“นายสุขสันต์ ชูเวียง” สามีของสาวมาดบนขอให้ภรรยาฟื้นจะบวช 1 พรรษาพี่สาวของนักร้อง "สาวมาด เมกะแดนซ์""สาวมาด เมกะแดนซ์" แพทย์แถลงอาการ “สาวมาด เมกะแดนซ์” หลังเข้ารับการรักษาอาการครรภ์เป็นพิษ ทำให้ความดันโลหิตสูง จนเลือดออกทับก้านสมองต้องผ่าตัดสมอง ตอนนี้การตอบสนองดีขึ้น แต่ยังอยู่ในขั้นวิกฤต ส่วนลูกน้อยที่ต้องคลอดก่อนกำหนด เพียง 6 เดือน อาการยังน่าห่วง เนื่องจากน้ำหนักตัวน้อยมาก ต้องดูแลใกล้ชิด ด้านสามีหวังให้มีปาฏิหาริย์ พร้อมบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถ้าภรรยาฟื้นจะบวช 1 พรรษา ความคืบหน้ากรณี “สาวมาด เมกะแดนซ์” หรือ “ศรุดา วรนัทมงคล” นักร้องชื่อดัง เจ้าของเพลงฮิต “ดาวมหาลัย” เกิดอาการครรภ์เป็นพิษ ทำให้ความดันโลหิตสูง จนเลือดออกทับก้านสมองต้องหามส่งห้องไอ.ซี.ยู.โรงพยาบาลกรุงเทพ เพื่อผ่าตัดสมอง เพื่อดูดเอาเลือดออก และทำคลอดลูกสาวในครรภ์ แม้จะมีอายุครรภ์เพียง 6 เดือน ออกก่อนกำหนด ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดแถลงข่าวอาการของนักร้องสาวขึ้นที่ ที่ห้องประชุมชั้น 7 อาคารเวชศาสตร์ฟื้นฟู รพ.กรุงเทพ โดยมี นพ.กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ, นพ.ยอดรัก ประเสริฐ ศัลยแพทย์ระบบประสาท, พญ.ดลยา ศิริกังวาลกุล กุมารเวชศาสตร์ทารกแรกเกิด, นพ.ร่มไทร เลิศเพียรพิทยกุล สูติแพทย์ เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ พร้อมด้วยครอบครัวของสาวมาด ซึ่งประกอบไปด้วย “นายสุขสันต์ ชูเวียง” สามี และ พี่สาวของนักร้องสาว ร่วมแถลงด้วย
ซึ่ง นพ.กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นผู้ชี้แจงก่อนว่า…
“เราได้รับการนำส่งผู้ป่วยมาจากโรงพยาบาลที่สระบุรี มาตั้งแต่วันที่ 8 โดยอาการภาวะครรภ์เป็นพิษมีผลรุนแรง ถึงขนาดมีเลือดออกในสมอง และหมดความรู้สึกไป มาถึงที่นี่ ให้แพทย์ผู้ชำนาญการแต่ละด้านประเมินแล้วคิดว่าเป็นอันตรายถึงชีวิต ถ้าไม่มีการรักษาที่ถูกต้อง โดยการผ่าตัดสมองเพื่อบรรเทาอาการสมองบวม และผ่าตัดเพื่อยุติการตั้งครรภ์โดยการผ่าตัดนำเด็กออกมา ตัวแม่ตอนนี้อยู่ในห้องภาวะผู้ป่วยวิกฤต ซึ่งต้องดูแลผลที่ตามมาจากเดิม ซึ่งมีเลือดออกในสมอง มีเรื่องความดันโลหิตสูง มีตับเสื่อม ไตวายเบื้องต้น เม็ดเลือดผิดปกติ ตอนนี้อาการโดยรวมของทั้งหมดยังอยู่ในภาวะอันตราย แต่ก็มีแนวโน้มจะดีขึ้น ซึ่งอย่างไรก็คงต้องใช้การดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนเด็กนั้นเนื่องจากอายุครรภ์ยังไม่ครบกำหนด มีผลข้างเคียงหลายอย่าง ไม่ว่าเรื่องปอด ระบบไหลเวียนโลหิต ซึ่งก็อยู่ในภาวะวิกฤตของเด็ก ทั้งแม่และเด็กอยู่ในภาวะอันตรายอยู่ คงต้องดูแลและรายงานเป็นวันๆ ต่อไป”
