Author Topic: 7 วิธี เพิ่มความเร็วง่ายๆให้แก่ Notebook สุดรัก  (Read 3720 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


7 วิธี เพิ่มความเร็วง่ายๆให้แก่ Notebook สุดรัก

การทำให้ Notebook ของทุกๆท่านกลับมาตอบสนองได้รวดเร็วดังเดิม เหมือนเพิ่ง Format เครื่องมาใหม่ๆ ไม่มีอืด ไม่มีหน่วง ให้ต้องรำคาญใจกันอีกต่อไป สำหรับ 7 วิธีที่ว่านี้มีอะไรกันบ้างเราไปติดตามชมกันเลยดีกว่าครับ


วิธีที่ 1 เพิ่มแรม เพิ่มความเร็ว !!

สำหรับในส่วนของวิธีแรกนี้เป็นวิธีที่ค่อนข้างจะนิยมกันอย่างแพร่หลาย และผมคิดว่าท่านผู้อ่านเกือบจะทั้งหมดก็คงจะรู้จักวิธีนี้กันเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นผมขอรวบรัดตัดตอนไปพูดกันถึงเรื่องประสิทธิภาพกันเลยจะดีกว่าครับ

ภาคทฤษฎี:ก่อนอื่นเรามาเริ่มกันด้วยแนวทางทางทฤษฎีกันก่อนเลยดีกว่าครับ โดยสำหรับทางด้านสรรคุณที่มีการโฆษณากันอยู่ทั่วๆไปนั้น มักจะบอกว่าการเพิ่มแรมสามารถเพิ่มความเร็วให้กับระบบของคุณได้ และนอกจากนี้ยังสามารถที่จะรันโปรแกรมขึ้นมาพร้อมๆกันได้มากกว่าเดิมอีกด้วย

ภาคปฏิบัติ:สำหรับการทดลองประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจากการอัพเกรดแรมนั้นพบว่า เวลาในการบูทระบบนั้น ทำเวลาได้ดีขึ้นกว่าเดิมเพียง 1 วินาที สำหรับ Windows XP และ 2 วินาที สำหรับ Windows Vista เท่านั้นจากการเพิ่มแรมเข้าไปอีก 1 GB แต่ความเร็วโดยรวมของระบบหลังจากการเพิ่มแรมนั้น สามารถทำได้อย่างชัดเจนกว่า คือ การเปิดโปรแกรม iTune ใน Windows Vista ก่อนการอัพเกรดแรมนั้นจะอยู่ที่ 29 วินาทีจึงจะพร้อมใช้งาน แต่หลังจากที่เพิ่มแรมเข้าไปอีก 1 GB พบว่าใช้เวลาในการเปิดเพียง 17 วินาที เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผลการ Test ในด้านของการเปิดโปรแกรมหลายๆโปรแกรมพร้อมๆกันอีกด้วย ซึ่ง แรม 1 GB นั้น สามารถเปิดได้เพียง โปรแกรมสำหรับการ chat 2 โปรแกรม, โปรแกรม Weather Bug และ Google Earth ซึ่งหากเปิดอะไรเพิ่มเติมไปมากกว่านี้ก็จะเริ่มออกอาการหน่วงให้เห็น นอกจากนี้ยังได้ทดสอบการ Zip Folder ที่มีขนาด 385 MB ซึ่งผลปรากฏว่าใช้เวลาไปทั้งหมด 1 ชั่วโมง 44 นาที พอทดสอบที่ 1 GB เสร็จแล้วเราก็จะมาลุยกันต่อโดยการเพิ่มแรมเข้าไปอีก 1 GB ผลออกมาดังนี้ครับ โดยผลทางด้านการเปิดใช้งานโปรแกรมต่างๆพร้อมกันนั้น สามารถที่จะเปิดโปรแกรมสำหรับการ chat พร้อมกัน 3 ตัว, Weather Bug, Google Earth, iTunes, World in Conflict และ Internet Explorer อีก 2 หน้าต่าง ส่วนผลการทดสอบ Zip นั้น ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที เท่านั้นครับ


