หลังจากได้คัดเลือก 20 สาวงามผู้เข้าประกวดเวที “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2013” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงช่วงของการเก็บตัวทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนผู้เข้าประกวดคนอื่นๆ ในปีนี้จัดทำกิจกรรมที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 12-14 มีนาคม 2556 ประเดิมวันแรกกับไฮไลท์ของวัน นั่นก็คือการเก็บหอยมุกเอามาทำมงกุฎ สำหรับเจ้าของตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์คนล่าสุด โดยกิจกรรมเริ่มต้นเมื่อสาวงามทั้ง 20 คนมาถึงจังหวัดภูเก็ต ก็เข้าสักการะท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเดินทางต่อไปยังฟาร์มเพาะเลี้ยงหอยมุก ภูเก็ต เพิร์ล กรุ๊ป โดยชมกระบวนการผลิตกว่าจะเป็นเครื่องประดับไข่มุกอันสวยงามที่ใช้ในการประดับมงกุฎเป็นพิเศษเฉพาะปีนี้เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์การประกวด “งามอย่างมีคุณค่า และงามสู่สายตาอาเซียน”
ซึ่งทางภูเก็ต เพิร์ล กรุ๊ป ผู้ออกแบบได้นำเอาสัญลักษณ์ของอาเซียน คือ ต้นข้าวมาใช้ ซึ่งมีความหมายแทนประเทศต่างๆ ในอาเซียน และใช้ไข่มุกประดับอยู่บนยอดของต้นข้าว ทั้งหมด 11 เม็ด หมายถึง 10 ประเทศในอาเซียนรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยไข่มุกที่ใช้เป็นไข่มุกเซาท์ซี ที่ได้จากการคัดเลือกจากไข่มุกที่ผลิตได้ในปี 2012 จำนวน 2,526 เม็ด คัดเลือกตามขนาด และคุณภาพ โดยใช้เกณฑ์การคัดเลือกให้มีคุณลักษณะที่สวยงาม ประดับด้วยเพชรแท้เบลเยียมคัตทั้งหมด กว่า 1.5 กะรัต และใช้พลอยซิทรินกว่า 120 กะรัต ที่มีสีส้ม ซึ่งเปรียบเสมือนข้าวสาร จำนวน 10 เม็ด มาทำเป็นมงกุฎ
ต่อจากนั้น 20 สาวงาม เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อเข้าพบ ท่านไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จากนั้นช่วงเย็น 20 สาวงาม เดินทางไปยังถนนคนเดิน โครงการ 2O (ทูโอ โอทาวน์และโอทอป) ที่จำหน่ายสินค้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตจากฝีมือชาวบ้าน ร่วมกันตำน้ำพริกเพื่อนำไปหารายได้สมทบทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนบ้านลุงพิทักษ์ เป็นการจบกิจกรรมการเก็บตัวในวันแรกอย่างสมบูรณ์
ทั้งนี้ผู้จัดการกองประกวด “งัด สุพล วิเชียรฉาย” ได้เผยถึงแนวคิดในการจัดทำมงกุฎพิเศษครั้งนี้ว่า…
“เป็นปีแรกที่เรานำมุกมาทำมงกุฎ เพราะกว่าหอยจะได้ออกมาเป็นมุกต้องอาศัยความอดทนกว่ามันจะโต ซึ่งเรามองว่ามันมีความหมายที่ดี ซึ่งมันประจวบเหมาะกับอาเซียน เราจึงนำตรงนี้มาผสมผสานกันเป็นคอนเซ็ปต์ เราอยากให้ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มของเราหันมามองกัน มาดูแลกันและกัน”
“ซึ่งในความเป็นจริงถึงเราจะเป็นเพื่อนบ้านกัน แต่เราก็บาดหมางกันตลอดเวลา ไทยเกลียดพม่า พม่าไม่ชอบไทย ไทยไปเอาพระลาวมา ฉะนั้นปัจจุบันเราต้องหันมามองกันและกัน ทิ้งอดีตวันก่อนๆ ไปเสีย เราอยากให้นางงามในคอนเซ็ปต์อาเซียนของเรามีความจริงใจ มีน้ำใจ เปิดเผย รักใคร่ เป็นมิตรกับประเทศเพื่อนบ้าน เราอยากเปลี่ยนลุกส์ให้สาวงามของเรามีความสดใส เป็นมิตร และตั้งมั่นในความอดทนเหมือนไข่มุก”
ที่มา: manager.co.th