Author Topic: อุทาหรณ์โรคมะเร็ง: ดาราสาวจีนสิ้นลมหลังห่วงงานจนสายเกินรักษา  (Read 600 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




นักแสดงสาววัย 27 ปีชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ต้องจากไปก่อนวัยอันควรด้วยสาเหตุการป่วยเป็นมะเร็ง ซึ่งเพื่อนสนิทเปิดเผยว่า "ซ่งเหวินเฟย" เลือกที่จะทำงานแสดงก่อน จึงไม่ได้เข้ารับการรักษาอย่างทันเวลา และต้องจากไปในที่สุด
       
       รายงานข่าวจากจีนระบุว่า ซ่งเหวินเฟย วัย 27 ปี เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่บ้านในกวางโจวบ้านเกิด โดยเพื่อนสนิทในวงการของเธอที่ชื่อว่า จางหลิงซือ เป็นคนแจ้งข่าวเศร้าที่เกิดขึ้นให้ทุกคนทราบ ผ่านบล็อคของตัวเอง
       
       จางหลิงซือ ยังได้กล่าวกับรายการของ Shanghai TV เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ซ่งเหวินเฟย ตรวจพบมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกครั้งแรกในปี 2011 แต่ก็ยังพยายามทำงานเรื่อยมาจนถึงเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว โดยในตอนแรกหมอได้แนะนำให้เธอเข้ารับการผ่าตัดรักษาทันที แต่ดาราสาววัย 27 ปีกลับปฏิเสธ และเลือกที่จะกลับไปทำงานแทน
       
       ซ่งเหวินเฟย เกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 1985 ที่กวางโจว เริ่มเรียนบัลเลต์มาตั้งแต่เด็กอายุแค่ 10 ขวบ ต่อมาจึงได้เข้าวงการบันเทิง และโด่งดังขึ้นมาจากหนังชุด Dancerในปี 2008 หลังจากนั้นจึงมีงานออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงหนังชุดเรื่อง Growing Through Life ในปี 2010 ของทาง ทีวีบี ที่ตัวละครของเธอได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อยเลย จากบทรักสามเส้ากับสองพระเอกดัง หวงเห้าเจี๊ย และ หวงซ่งเจ๋อ
       
       ต่อมาจึงมีข่าวออกมาว่า ซ่งเหวินเฟย ป่วยเป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัด (Chemotherapy) ถึงสองครั้ง อย่างไรก็ตามด้วยตารางการทำงานที่ค่อนข้างยุ่ง ทำให้เธอได้รับการรักษาช้าไปถึง 4 เดือนเต็ม
       
       จางหลิงซือ กับ ซ่งเหวินเฟย เริ่มสนิทสนมกันตั้งแต่ถ่ายทำซีรีส์เรื่อง Dancer ด้วยกัน โดยเธอได้กล่าวถึงการจากไปของเพื่อนสนิทว่า "ตอนรู้ว่าตัวเองป่วย เธอคิดว่ายังพอมีเวลา และโอกาสที่จะรักษาได้ จึงเลือกที่จะถ่ายงานให้เสร็จก่อน และเลื่อนการรักษาออกไปถึง 4 เดือน แต่สุดท้ายมันก็สายเกินไป เธอเป็นคนเข้มแข็ง ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันก็คือตอนฉันแต่งงาน เธอยังดูมีกำลังใจดีอยู่เลย ทั้งพูดคุย และหัวเราะกับแขกคนอื่นไปทั่ว"
       
       โดย จางหลิงซือ ยังบอกอีกว่าเหตุผลที่ ซ่งเหวินเฟย ตัดสินใจเลือกงานแทนที่จะเป็นการเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาทันที ก็เพราะปัญหาทางการเงินของที่บ้าน ซึ่งเธอต้องการใช้เงินมาก จนไม่สามารถหยุดงานเพื่อไปรักษาตัวได้ โดยหนังเรื่องสุดท้ายที่เธอฝากฝีมือเอาไว้ก็คือ Looking for North ในปี 2012
       
       เจิ้งหง แพทย์จากโรงพยาบาลมะเร็งปักกิ่ง ได้ให้ข้อมูลว่า มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มักจะพบได้ในผู้หญิงอายุ 50 - 60 ปี ส่วนมะเร็งปากมดลูกจะพบส่วนใหญ่ในผู้หญิงอายุ 40 - 50 ปีอย่างไรก็ตามผู้หญิงอายุน้อยกว่านั้นก็ยังมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งทั้งสองประเภท จึงต้องตรวจเช็คร่างกายของตัวเองอยู่เสมอ
       
       ขณะที่ศูนย์มะเร็งแห่งชาติของจีนก็ระบุว่าในช่วงปีหลัง ๆ มีการตรวจพบมะเร็งในหญิงชาวจีนมากขึ้นเรื่อย ๆ จากเดิมที่มีจำนวนอยู่ 3.92 คนต่อผู้หญิง 100,000 คนในปี 2001 ก็เพิ่มเป็น 8.96 คนในปี 2010 และล่าสุดในปี 2012 ก็มีจำนวนสูงขึ้นมาถึง 10.1 คน
       
       ซึ่งจำนวนผู้ป่วยมะเร็งที่เพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลมาจากวิถีชีวิต และพฤติกรรมทางเพศของคนจีนที่เปลี่ยนแปลงไป จนเพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งมากขึ้นเรื่อย ๆ
       
       สำหรับกรณีของ ซ่งเหวินเฟย เธอเคยเขียนข้อความระบายความรู้สึกในบล็อคถึงความวิตกกังวลเกี่ยวปัญหาเรื่องสุขภาพของตัวเอง ซึ่งเธอเชื่อว่ามีผลมาจากความกดดันทั้งในเรื่องงาน และชีวิต
       
       และนอกจากดาราสาววัย 27 ปี แล้วฮ่องกงก็เคยต้องสูญเสียนักร้องหญิงคนดังแห่งยุค เหมยเยี่ยนฟาง ที่จากไปในปี 2003 ขณะที่เธอมีอายุเพียง 40 ปี ด้วยสาเหตุโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งในตอนนั้นได้จุดกระแสให้ผู้คนในฮ่องกงเกิดความรู้สึกหวาดกลัว จนมีการให้ความสำคัญกับการตรวจ และรักษาโรคมะเร็งขึ้นมาเช่นเดียวกัน
       
ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)