ชาย อานันท์ทวีป “ชาย อานันท์ทวีป” เอาจริง! หอบหลักฐาน พร้อมผู้เสียหายชาวต่างชาติ เข้าแจ้งความกองปราบเอาเรื่องไฮโซ “จิรัฐฏ์” พี่ชาย “น้ำหวาน” กิ๊ก “จิน” สามี “หนิง ปณิตา” หลังอีกฝ่ายเบี้ยวค่าจัดออแกไนซ์กว่า 1 ล้าน ปัดเอาคืนให้เพื่อนซี้หนิง ยันแค่อยากเรียกร้องความยุติธรรม มาตามนัด “ชาย อานันท์ทวีป ชยางกูร ณ อยุธยา” พร้อมทนาย “นายธนากร จันทร์เกิด” หอบหลักฐานเข้าแจ้งความกับกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับไฮโซ “จิรัฐฎ์ เพชรนันทวงศ์” เจ้าของบริษัท ไซดิคทีฟ อีลีเมนท์ จำกัด กรณีเบี้ยวเงินค่าจ้างจัดออแกไนซ์และประชาสัมพันธ์งานคอนเสิร์ตระดับโลก “Sydictive Element Electronic Dance Music Festival” ที่ หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 30-31 ธ.ค. 2555 ซึ่งตอนแรกตกลงค่าจ้างกันอยู่ที่ 2 ล้านกว่า แต่ปรากฏว่าคู่กรณีกลับจ่ายมาแค่ครึ่งเดียว พอทวงถามไปก็กลับติดต่อไม่ได้ ทั้งนี้ยังมีการจัดงานแหกตาไม่เป็นไปตามที่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์เอาไว้ สร้างความไม่พอใจให้กับคนที่ซื้อบัตรเข้าไปชมเป็นอย่างมาก โดยในวันนี้เจ้าตัวได้พาผู้เสียหายชาวรัสเซีย 1 คน ที่ได้ซื้อบัตรเข้าร่วมงานและโดนหลอกมาแจ้งความด้วย
“เราได้รับหน้าที่ถูกว่าจ้างให้มาเป็นพีอาร์ให้กับ ไซดิคทิฟ อีลีเมนท์ จำกัด ริเริ่มการจัดมหกรรมคอนเสิร์ตระดับโลก Sydictive Element Electronic Dance Music Festival งานที่จัดขึ้นที่ภูเก็ต วันที่ 30-31 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ ปารีส ฮิลตัน บิน มาเป็นแอมบาสเดอร์ให้กับบริษัทนี้ ชายได้ไปเจอกับผู้บริหารตรงนี้เลย เขาก็ติดต่อเรามาโดยตรง เราเลยเข้าไปดูว่าเราจะไปทำพีอาร์ให้เขาได้ไหม หลังจากนั้นก็พูดคุยและตกลงทำงานร่วมกัน สัญญาของเราอยู่ที่ 3 เดือน หลังจากนั้นเราก็ได้ข้อมูลลุกค้าที่ส่งรายละเอียดต่างๆ มาให้เรารับทราบ แต่เวลาผ่านไปเราก็ได้ส่งข่าวไปตามสำนักข่าวต่างๆ แต่เมื่อวันที่ 30-31 ธ.ค.ที่ผ่านมา คอนเสิร์ตมันดันไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้”
“สิ่งแรกเลยเป็นศิลปินระดับโลกชื่อเอคอนAKON ซึ่งเป็นศิลปินระดับโลกที่มีความโด่งดังมาก มีศิลปินดังๆ และก็ดีเจอีก 3 คนที่ไม่มาครับ ตรงนี้เราก็เสียแล้ว เพราะเขาไม่ได้แจ้งเราในเรื่องนี้ และในส่วนของเวทีไม่ใช่แบบเดียวกับที่เราโฆษณาประชาสัมพันธ์ไว้ เราเลยมีความรู้สึกมันเกิดอะไรขึ้น และคนที่ซื้อตั๋วบัตรวีไอพีราคาหนึ่งแสนบาทไป เป็นใบแบบพิเศษสุด ได้ที่นั่งที่พิเศษแต่สิ่งทีเกิดขึ้นคือทางเขาไปถึงแล้วเขาก็ไม่ได้รับอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มที่เขามีอยู่แบบขวดใหญ่ๆ แล้วเขาบอกว่าจะเอาไปแชร์กับคนอื่น ซึ่งคนในนั้นก็มีเยอะมากเลยครับ”
