HTC One ทั้งที่เคยประกาศว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2013 ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากไต้หวันประกาศว่าจะเปิดให้ผู้สนใจสั่งซื้อได้สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด HTC One ปลายเดือนนี้ ก่อนจะเริ่มวางตลาดเต็มที่ในช่วงเดือนเมษายน HTC One นั้นเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดที่เอชทีซีเปิดตัวเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุดเอชทีซียืนยันว่า บริษัทจะเริ่มเปิดสั่งจอง HTC One ในบางประเทศช่วงปลายเดือนมีนาคม ก่อนจะเปิดตลาดในประเทศอื่นๆ ตามปกติในเดือนเมษายน
เบื้องต้น สำนักซีเน็ตรายงานว่า ประเทศหลักในตลาดเอเชียอย่างสิงคโปร์ก็จะไม่มีการจำหน่าย HTC One จนกว่าจะถึงเดือนเมษายน ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดการก่อนหน้านี้ที่เอชทีซีเคยวางเป้าหมายว่าจะสามารถจำหน่าย HTC One ได้ทั่วโลกในเดือนมีนาคม 2013 ถือเป็นสถานการณ์สะดุดที่ไม่เป็นผลดีต่อปฎิบัติการกู้วิกฤติศรัทธาของเอชทีซีเลย
ที่ผ่านมา เอชทีซีทำตลาดสินค้ากลุ่มเรือธง HTC One Series ซึ่งประกอบด้วยรุ่นเด่นอย่าง HTC One X, HTC One S และ HTC One V แม้ว่าจะมีคอนเซปต์ที่น่าสนใจทั้งความสามารถด้านกล้องถ่ายภาพดิจิตอลและระบบเสียง แต่เมื่อแข่งขันจริง เอชทีซีกลับไม่สามารถเบียดกระแสของสมาร์ทโฟนแอปเปิลและซัมซุง ทั้งที่มีการออกรุ่นใหม่เพิ่มเติม รวมถึงรุ่นระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน 8 ที่ให้ผลตอบรับนั้นอยู่ในระดับที่พอใช้ได้เท่านั้น ความคาดหวังจึงตกมาอยู่ที่ HTC One สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่สมาคม GSMA มอบให้เอชทีซีในฐานะสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่ดีที่สุดจากงาน โมบาย เวิลด์ คองเกรส (MWC 2013)
HTC One เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของเอชทีซีที่ผู้ใช้สามารถใช้ระบบเสียงของ Beats Audio ได้เลยโดยไม่ต้องเสียบหูฟัง ทำให้เสียงที่ออกมาจากลำโพงด้านหน้าที่เอชทีซีเรียกว่า BoomSound นั้นดังกระหึ่มเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ตัวเครื่องมาพร้อมขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอต่อตารางนิ้วสูงถึง 469 ppi ตัวเครื่องเป็น unibody หรือวัสดุชิ้นเดียวที่ทำมาจากอลูมิเนียมผิวด้าน (Matt Aluminium) หน่วยความจำมีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 32GB และ 64GB
การวางจำหน่าย HTC One ที่ช้ากว่ากำหนดทำให้โอกาสในการกู้วิกฤติของเอชทีซีเกิดขึ้นล่าช้าตามไปด้วย ทั้งหมดนี้ เอชทีซีไม่เปิดเผยรายละเอียดเหตุผลหรือปัจจัยที่ทำให้เกิดความล่าช้า แต่สื่อต่างชาติเชื่อว่าอาจจะเกิดขึ้นเพราะกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน โดยเฉพาะการใช้กรอบโลหะล้วนในการผลิตตัวเครื่อง จุดนี้เอชทีซีเคยให้ข้อมูลสำนักข่าว CNET ว่าตัวเครื่องแต่ละชิ้นต้องใช้เวลามากกว่า 200 นาทีในการตัด เจาะ และติดตั้งแต่ละชิ้นส่วน
ที่สำคัญ การดีเลย์นี้ยิ่งมีความเสี่ยงต่อเอชทีซีในแง่ของกรอบเวลา เนื่องจากคู่แข่งอย่างซัมซุง (Samsung Electronics) กำลังจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดอย่าง Galaxy S4 ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ ซึ่งอาจทำให้กระแส HTC One ถูกกลบจนไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
Company Related Link :
HTC
ที่มา: manager.co.th