“ปัจจัยอะไรที่จะทำให้อาการทรุดตัวก็คือถ้ามีเลือดออกในสมอง เรื่องความดันสูงมาก เกิดจากครรภ์เป็นพิษ ที่สมองก็ผ่าตัดเปิดสมองระบายความดันออกแล้ว ภายหลังที่ยุติการตั้งครรภ์แล้วความดันเริ่มลง ผลทั้งหมดตอนนี้เป็นผลที่มีอาการจากการเริ่มต้น ไม่ว่าเรื่องผลเลือด การทำงานของตับ ของไต รวมทั้งความสมดุลของการไหลเวียนโลหิต ส่งผลถึงมีภาวะน้ำท่วมปอด ทั้งหมดนี้มีอุปกรณ์เครื่องมือและทีมงานที่จะดูแล แต่ผลข้างเคียงเกิดได้ตลอดเวลา”
ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ จะใช้เวลารักษานานแค่ไหนจะกลับมาดีขึ้น?
“ผล ณ วันนี้ต่อไปคงขึ้นอยู่กับการดูแลสองส่วน ส่วนหนึ่งคือการดูแลของทีมแพทย์และอุปกรณ์เครื่องมือที่มีอยู่ ซึ่งเราก็มั่นใจว่าทำได้อย่างดีที่สุด ส่วนที่สองคือสภาพร่างกายด้วย แต่ละคนไม่เหมือนกัน ตอนที่มาครั้งแรกสภาพร่างกายมีอวัยวะต่างๆ ที่มีภาวะเสื่อมเกิดขึ้นแล้ว ถ้าเป็นทุกอย่างจะน่ากลัวมาก หลังจากนี้คงต้องดูไปสักพ้นสัปดาห์นี้ก่อนถึงจะพอทราบได้ ตอนนี้ถ้าตอบไปคงจะเร็วเกินไป”
ด้าน นพ.ยอดรัก ประเสริฐ ศัลยแพทย์ระบบประสาท ได้แจกแจงรายละเอียดการรักษา
“วันที่คนไข้มาถึง รพ.ระดับความรู้ตัวของคนไข้ ไม่ค่อยดี อาจเป็นเพราะว่ามีเลือดออกในสมอง เราได้นำคนไข้ไปทำการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง พบว่า มีภาวะที่มีเลือดออกในสมอง และก็สมองบวม คนไข้ถึงมีระดับความรู้ตัวผิดปกติไป ตอนแรกม่านตาค่อนข้างโต ฉะนั้น เราตัดสินใจว่าเรารอไม่ได้ เราต้องทำการผ่าตัดช่วยเหลือคนไข้และลูกให้เร็วที่สุด ก็รีบนำคนไข้ไปผ่าตัด ผ่าตัดพร้อมกันทั้งสองทีม ทีมอาจารย์ร่มไทรก็ผ่าตัดทำคลอดชีวิตเด็ก ผมก็ผ่าตัดสมองเพื่อลดแรงดันสมองนะครับ การผ่าตัดเราก็ผ่าเอาเลือดที่คั่งในสมองออก เปิดกะโหลกศีรษะเพื่อลดแรงดันสมอง หลังผ่าตัดคนไข้มีอาการตอบสนองที่ดีขึ้น ทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองหลังผ่าตัดสมองยุบลงและตอนนี้ยังคงต้องดูแลเป็นพิเศษอยู่ในห้อง ICU”
“ตอนนี้การตอบสนองทางสมองดีขึ้น แต่ว่าปัญหาที่เจอขึ้นใหม่ เราก็ทำการแก้ไขเพิ่มเติมของเดิมการทำงานของไตยังไม่เสียหายมาก ตอนนี้ไตมีปัญหามากเราก็แก้ไข เวลามีปัญหาแต่ละเรื่องเราก็แก้ไขแต่ละเรื่อง เพราะฉะนั้นปัญหาจากสมองถ้าผ่าตัดแล้วไม่มีอย่างอื่นแทรกซ้อนเลยจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นตามปกติ แบบนี้การที่หลายๆ อย่างแย่ ตับ ไตแย่ จะทำให้การฟื้นตัวของคนไข้ช้าลง แต่คงไม่ต้องผ่าตัดอีก”