วิธีที่ 2 Defrag ง่ายๆ ไม่เสียตังค์

สำหรับวิธีนี้ก็อาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นการใช้ tools ที่มากับตัววินโดวส์อยู่แล้ว หรือ tools ประเภทนี้ที่เป็นของยี่ห้ออื่นๆ ในการจัดเรียงข้อมูลบน Harddisk ใหม่ เพื่อให้ระบบสามารถเรียกใช้ข้อมูลต่างๆที่ต้องการได้รวดเร็วขึ้น ส่วนวิธีการเรียกใช้งาน Defragment ของตัว Windows นั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆครับ เพียงแค่เลือกไปที่ Start >> All Programs >> Accessories >> System Tools แล้วคลิกเพื่อเปิด Disk Defragmenter จากนั้นก็เริ่มทำการ Defrag กันได้เลยครับ

ภาคทฤษฎี: คำแนะนำในเรื่องของการ Defrag ว่าควรทำบ่อยแค่ไหนนั้น ยังไม่มีผลการทดสอบที่ออกมานำเสนอ หรือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญใดๆ ทั้งนี้เพราะว่าการเกิดการ fragment หรือการกระจัดกระจายของข้อมูลบน Harddisk ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย เช่น ความถี่ในการใช้งาน หรือ การเพิ่มและลบข้อมูลต่างๆบน Harddisk ซึ่งตรงจุดนี้เอาเป็นว่า Defrag กันอย่างน้อยเดือนละครั้งน่าจะดีที่สุดครับ

ภาคปฏิบัติ:สำหรับการทดสอบบน Windows XP นั้น พบว่าการบูทหลังจากที่ได้ทำการ Defrag ไปนั้น สามารถลดเวลาลงไปได้ถึง 35 วินาที ส่วนบน Windows Vista ใช้เวลาลดลงไป 6 วินาที นอกจากนี้ยังมีการทดสอบอีกแบบนึง โดยการสร้างไฟล์ที่ชื่อว่า “Find Me.txt” ขึ้นมาหลังจากนั้นก็ทำการซ่อนไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของ Harddisk แล้วทำการ Serch ซึ่งผลปรากฏว่าก่อนการ Defrag ใช้เวลา 22 วินาที และหลังจาก Defrag ใช้เวลาเพียงแค่ 6 วินาทีเท่านั้นครับ


วิธีที่ 3 กำจัดโปรแกรมขยะต่างๆให้สิ้นซาก !!

เครื่องคอมพิวเตอร์สมัยนี้ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนๆ ก็มักจะพบกับโปรแกรมขยะต่างๆที่มักจะแฝงตัวมาพร้อมกับโปรแกรมหลักต่างๆที่เราต้องการใช้งาน อาทิ เช่น Google Desktop, Google Tool Bar, Yahoo Tool Bar และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งใครที่เป็นบุคคลประเภท คลิก Next ไปเรื่อยๆ เวลาลงโปรแกรม มักจะมีโปรแกรมเหล่านี้มาแอบอาศัยอยู่ในเครื่องมากมายครับ ฉะนั้น เพื่อความคล่องตัวในการทำงานของตัวเครื่อง เรามากำจัดเหล่ากาฝากพวกนี้ให้สิ้นซากกันดีกว่าครับ

ภาคทฤษฎี:ตามลักษณะทั่วไปของโปรแกรมเหล่านี้ มักจะถูกบูทเองโดยอัตโนมัติทันทีที่เราเปิดเครื่องครับ และมักจะทำงานเป็น Back Ground อยู่เงียบๆ แอบกินทรัพยากรโดยเราไม่ได้เรียกใช้งานโปรแกรมเหล่านี้แม้แต่น้อย ซึ่งหากเราปล่อยให้มีโปรแกรมเหล่านี้มากๆเข้า จำนวนพื้นที่ว่างบนแรมที่จะเหลือให้เราใช้งานนั้นก็จะลดลงไปด้วย ทำให้เครื่องใช้งานแรมได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งผลที่ตามมานั่นก็คือ ช้านั่นเองครับ

ภาคปฏิบัติ:สำหรับทางแก้ของเรานั้น เราจะไปทำการดาวน์โหลดโปรแกรมที่มีชื่อว่า PC Decrapifier (www.pcdecrapifier.com) มาใช้ในการตรวจสอบว่าโปรแกรมขยะต่างๆนั้นมีอะไรบ้างและแฝงตัวอยู่ที่ไหนกันบ้าง สุดท้ายเราก็จะอาศัยโปรแกรมเหล่านี้ให้ช่วยกำจัดสิ่งไม่พึงประสงค์ต่างๆเหล่านี้ให้ออกไปจาก Notebook สุดรักของเราอย่างถาวรครับ (ถ้าไม่ไปติดตั้งใหม่) ซึ่งผลจากการ Scan หานั้นพบโปรแกรมต่างๆเหล่านี้ที่ไม่ได้มีการเรียกให้ใช้งานกำลังกินกันอย่างสนุกสนานครับ AIM6.exe (17MB ), Google Desktop Startup (17MB), Google Talk (13MB), iTunesHelper (4MB), and และอื่นๆอีกประมาณ 51MB นอกจากนี้ยังได้ Remove พวก Start-Up โปรแกรมต่างๆไปอีกมากมาย ถือว่าเป็นอีก 1 วิธีที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับ


