เพียงแค่ไม่ถึงปีเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดไม่ต่างกับวงการสมาร์ทโฟนที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เริ่มตั้งแต่การมาของกล้องหน้าจอสัมผัสไปถึงกล้องถ่ายภาพขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และการมาของระบบเชื่อมต่อไร้สายระหว่างกล้องถ่ายภาพดิจิตอลกับสมาร์ทโฟนที่ถือเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญในวงการถ่ายภาพอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตลอด 3-5 ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและน่าเฝ้ามองในโลกของการถ่ายภาพที่ในวันนี้เราได้รวบรวม 6 เรื่องเด่นประเด็นร้อนกับแนวโน้มการมาถึงของโลกกล้องดิจิตอลสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่กำลังคิดซื้อหากล้องดิจิตอลมาใช้งานในปีนี้
1.กล้องดิจิตอลยุคใหม่ต้องใช้จอสัมผัสได้
เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่น้อยถ้ากล้องถ่ายภาพสามารถแตะหน้าจอเพื่อโฟกัสภาพและถ่ายภาพได้ เพราะจะทำให้การใช้งานกล้องทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น แน่นอนว่ากล้องดิจิตอลหลายรุ่นตั้งแต่ปีที่แล้วสามารถใช้งานระบบสัมผัสหน้าจอได้ เช่น Panasonic LUMIX FX700 Fuji FinePix Z90 หรือ Canon IXUS 210แต่ในเรื่องประสิทธิภาพการตอบสนองต่อระบบสัมผัสหน้าจอยังทำงานได้ช้าและไม่แม่นยำเท่ากับการเลือกคำสั่งด้วยปุ่มคำสั่งแบบเดิม ทำให้ผู้ใช้กล้องในปัจจุบันยังเมินต่อการใช้งานระบบสัมผัสในกล้องถ่ายภาพดิจิตอลอยู่
แต่ในปีนี้ระบบสัมผัสหน้าจอมีการพัฒนาขึ้นและมีการนำระบบสัมผัสหลายจุด (Multi-touch) เข้ามาใช้ พร้อมปรับขนาดหน้าจอให้ใหญ่ความละเอียดต่อพิกเซลมากขึ้นโดยผู้ใช้จะมีโอกาสได้เห็นระบบสัมผัสหลายจุดกับกล้องดิจิตอลในปีนี้แทบทุกรุ่น ไล่ตั้งแต่กล้องรุ่นบุกเบิกอย่าง Sony NEX-5R Canon EOS 650D และ Canon EOS M หน้าจอสัมผัสได้ลื่นไหล ดีขึ้นและใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิม เช่น สามารถใช้นิ้วตกแต่งภาพหลังกล้อง หรือการซูมภาพด้วยการจีบนิ้วเข้าออกแบบเดียวกับสมาร์ทโฟน
2.แอนดรอยด์คาเมร่ากับทางเลือกใหม่ของนักถ่ายภาพ
ปีที่แล้ว Samsung Galaxy Camera และ Nikon Coolpix S800C สร้างปรากฏการณ์กล้องแอนดรอยด์ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ Samsung Galaxy Camera ที่ถือเป็นการยกระดับกล้องแอนดรอยด์สเปกเดียวกับสมาร์ทโฟนที่ช่วยลบข้อจำกัดของกล้องถ่ายภาพในปัจจุบันออกทั้งหมด โดยเฉพาะความสามารถในการส่งภาพผ่านอีเมล์ แก้ไขงาน ตกแต่งรูปภาพ และติดตั้งแอปพลิเคชันจากกูเกิลเพลย์สโตร์ได้ ซึ่งในปีนี้อาจจะได้เห็น Galaxy Camera เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติมในตลาด ทั้งรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า และรุ่นที่ปรับลดบางอย่างไปเพื่อให้ราคาต่ำลง จนผู้บริโภคเข้าถึงกล้องได้กว้างขึ้น
สำหรับในปีนี้กล้องแอนดรอยด์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เห็นได้จากแบรนด์อย่างโพลารอยด์ออกกล้องรุ่น IM1836 หรือพานาโซนิคที่อยู่ในขั้นตอนพัฒนากล้องแอนดรอยด์ซึ่งยังไม่มีการประกาศชื่อรุ่นออกมาในตอนนี้ จะกลายเป็นทางเลือกใหม่ของนักถ่ายภาพที่ต้องการใช้ความสามารถด้านความยืดหยุ่นแบบเดียวกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต รวมถึงการรองรับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 4G LTE และเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลไร้สายให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกล้องดิจิตอล กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือสมาร์ทโฟนได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องใช้สายซิงค์ข้อมูลต่างๆ
3. กล้องดิจิตอลเป็นหนึ่งเดียวกับสมาร์ทโฟน