“ถามว่า ถ้าหายแล้วสามารถใช้ชีวิตปกติได้ไหม คือ คนไข้กลุ่มนี้ขึ้นอยู่กับว่าหลังจากที่คนไข้หมดสติไป จนกระทั่งได้รับการผ่าตัด ลดแรงดันสมองนานแค่ไหน ถ้าเซลล์สมองไม่โดนทำลาย คนไข้ก็จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ แต่ว่าจะมีการอ่อนแรงของร่างกาย ตอนนี้ผู้ป่วยหายใจได้แต่ไม่พอ เนื่องจากสมองบวม ระดับความรู้ตัวที่น้อยลง ถ้าเราปล่อยให้คนไข้หายใจด้วยตัวเองทั้งหมดจะเกิดออกซิเจนไม่พอ และก๊าซบางตัวอาจจะคั่งทำให้ภาวะสมองบวมมากขึ้น ตอนนี้ช่วยการหายใจไปก่อน”
ทางด้าน นพ.ร่มไทร เลิศเพียรพิทยกุล สูติแพทย์ เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ เผยเพิ่มเติมว่า…
“คนไข้ตั้งครรภ์ประมาณ 6 เดือน ตรวจพบว่ามีความดันโลหิตสูงกับมีโปรตีนรั่วในปัสสาวะ วินิจฉัยว่าเป็นภาวะของครรภ์เป็นพิษขั้นรุนแรง เนื่องจากมีภาวะเลือดออดในสมองร่วมด้วย การรักษามีทางเดียวจะต้องทำการยุติการตั้งครรภ์ให้เร็วที่สุด เพราะว่าถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็จะเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมามากมาย ยกตัวอย่างเช่น ภาวะเม็ดเลือดแดงแตก ภาวะตับอักเสบ ภาวะเกล็ดเลือดต่ำก็จะรุ่นแรงมากขึ้น ช่วงแรกก่อนที่จะผ่าตัดผู้ป่วยมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ในระดับขั้นที่รุนแรง ซึ่งทางทีมแพทย์ได้แจ้งความเสี่ยงเรื่องการผ่าตัดให้ฝ่ายญาติให้รับทราบ แต่ว่าถ้าไม่ผ่าตัด หรือไม่ทำการยุติการตั้งครรภ์ทั้งแม่และลูกก็จะเสียชีวิตทั้งคู่”
“หลังจากที่เราแนะนำและให้ข้อมูลแก่ญาติ ญาติก็ยินยอม หลังจากนั้นวันนั้นก็ได้ทำการผ่าตัดทั้งสมองและเด็ก ทารกคลอดประมาณ 600 กรัม หมอก็ส่งให้กุมารแพทย์ดูแลต่อ หลังผ่าตัดอาการหลายๆ อย่างดีขึ้นอย่างที่คาดไว้ เช่น เกล็ดเลือดมีระดับดีขึ้นเรื่อยๆ ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกก็มีระดับลดลง ระดับความเข้มข้นเลือดก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ภาวะตับอักเสบดีขึ้น ตอนนี้อาการที่ยังคงต้องติดตามดูคือเรื่องไต ไต ยังทำงานได้น้อยกว่าปกติ และภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากที่ไตทำงานน้อยมีภาวะสารน้ำคั่งในร่างกาย เช่น ในปอดและในช่องท้อง ซึ่งตอนนี้ได้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไต ได้ทำการฟอกเลือดและคิดว่าในไม่ช้านี้อาการจะดีขึ้นตามลำดับ”