วิธีที่ 4 ยกเครื่องให้ฟิต พิชิตจุดบกพร่อง

สำหรับวิธีที่ 4 นี้จะเป็นการอาศัยโปรแกรมที่มีหน้าที่ในการแก้ไข error ต่างๆบนเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ registry หรือ shortcut ต่างๆที่ไม่ปรากฏแล้ว ซึ่งโปรแกรมแนวๆนี้หลายๆท่านอาจจะเคยได้เห็นจากทางเว็บของเรากันบ้างแล้ว คือ http://www.notebookspec.com/2008/08oct-error+notebook.html แต่ในวันนี้ทางเราจะแนะนำโปรแกรมที่มีชื่อว่า iolo System Mechanic 7 (www.iolo.com/sm) สนนราคาอยู่ที่ $49.95 ครับ จะได้ผลลัพธ์ยังไงบ้างเราไปชมกันเลยดีกว่าครับ

ภาคทฤษฎี:สำหรับเจ้าตัว iolo System Mechanic 7 นั้นจะแก้ไขปัญหาต่างๆที่คุณอาจจะไม่สามารถทำเองได้ ซึ่งการทำงานหลักๆจะประกอบไปด้วย การซ่อมแซม Short Cut ที่เกิดอาการหาปลายทางไม่เจอ เพื่อให้คอมพิวเตอร์หยุดการค้นหาโปรแกรมต่างๆที่ไม่มี หรือได้ uninstall ไปแล้ว, การซ่อมแซมแก้ไข registry ต่างๆ ที่เกิดความเสียหาย ซึ่งมักเป็นสาเหตุให้เครื่องคอมพิวเตอร์เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เกิดอาการค้าง หรืออาจจะเปิดไม่ติดเลยในบางครั้ง

ภาคปฏิบัติ: สำหรับการทดสอบโดยการรันโปรแกรม iolo System Mechanic 7 บนเครื่อง Notebook เป้าหมายของเราที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows XP แล้วนั้นปรากฏว่าพบ error ของ registry ทั้งหมด 312 จุด นอกจากนี้ยังตรวจพบความเสียหายของตัว Harddisk อีกด้วย, พบ shortcut ที่เสียหายทั้งหมด 77 จุด และมีแรมเหลือให้ใช้งานเพียง 7% ภายหลังจากการซ่อมแซม error ต่างๆโดยโปรแกรม iolo System Mechanic 7 เรียบร้อยแล้ว พบว่า ความเร็วในการ Boot เครื่องสามารถทำเวลาได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 2 วินาที ส่วนการทดสอบบน Windows Vista ปรากฏว่าพบ error ของ registry ทั้งหมด 154 จุด นอกจากนี้ยังตรวจพบความเสียหายของตัว Harddisk อีกด้วย และพบการกระจายตัวของข้อมูลอย่างไม่เป็นระเบียบบน Harddisk คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 23% ซึ่งหลังจากการซ่อมแซม error ต่างๆโดยโปรแกรม iolo System Mechanic 7 เรียบร้อยแล้ว พบว่า ความเร็วในการ Boot เครื่องสามารถทำเวลาได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 8 วินาที


วิธีที่ 5 ยกเลิกดัชนีค้นหา ลดเวลาเรียกโปรแกรม !!