ใช่ว่าแอนดรอยด์โฟนจะพลิกโลกถ่ายภาพทั้งหมดเพียงอย่างเดียว แต่ในปีนี้สมาร์ทคาเมร่าจะถือกำเนิดอย่างเต็มรูปแบบในทุกระดับตลาดอีกครั้ง อย่างล่าสุดในตลาด DSLR ระดับบน ได้ถือกำเนิด Canon EOS 6Dหรือตลาดมิลเล่อร์เลสอย่าง Sony NEX-6 Samsung NX300 หรือ Canon EOS-M ที่ล้วนแล้วแต่มีความสามารถในการใช้สมาร์ทโฟนเป็นรีโมทสั่งงานกล้องผ่านแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรีจากสโตร์ของแต่ละดีไวซ์
การสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนสามารถทำได้ตั้งแต่กดชัตเตอร์กล้องและปรับการตั้งค่าทุกส่วนของโหมดถ่ายภาพ ทำให้ผู้ใช้สามารถตั้งกล้องถ่ายภาพในมุมสร้างสรรค์ได้หลากหลายมุมมองโดยใช้การควบคุมจากสมาร์ทโฟนเป็นหลัก อีกทั้งการเชื่อมต่อระหว่างกล้องดิจิตอลกับสมาร์ทโฟนยังทำให้ผู้ใช้สามารถนำรูปจากกล้องดิจิตอลออกมาใช้งานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้อย่างอิสระ ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพและนำมาบันทึกไว้บนสมาร์ทโฟน ก่อนเข้าไปปรับแต่งรูปให้สวยงามเพื่ออัปโหลดขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือจะใช้ในการส่งไฟล์ภาพเข้าไปเก็บไว้ในระบบคลาวด์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น
4.กล้องคอมแพกต์คุณภาพสูงขึ้น
จากเดิมตลาดกล้องคอมแพกต์ขนาดเล็กจะจับกลุ่มได้เฉพาะผู้ใช้ทั่วไปและถูกเมินจากนักถ่ายภาพระดับมืออาชีพ แต่ในปีนี้กล้องคอมแพกต์จะสามารถสร้างตลาดใหม่และจับกลุ่มนักถ่ายภาพอาชีพได้ ตั้งแต่การมาของ Sony RX1 หรือ Sigma DP3 Merrillกับเทคโนโลยีเซ็นเซอร์รับภาพรูปแบบใหม่ที่ใหญ่โตเทียบเท่าฟิล์ม 35มิลลิเมตรจะถูกนำมาใช้ในกล้องคอมแพกต์เหล่านั้น ซึ่งเมื่อรวมกับชิปประมวลผลภาพในปัจจุบันที่ก้าวหน้าไปมาก ทำให้คุณภาพของภาพในกล้องดิจิตอลคอมแพกต์ที่จะวางจำหน่ายในปีนี้จะโดดเด่นและสามารถเจาะตลาดระดับมืออาชีพได้อย่างไม่ยากนัก
ส่วนตลาดคอมแพกต์ระดับล่างถึงกลางคาดว่าจะเปลี่ยนไปใช้หน้าจอสัมผัสทั้งหมดและกล้องคอมแพกต์ทุกตัวจะมาพร้อมระบบ WiFi ซึ่งจะช่วยยกระดับการใช้งานให้มีความน่าสนใจมากขึ้น อย่างเช่น Samsung 2 view และคอมแพกต์รุ่นใหม่ๆที่จะมากับระบบ WiFi แทบทั้งหมด
5.กล้องมืออาชีพปรับราคาลงต้อนรับผู้ใช้ระดับกลาง
ในปีนี้ตลาดกล้องฟูลเฟรมระดับมืออาชีพจะเกิดการตื่นตัวขึ้นอีกครั้ง เมื่อแคนนอนคลอดฟูลเฟรม EOS 6D และนิคอนออกฟูลเฟรม D600 มาทำตลาดกล้องฟูลเฟรมมืออาชีพราคาประหยัดไม่ถึงหนึ่งแสนบาทสำหรับผู้ใช้ระดับกลาง พร้อมปรับรูปทรงและการออกแบบให้เน้นในเรื่องการพกพาที่สะดวกสบายมากขึ้นรวมถึงลดสเปกภายในบางส่วน เช่นตัดฟีเจอร์ที่ไม่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ระดับมืออาชีพออกไปในขณะที่ประสิทธิภาพด้านการใช้งาน คุณภาพและมิติของภาพในรูปแบบกล้องฟูลเฟรมยังคงอยู่เหมือนเดิม
6.กำเนิดแอปสโตร์บนกล้องดิจิตอล
หัวใจสำคัญของการถ่ายภาพอีกหนึ่งอย่างก็คือการตกแต่งภาพ จากเมื่อก่อนการตกแต่งรูปต้องทำผ่านคอมพิวเตอร์ได้เพียงอย่างเดียวแต่ในปัจจุบันหลังจากการมาของสมาร์ทคาเมร่าทำให้กล้องถ่ายภาพเริ่มมีแอปสโตร์ของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น โซนี่ มีสโตร์ Sony Entertainment Network บน NEX-5R และ NEX-6 ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถซื้อหาแอป ตกแต่งภาพมาใช้งานได้ หรือแม้แต่การซื้อซอฟต์แวร์เพิ่มฟีเจอร์กล้องเช่น แอป Multi Frame NR ที่ช่วยเรื่องการลบสัญญาณรบกวน ก็สามารถหาซื้อและเรียกใช้งานได้จากแอปสโตร์ในตัวกล้องทันทีโดยไม่ต้องพึ่งคอมพิวเตอร์แต่อย่างใด
ทั้งหมดนี้เป็นแนวโน้มเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับตลาดดิจิตอลคาเมร่าในปี 2013 โดยเฉพาะการมาของสมาร์ทคาเมร่าหรือกล้องถ่ายภาพอัจฉริยะที่ในปีนี้คาดว่าจะได้เห็นทุกระดับตลาดตั้งแต่คอมแพกต์ มิลเล่อร์เลสถึงมืออาชีพ และอีกประเด็นที่น่าจับตามองตลอดปี 2013 ก็คือการถือกำเนิดของกล้องฟูลเฟรมมืออาชีพราคาประหยัดไม่ถึง 6 หมื่นบาทที่มีความเป็นไปได้สูงมาก
เทคโนโลยีและนวัตกรรมหมุนเร็วกว่าที่คาด ผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพที่ไม่อยากตกยุค ต้องรีบปรับตัวรับเทรนด์สมาร์ทคาเมร่าด่วน !!!
ที่มา: manager.co.th