“คนตั้งครรภ์ทุกคนสามารถเกิดครรภ์เป็นพิษได้ทุกคน สาเหตุคือเกิดจากตัวรก มีความผิดปกติเรื่องการฝังตัวตั้งแต่การตั้งครรภ์ระยะแรกๆ มีการฝังตัวที่ไม่สมบูรณ์ทำให้ตัวเนื้อรกขาดเลือดที่ไปเลี้ยง บางส่วนจะเกิดเนื้อตาย ส่วนที่เกิดเนื้อตายก็จะหลั่งสารพิษไปทั่วร่างกาย ทำให้ผนังเส้นเลือดทั่วร่างการหดรัดตัว ทำให้ผนังเส้นเลือดเปราะบาง หมายความว่า ตัวมันไม่สามารถที่จะอุ้มน้ำได้ เลือดที่ในเส้นเลือดก็จะรั่วออกด้านนอก ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง ขบวนการนี้เป็นขบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งมักจะแสดงการหลังจาก 5 เดือนไปแล้ว สามารถเกิดได้คนที่อายุมากๆ ตั้งแต่35 ปีขึ้นไป หรือว่ามีน้ำหนักมาก มีโรคประจำตัวเช่น โรคความดัน โรคเบาหวาน หรือว่าโรคไตมาก่อน พวกนี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้รกเป็นรุนแรงและเร็วมากขึ้น ส่วนที่ผู้ป่วยเป็นทาลัสซีเมียด้วยนั้นไม่มีผลอะไร เพราะเขาเป็นชนิดที่ไม่รุนแรงและโรคนี้ไม่มีผลต่อภาวะครรภ์เป็นพิษ สามารถตั้งครรภ์ได้ตามปกติ”
พร้อมกันนี้ ในส่วนของลูกน้อยของนักร้องสาวที่คลอดก่อน พญ.ดลยา ศิริกังวาลกุล กุมารเวชศาสตร์ทารกแรกเกิด เผยว่าตอนนี้ยังน่าห่วง เนื่องจากคลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักตัวน้อยมาก
“ในส่วนของน้อง น้องคลอดก่อนกำหนดอายุครรภ์ 6 เดือน คลอดเป็นทารกเพศหญิง น้ำหนักแรกคลอด 600 กรัม ช่วงแรกเกิดน้องมีสัญญาณชีพอย่างเดียว คือมีการเต้นของหัวใจที่ค่อนข้างช้า เลยจำเป็นที่จะต้องใส่ท่อช่วยหายใจตั้งแต่แรกเกิดเลย ส่วนปัญหาหลักๆ คือ ตัวถุงลมในปอดที่มีปัญหา เรื่องปอดแฟบ ทำให้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและก็ต้องให้ยาในช่องช่วยหายใจ ในขณะนี้การรักษาของเราคือน้องยังอยู่ในตู้อบ เพราะว่าน้ำหนักตัวน้อย และใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ มีการสายสวนหลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดงบริเวณสะดือ ให้สารอาหารทางหลอดเลือดและให้เกล็ดเลือด เนื่องจากน้องมีปัญหาเรื่องเกล็ดเลือดต่ำ ให้การส่องไฟ เนื่องจากน้องมีภาวะตัวเหลืองและให้ยาฆ่าเชื้อ และมีการรักษาอาการอื่นๆ ตามอาการของน้อง ซึ่งขณะนี้อาการโดยทั่วไปของน้องคงที่ขึ้น แต่ต้องมีการเฝ้าติดตามสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากน้องคลอดก่อนกำหนดค่อนข้างเยอะและน้ำหนักตัวน้อยมาก”
เคสของน้อง มีใครที่คลอด 6 เดือนแล้วปกติไหม?