โดยปกติตั้งแต่ Windows เวอร์ชั่น XP ขึ้นไปนั้น จะมีการเปิดฟังก์ชั่น “Allow Indexing Service to index this disk for fast file searching” ในหน้าของ Disk Properties แบบอัตโนมัติ ซึ่งประโยชน์จากการใช้งานฟังก์ชั่นนี้ก็คือ จะสามารถทำให้ search หาไฟล์ต่างๆที่เราต้องการได้เร็วขึ้น แต่สิ่งที่ต้องแลกมานั่นก็คือการกินทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง ซึ่งจะส่งผลกับเครื่องแค่ไหน เราไปชมผลทดสอบกันเลยดีกว่าครับ

ภาคทฤษฎี:การ Disable ฟังก์ชั่นการใช้งาน index นี้จะเป็นการยกเลิกการทำดัชนีไฟล์ต่างๆของระบบ ซึ่งค่อนข้างกินทรพยากร และเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ช้าลงไปนั่นเอง ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่หมั่นจัดระเบียบเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว และมักที่จดจำได้ว่าไฟล์ต่างๆที่เราต้องการนั้นอยู่ที่ไหนบ้าง ก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้งานฟังก์ชั่นนี้แต่อย่างไร ซึ่งคุณสามารถปิดฟังก์ชั่นที่ว่านี้ได้โดยการ คลิกขวา Drive ที่ต้องการจะยกเลิก แล้วเลือกไปที่ Properties จากนั้นเมื่อปรากฏหน้าต่าง Disk Properties ขึ้นมาแล้ว ให้ติ๊กเอาเครื่องหมายถูกที่ช่อง “Allow Indexing Service to index this disk for fast file searching” เพียงเท่านี้ก็จะสามารถลดการบริโภคทรัพยากรลงได้แล้วล่ะครับ

ภาคปฏิบัติ: การทดสอบนั้น เราจะทำการทดสอบโดยใช้งาน Windows Vista ที่มีแรมขนาด 1 GB จากนั้นเรียกใช้งานโปรแกรมที่มีชื่อว่า World of Conflict แล้วจับเวลาตั้งแต่เริ่ม Boot จนกระทั่งเสร็จสิ้น ทั้งก่อนและหลังการยกเลิกฟังก์ชั่น index นี้ ผลปรากฏว่าเวลาสามารถทำเวลาในการ Boot ได้เร็วขึ้นถึง 10 วินาทีด้วยกันครับ


วิธีที่ 6 กำจัด Spyware กาฝากบ่อนทำลาย !!

ผมคิดว่าหลายๆคนอาจจะเคยได้ยินชื่อของ Spyware กันมาบ้างแล้ว ซึ่งเจ้าตัว Spyware นั้นนอกจากจะมีผลเสียในเรื่องของการแอบขโมยข้อมูลต่างๆแล้ว ยังทำให้เครื่องของเราทำงานช้าลงไปด้วยเนื่องจาก Spyware เหล่านี้เปรียบเสมือนกับโปรแกรมโปรแกรมหนึ่งที่ทำงานอยู่บนเครื่องของเราตลอดเวลา ทำให้ต้องสูญเสียทรัพยากรไปกับเหล่ากาฝากพวกนี้ เห็นอย่างนี้แล้วจะช้าอยู่ทำไม ไปกำจัดกันเลยดีกว่าครับ

ภาคทฤษฎี:Spyware นั้นก็คือ โปรแกรมดีๆนี่เอง ซึ่งจะแอบทำงานเป็น Background โดยคุณไม่รู้ตัวนั่นเอง ซึ่งหน้าที่ของเจ้า Spyware ก็คือคอยรายงานพฤติกรรมการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณกลับไปยัง Host ของมัน นอกจากนี้ยังบริโภคทรัพยากรบนเครื่องของคุณไปกับการทำงานที่ไร้สาระนี้อีกด้วย ว่าแล้วเราก็เลยต้องอาศัยพระเอกในวันนี้นั่นก็คือ โปรแกรม Spybot Search & Destroy (www.safer-networking.org/en) เข้ามาช่วยจัดการในการล่าล้างและทำลาย ซึ่งโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมประเภทฟรีแวร์ครับ คุณสามารถโหลดมาใช้งานได้ฟรีๆ แล้วถ้าคุณยิ่งใช้โปรแกรมนี้มากเท่าไหร่ โอกาสที่จะเจอเหล่ากาฝากประเภทนี้ก็จะลดน้อยลงเท่านั้นครับ ผมข้อแนะนำให้ scan กันอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งครับ

ภาคปฏิบัติ: จากการทดสอบบน Windows Vista แล้วนั้น ตรวจพบปัญหา 233 ข้อ ที่เกิดจากโปรแกรม Spyware15 โปรแกรม ส่วนบน Windows XP นั้น ตรวจพบปัญหา 86 ข้อ ที่เกิดจากโปรแกรม Spyware12 โปรแกรม อย่างไรก็ตามจากการทดสอบประสิทธิภาพแล้วนั้น พบว่าไม่ต่างกันระหว่างก่อนและหลังจากใช้งานโปรแกรมนี้ แต่เราก็ยังอยากจะแนะนำให้คุณใช้งานโปรแกรมเพื่อความปลอดภัยต่อข้อมูลส่วนตัวของคุณครับ


