็จเมื่อนั้นเราก็อาจเห็นการ์ด GF100 ที่มี SM 512 ตัวเต็มเมื่อนั้น ไม่แน่เราอาจได้เห็น Geforce GTX 485 ในอนาคตก็ได้ใครจะไปรู้ เหมือนกับตอนที่ออก Geforce GTX 260 SP216 ออกมาไง จำได้ป่าวเอ่ย?

     เอาล่ะเสร็จจากตัวโครงสร้างหลักของชิพไปแล้วเรามาดูที่ส่วนควบคุมหน่วยความจำบ้าง ซึ่งจะว่าไป Geforce GTX 480/470 นั้นเป็นการ์ดระดับบนของ NVIDIA ชุดแรกที่มีการใช้หน่วยความจำแบบ GDDR5 ในขณะที่การ์ดที่ใช้ชิพ GT200 ไม่ว่าจะเป็น Geforce GTX260/275/285/295 นั้นต่างใช้ GDDR3 ทั้งสิ้น สำหรับปริมาณหน่วยความจำนั้นก็ไม่ต้องห่วงว่าจะน้อยเกินไปครับ เพราะทั้งสองตัวนั้นมีหน่วยความจำทะลุหลัก 1GB ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านผู้อ่านสามารถดูความแตกต่างระหว่างหน่วยความจำของการ์ดทั้งสองตัวได้ดังนี้

-    Geforce GTX 470 มีส่วนควบคุมหน่วยความจำ 5 ชุด (5x256MB) = มีแรม GDDR5 ทั้งหมด 1280MB
-    Geforce GTX 480 มีส่วนควบคุมหน่วยความจำ 6 ชุด (6x256MB) = มีแรม GDDR5 ทั้งหมด 1536MB

อืมม... เยอะจริงๆ ครับ ด้วยปริมาณของหน่วยความจำและแบนวิธที่มากมายมหาศาลขนาดนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นคอขวดการรับส่งข้อมูลอีกต่อไป



เครดิตภาพ - Guru3D

     จากภาพบนคงจะเห็นกันแล้วว่า Geforce GTX 480 นั้นมีแรมมาให้ทั้งหมด 1.54GB ที่ความกว้างบัส 384บิท อันเป็นสืบเนื่องมาจากการที่ตัวชิพมีส่วนควบคุมหน่วยความจำ 6 ชุดด้วยกันนั่นเอง (6x64 = 384 บิท) สำหรับความเร็วสัญญาณนาฬิกาจะอยู่ที่ 924MHz (Effective ที่ 3696MHz)

     แต่สำหรับ Geforce GTX 470 นั้นก็อย่างที่เรียนกันไปให้ทราบแล้วว่ามีส่วนควบคุมหน่วยความจำทั้งหมด 5 ชุด เพราะฉะนั้นจะมีความกว้างบัสทั้งหมด 320 บิท (5x64 = 320) และจะมีความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่ 837Mhz (Effective ที่ 3348MHz) ครับ

     เสร็จจากเรื่องแรมแล้วเรามาดูที่ความเร็วของตัวชิพกันบ้าง โดย Geforce GTX 480 นั้นจะมีความเร็วในส่วนของตัวชิพจีพียูที่ 700MHz และ 1400MHz ในส่วนของ Shader Processors ในด้านของ Geforce GTX 470 นั้นจะมีความเร็วในส่วนของชิพจีพียูที่ 607MHz และ 1215MHz ในส่วนของ Shader processors ครับ



เครดิตภาพ - Guru3D

     สำหรับข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมก็คือเอนจิ้น ROP (Raster Operation) ที่รับผิดชอบในการประมวลผล pixel blending และ Anti-Aliasing ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดย Geforce GTX 480 จะมีด้วยกัน 48 หน่วย ส่วน Geforce GTX 470 จะมี 40 หน่วย และสำหรับ Texture Filtering Units นั้นใน Geforce GTX 480 จะมี 60 หน่วย และ Geforce GTX 470 จะมี 56 หน่วยครับ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ตัด SM ทิ้งไปนั่นเอง โดยแต่ละ SM นั้นจะมี Texture Units ที่รับผิดชอบการประมวลผล Texture ทั้งหมด 4 ตัว เพราะฉะนั้นแล้ว...

-    Geforce GTX 470 มี 14 SM x 4 Texture units = 56 Texture units
-    Geforce GTX 480 มี 15 SM x 4 Texture units = 60 Texture units

     คุณสมบัติของ Geforce GTX 400 ที่น่าสนใจอื่นๆ ก็คือขนาด die และกระบวนการผลิตที่เล็กลงเป็น 40 นาโนเมตรนั้นก็จะมีผลทำให้ผู้ผลิตสามารถยัดทรานซิสเตอร์เข้าไปภายในตัวจีพียูได้มากขึ้น ซึ่งเจ้า GF100 นั้นมีจำนวนทรานซิสเตอร์ทั้งหมด 3 พันล้านตัวด้วยกันครับ แต่ถึงแม้จะมีขนาด die และกระบวนการผลิตที่ลดลงก็ตามความร้อนและการบริโภคพลังงานนั้นกลับมากจนน่าแปลกใจ โดย Geforce GTX 480 นั้นมีค่า TDP ถึง 250W และ 470 นั้นจะอยู่ที 225W

     เอาล่ะเสร็จจากข้อมูลทางเทคนิคไปแล้ว เรามาดูภาพขอตัวการ์ดจริงๆ บ้างดีกว่า

ที่มา: http://beta.i3.in.th/content/view/2760


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
2509 Views
Last post August 11, 2010, 05:58:21 PM
by Nick
0 Replies
1554 Views
Last post November 25, 2010, 11:07:34 PM
by Nick
0 Replies
2740 Views
Last post December 01, 2010, 08:53:23 PM
by Nick
0 Replies
2559 Views
Last post December 09, 2010, 04:30:09 PM
by Nick
0 Replies
1783 Views
Last post December 22, 2010, 10:00:43 PM
by Nick
0 Replies
1944 Views
Last post December 22, 2010, 10:03:09 PM
by Nick
0 Replies
2112 Views
Last post December 22, 2010, 10:04:12 PM
by Nick
0 Replies
1731 Views
Last post January 06, 2011, 06:43:43 PM
by Nick
0 Replies
1787 Views
Last post June 27, 2012, 02:52:48 PM
by Nick
0 Replies
2504 Views
Last post September 16, 2012, 07:41:08 PM
by Nick