“ปู พงษ์สิทธิ์” จัดคอนเสิร์ต 25 ปีอีกรอบ หวังเล่นครั้งนี้นักเลงจะไม่เข้ามาป่วนตีกัน แนะรัฐต้องใช้กฎหมายเข้ามาดูแลอย่างจริงจังซะที พร้อมซัดเอาเวลาคิดเรื่องโง่ๆ มาแก้ไขปัญหาสังคมจะดีกว่า เม้งพวกกินแอลกอฮอล์เข้างานแตะไม่ได้ เพราะหาว่าไปล้ำเส้น ฝากบอกใครจะมาตีกันไม่ต้องมา หลังจากที่ “ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์” จัดคอนเสิร์ตครบรอบ 25 ปี ในชื่อคอนเสิร์ต “เปิดหัวใจเพื่อชีวิต 25 ปี คำภีร์ มิวสิค เฟสติวัล” ที่ลานแอคทีฟสแควร์ เมืองทองธานี เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา แต่ต้องยกเลิกด้วยเหตุวัยรุ่นตีกัน จนไม่สามารถเล่นคอนเสิร์ตต่อได้ ล่าสุดได้คิดจัดคอนเสิร์ตชดเชยให้กับแฟนคลับอีกครั้ง โดยใช้ชื่อว่า เปิดหัวใจเพื่อชีวิต 25 ปี พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ (มีหวัง) “ต้องเล่นต่อให้จบ” จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2556 ณ อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก และเตรียมการ์ดคุมเข้มชุดใหม่เชี่ยวชาญการก่อเหตุจลาจลโดยเฉพาะ ซึ่งในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ตดังกล่าว ปู พงษ์สิทธิ์ เผยว่า…
“ครั้งนี้ถ้าใครเอาหางบัตรใบเก่าไปซื้อลดให้ 200 บาทครับ หวังว่าจะไปรอด หวังว่าจะเล่นจนจบแล้วก็หวังว่าคนที่มาจะปลอดภัยมีความสุข ครั้งนี้เรามีมืออาชีพที่ชำนาญในด้านนี้ เพราะถ้าเราคิดกันเองเออเองเราไม่ชำนาญ ก็เลยขอความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้เข้ามาดูแล ครั้งนี้เราไม่ขายแอลกอฮอล์ครับ ครั้งนี้เราจะตรวจสุ่มตั้งแต่เข้าฮอลล์ไป แล้วก็ดูอาการบางท่านด้วยว่าไหวหรือเปล่า แต่เอาจริงๆ ครั้งที่แล้วไม่ได้เป็นเพราะเมา เพราะมันก็เมากันหมดทุกคนแหละ ขายเบียร์กันตั้งแต่เที่ยงบ่ายคนเขาไปเขาก็ซื้อกินกัน มันอยู่ที่คน คือกรุงเทพฯมันใกล้สื่อ พอไอ้พวกเกเรเราไปแตะนิดแตะหน่อย ก็หาว่าเราไปล้ำสิทธิ์เขา แต่เขาล้ำเราไม่มีใครเห็นหรอก”
“ส่วนเรื่องขายบัตรแพงขึ้น ถ้าพูดตรงๆ ไอ้ราคาครั้งนี้ที่มันสูงขึ้นผมไม่คิดว่าจะช่วยป้องกันถ้ามันจะมีเหตุ เพราะว่าผมเชื่อว่าคนเหล่านี้มีสตางค์ มองลงไปคนที่ก่อเหตุหน้าตามันไม่ใช่คนจน มีการศึกษามีความฉลาดเฉลียว แต่กลับเลวเพราะด้วยคุณภาพคนมันไม่เหมือนกัน ผมว่าสิ่งสำคัญสุดมันต้องมีคนบังคับใช้กฎหมาย ส่วนใหญ่พวกนี้ขึ้นโรงพักอาจารย์ก็มาขอ รุ่นพี่ก็มาขอ ตำรวจก็คนเหล่านี้ขึ้นไปอยู่บนโรงพักมันสกปรก มันรุงรังรกโรงพัก ตำรวจเขาก็รำคาญ”
ปัดไม่เกี่ยวตีกันเพราะอารมณ์เพลงมัน อยู่ที่คุณภาพของคนมากกว่า
“ถ้าคนบอกว่าอารมณ์เพลงมันได้จะบอกว่าเพลงพี่เบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย์) สนุกกว่าเพลงผมอีกไม่เห็นเคยตีกันเลย เรื่องสีเสื้อคือเรื่องนี้เรารู้อยู่แล้วว่าบ้านเรามีปัญหานี้ เรื่องสถาบันมันมีมาตั้งแต่พ่อเราเป็นวัยรุ่นนะ แต่มันไม่เคยได้รับการแก้ไข ซึ่งมันควรได้รับการแก้ไขระดับรัฐ ไม่ใช่ให้นักร้องไปห้ามคนตีกัน ไม่ใช่เรื่อง ผมไม่ได้ถูกจ้างให้ไปห้ามคนตีกัน มันควรจะโดนแก้ไขระดับรัฐ ระดับกระทรวงศึกษาฯอะไรก็ว่าไป แทนที่จะเอาเวลาไปคิดเรื่องโง่ๆ ก็เอามาทำอันนี้แก้ปัญหาให้กับสังคมดีกว่า”
พร้อมฝากบอกถ้าคิดจะมาตีไม่ต้องมา “ก็อยากจะฝากบอกกลุ่มคนที่คิดจะมาตีกัน คืออย่ามาเลย ขอความเมตตาให้คนเขาได้มามีความสุขทุกๆ คนที่มาผมคิดว่าลำบากทำงานกลางวัน เก็บเงินเก็บทองมา อยากจะมามีความสุขในเวลาสั้นๆ แค่ 2-3 ชั่วโมง ให้เขามีความสุขหน่อย ผมว่าถ้าน้องชอบความรุนแรงมันมีให้แสดงเยอะแยะไป ทำให้เหมือนคน ถ้าเราอยากต่อยกันเราก็นัดกันไปต่อยที่แน่นอน หาที่ที่ มันแน่นอนไม่มีใครมาขัดขวางมีสนามดีๆ ไม่มีใครรู้หรอก ก็ไปต่อยกันก็ทำกันไป แต่อย่าทำให้สังคมเดือดร้อน ลองไปถามประเทศเพื่อนบ้านเราเขามีแบบนี้หรือเปล่า มันสื่อถึงการด้อยพัฒนา คุณภาพของคนเรามันแย่ ส่วนคนที่จะมาดูให้รักษาสิทธิ์ของตัวเอง ถ้าไม่อย่างนั้นประเทศนี้ไม่ต้องมีคอนเสิร์ตกันแล้ว”
ที่มา: manager.co.th