วิธีที่ 7 หยุด Background Service ที่ไม่จำเป็น

Service ต่างๆนั้นจะทำงานอยู่เป็น Background ครับ ซึ่งคล้ายๆกับการทำงานของ Spyware ซึ่งเจ้า Service ต่างๆนั้น ก็จะประกอบไปด้วยการทำงานต่างๆของคอมพิวเตอร์ที่มีทั้งแบบจำเป็นและแบบไม่จำเป็น เช่น การสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์กับ Printer, การตรวจสอบของ Windows update และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่ง Service เหล่านี้จะมีบาง Service ที่มีการทำงานแบบ Automatic คือ เริ่มทำงานตั้งแต่เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเลยทีเดียว ทั้ง Service ที่จำเป็นและไม่จำเป็น ว่าแล้วก็ไปชมวิธีเปิดปิด Service เหล่านี้กันเลยดีกว่าครับ

ภาคทฤษฎี:สำหรับการเปิดปิด Service นั้นก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงพิมพ์คำว่า “services.msc” ในช่อง Run ทั้งแบบ Windows XP และแบบ Windows Vista แล้วกด OK (หรือ Enter) ก็จะปรากฏ List ของรายการ Service ต่างๆขึ้นมา จากนั้นเพียงแค่ คลิกขวายังชื่อ Service ที่เราต้องการแก้ไข แล้วเลือกไปที่ Properties สังเกตในส่วนของ Startup Type ให้กำหนดว่าจะเป็นแบบ Manual หรือ Disable ไปเลยก็ได้ ตามแต่ที่ต้องการ ส่วนใครที่ไม่รู้ว่า Service ไหนเป็นอะไรลองไป Search ได้จาก google ครับ ส่วนผมก็จะขอแนะนำตัวอย่าง link ที่รวบรวมคำอธิบาย Service ต่างๆให้ทุกๆท่านได้เอาไปลองวิชากันตาม Link นี้เลยครับ http://premierairs.com/i/index.php?option=com_content&task=view&id=15&Itemid=2

ภาคปฏิบัติ: ผลการทดสอบจากการทดลองปิด Service ต่างๆนั้น เช่น automatic downloads ผลปรากฏว่าการทำงานโดยรวมของระบบเร็วขึ้นกว่าก่อนการปิด Service แบบสังเกตได้ นอกจากนั้นการปิด Service ในส่วนนี้ยังเป็นการเพิ่ม Bandwidth ของอินเตอร์เน็ท ทำให้สามารถdownload ได้เร็วกว่าเดิมอีกด้วยครับ เอาล่ะครับเรียกได้ว่าแบไต๋ กันไปแบบหมดไส้หมดพุงเลยทีเดียว ใครที่ทำครบทั้ง 7 วิธีที่แนะนำไป ผมเชื่อว่าคงจะเร็วขึ้นไม่มากก็น้อยเลยละครับ สำหรับวันนี้ก็คงต้องขอจบการนำเสนอ Tip เด็ดๆแต่เพียงเท่านี้ครับ ยังไงคราวหน้าผมไม่พลาดที่จะนำเอา Tip ดีๆมานำเสนอกันอีกเช่นเคยแน่นอนครับ ยังไงคุณผู้อ่านทั้งหลายก็อย่าพลาดชมกันนะครับ ^^ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
17845 Views
Last post December 19, 2010, 12:26:02 AM
by Nick
0 Replies
16409 Views
Last post March 10, 2011, 08:18:36 PM
by Nick
0 Replies
2283 Views
Last post September 23, 2011, 10:31:39 PM
by Nick
0 Replies
2168 Views
Last post October 06, 2011, 03:06:46 PM
by Nick
0 Replies
1821 Views
Last post January 05, 2012, 09:06:04 AM
by Nick
0 Replies
2076 Views
Last post January 05, 2012, 09:09:10 AM
by Nick
0 Replies
2147 Views
Last post January 08, 2012, 11:52:17 AM
by Nick
0 Replies
2213 Views
Last post August 27, 2012, 07:39:54 PM
by Nick
1 Replies
2341 Views
Last post August 10, 2018, 04:34:04 PM
by palawast
0 Replies
2465 Views
Last post August 24, 2018, 01:03:08 PM
by Nick