“ส่วนความเสียหายที่เกิดกับผมโดยตรงคือ ในส่วนของการว่าจ้างอยู่ที่เจ็ดหลักครับ (2 ล้านกว่า) ซึ่งเขาจ่ายไม่ครบด้วย ที่ไว้ใจทำงานด้วยเพราะคือเราไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าเขาได้เคยเอา ปารีส ฮิลตัน มาไทยแล้ว เราก็ไม่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นแบบนี้ แล้วสิ่งที่เขาพูดเขาทำไม่ได้เลย ศิลปินก็มีมาแต่ตัวใหญ่ๆ ไม่มีเลยมาไม่ได้เลย แต่เราก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกันครับ”
เมื่อถามว่าที่แจ้งมาในหมายเชิญสื่อมาทำข่าว ว่าเคสนี้เกี่ยวกับ “หนิง ปณิตา” นั้น เกี่ยวกันยังไง? เจ้าตัวก็บอกว่าคู่กรณีเป็นพี่ชายแท้ๆ ของ “น้ำหวาน” ที่ไปเป็นกิ๊กของ “จิน” สามีหนิงนั่นเอง
“ตรงนี้คือหนิงเป็นเพื่อนสินทกันมาเป็น 10 ปี แล้วก็มีเคสที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ทุกท่านคงทราบดี ว่ามันมีปัญหาในเรื่องครอบครัวของเขา ตรงนี้คนที่มีปัญหากับชายก็คือพี่ชายคุณน้ำหวาน ก็คือคุณแชมป์ จิรัฐฏ์ ซึ่งผมก็ได้คุยกับหนิงบ้างครับ ปรึกษากัน ฐานะที่เราเป็นเพื่อนกันเราก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกันนะ เพราะว่าเราก็โดนเขาก็โดน”
ลั่นที่ออกมาแจ้งความเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายทำแบบนี้ พร้อมปัดไม่รู้คู่กรณีมีปัญหาเรื่องเงิน
“อยากให้ทุกคนที่ต้องทำงาน ไม่อยากให้ใครมาทำแบบนี้ได้อีก (จริงหรือเปล่าที่ตระกูลนี้มีปัญหาด้านการเงิน?) อันนี้ผมไม่ทราบเลยครับ ก่อนหน้านี้ไม่ทราบ แต่ว่าชายได้คุยกับหลายๆ คนหลังเกิดเรื่องนี้มา งานนี้ก่อนจะมาเป็นเราก็มีปัญหาจริงๆ มีปัญหาอีกเยอะครับ”
“วันนี้ก็แจ้งคดีแพ่ง เรื่องผิดสัญญาชดใช้ค่าเสียหาย เรื่องเรียกร้อง คือมันมีผู้เสียหายหลายท่าน อย่างคนที่ซื้อบัตรไป ชายก็เป็นคนช่วยประชาสัมพันธ์งานนี้ ดังนั้นชายก็อยากจะออกมาเพื่อแถลงข่าวให้ทราบด้วยว่าความจริงคืออะไร เพราะทุกอย่างมันอยู่ในเรื่องของการจัดการ ของเจ้าของบริษัททั้งนั้นเลย”
“ก่อนหน้าเราได้เคยไกล่เกลี่ยกันครับ เราก็ได้คุยกับน้ำหวานด้วยครับ เขาก็พูดมาตลอดในลักษณะที่ว่าประวิงเวลาว่าจะจ่ายก็คือชายก็มีข้อความหรืออะไรต่างๆ ที่เขาบอกว่าจะจ่ายและแม่เขาก็จะจ่ายให้ แต่มาถึงวันนี้เขาก็ยังไม่จ่าย แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร (ใช้คำว่าโดนโกงได้ไหม?) ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ เพราะอันนี้ชายก็ไม่ทราบว่าเขาจะยังไงต่อไป”
“แล้วที่ต้องคุยกับน้ำหวานเพราะทางเราได้ติดต่อคุณแชมป์ แต่คุณแชมป์ปิดเครื่องติดต่อไม่ได้เลย โทร.หาคุณพ่อด้วย สำหรับบริษัทนี้ เจ้าของเป็นของทางครอบครัว เพชรนันทวงศ์ แล้วก็ พันธ์คงชื่น แล้วคุณน้ำหวานเขาเป็นเจ้าของด้วย เราก็เชื่อเขาประมาณหนึ่งที่เขาพูดมาในเรื่องคอนเซ็ปต์คอนเสิร์ต พอเราได้มาคุยกันดูแบบงานเราก็เลยโอเค เพราะว่าเขาก็มีความตั้งใจที่จะทำ และเราเองก็ไม่เคยที่จะเช็คประวัติการทำงานของบริษัทนี้เลย”
เรื่องเกิดตั้งแต่ปลายปี แต่เพิ่งมาเอาเรื่อง งานนี้เจ้าตัวเลยถูกมองว่าเป็นเพราะ “หนิง ปณิตา” เพิ่งมีปัญหากับครอบครัวนี้ เลยฉวยโอกาสจังหวะนี้
“ที่ปล่อยนานขนาดนี้เพราะว่ามีผู้เสียหายหลายคน กว่าจะรวบรวมให้ทุกคนเข้ามารวมตัวกันได้ค่อนข้างยาก แล้วอีกอย่างก็คือคนที่ซื้อบัตรส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ แล้วก็บินกลับไปแล้ว แต่เขาก็ยังส่งจดหมายมาที่ชายเยอะมาก”
กลัวหลายคนมองว่าเอาครอบครัว “น้ำหวาน” มาแฉหรือเปล่า เพราะตอนนี้มีกรณีกับเพื่อนซี้ “หนิง” อยู่?
“ไม่ครับ เพราะว่ามันเป็นเรื่องของชาย และชายเตรียมข้อมูลมานานแล้วที่เป็นข้อเท็จจริง จริงๆ เพราะว่าการที่ชายออกมาก็รวบรวมคนที่ซื้อบัตรไปแล้วมารวมตัวกันมันยากครับ”
ฝากชาติชาติไหนก็อย่าได้เจอกันอีกเลย
“ชาตินี้ชาติไหนก็อย่าได้เจอกันเลยครับ ไม่อยากได้เจอคนแบบนี้อีก เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอใครแบบนี้มาก่อน แล้วเราก็เป็นคนที่ต้องการให้เกิดความยุติธรรม เพราะถ้าเกิดมีคนแบบนี้เยอะๆ มันคงไม่ไหวครับ”
ซัด “น้ำหวาน” มีปัญญาซื้อรถคันละ 10 ล้าน ทั้งที่ตัวเองสร้างความเดือดร้อนไว้ให้คนอื่น
“ส่วนที่หลายคนมองว่าน้ำหวานหนีไปอเมริกาเพราะเรื่องนี้ ผมว่าไม่เกี่ยวครับ เพราะว่าเขาก็ไม่ทราบว่าเราจะมาแจ้งความ ถ้าติดตามอินสตาแกมดูท่าเขาค่อนข้างจะชีวิตมีความสุขแฮปปี้ และชายคิดว่าเขาค่อนข้างจะสบายใจ มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น เพราะชายคิดว่าการที่เราจะซื้อรถคันละ 10 กว่าล้าน อยู่ดีๆ โพสต์ลงอินสตาแกรม ทั้งๆ ที่วันนี้คุณยังมีปัญหากับอีกหลายๆ คน ที่ไม่ใช่เราคนเดียว ชายคิดว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆ ครับ”
ที่มา: manager.co.th