“ระยะยาวยังบอกไม่ได้ ระยะยาวจะเกิดแทรกซ้อนหรือเปล่า เพราะในเด็กที่คลอดก่อนกำหนดมันมีความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ ได้หลายอย่างเลย แต่ว่าไม่ใช่ทุกคนจะมีความผิดปกติทั้งหมด ฉะนั้น ตรงนี้เรายังคงบอกไม่ได้ว่าในอนาคตเขาจะปกติมากน้อยแค่ไหน ส่วนจะออก ICU ได้เมื่อไหร่คงต้องขึ้นอยู่กับเด็ก ระยะเวลาในการนอนโรงพยาบาลอย่างน้อย 2-3เดือนเป็นอย่างน้อย การที่เด็กจะกลับบ้านก็ต้องดูหลายอย่าง เด็กต้องถอดเครื่องช่วยหายใจได้ หายใจเองได้ รับนมเองทางปากได้ และน้ำหนักเกิน 1800-2000 กรัม”
ขณะที่ทางด้านของ “นายสุขสันต์ ชูเวียง” สามีของสาวมาด เปิดใจตอนนี้ขอให้ภรรยาฟื้น ตนจะบวชให้ 1 พรรษา
“เมื่อเช้าได้คุยกับเขาเรื่องลูก ผมบอกลูกแข็งแรงแล้วนะ รีบมาอยู่กับลูก เดี๋ยวไม่มีคนเลี้ยงลูก เขาก็นำตาซึม ตอนนี้คิดว่าเขารู้สึกได้ แต่ร่างกายคงไม่พร้อม เราคุยอะไรไปเขาคงจะรู้เรื่อง ผมบนศาลหน้าโรงพยาบาลกรุงเทพไว้ว่าถ้าเขาฟื้นผมจะบวชสัก 1 พรรษา เพราะตอนแรกรู้สึกใจเสียมากๆ หลายๆ อย่างที่คุณหมอแจ้งระบบข้างใน เรารู้สึกใจไม่ดีแล้ว รู้สึกว่าต้องเสียเขา แต่ได้ฟังคุณหมอแถลงรู้สึกกลับกัน มีความหวังว่าร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วตอนนี้ครับ”
“ส่วนลูกผมไม่ค่อยห่วง เพราะไปดูประจำก็จะแข็งแรงมาก คุณหมอบอกแข้งขาเขาจะขยับตลอด เหมือนคนออกกำลังกาย แต่คุณหมอเป็นห่วงภาวะแทรกซ้อน เพราะคลอดก่อนกำหนด ผมก็บอกให้ลูกสู้ๆ ครับ แข็งแรงมาจะได้เตรียมตัวเป็นผู้ใหญ่ อยากให้ลูกสู้ๆ ผมพูดตลอดว่าสู้เพื่อแม่ บอกคุณแม่ด้วยว่าต้องสู้ทั้งสองคนเพราะว่าผมรออยู่ครับ เขาเป็นคนตั้งชื่อลูกตั้งแต่ยังไม่คลอด ชื่อ เมธาวี ซึ่งมีความหมาย ลูกของพระแม่อุมาเทวี เพราะเราไปขอพระแม่อุมา มาครับ ชื่อเล่นแม่เขาตั้งไว้ 2 ชื่อ มีน้องเม กับ น้องแก้ม ไม่รู้จะเอาชื่ออะไรดี ก็รอคุณแม่ฟื้นกลับมาตั้งอีกทีหนึ่งครับ”
ทั้งนี้ นายทวีชัย จริยะเอี่ยมอุดม ประธานกรรมการบริษัท ท็อปไลน์ มิวสิค ต้นสังกัดนักร้องสาวเผยบริษัทจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
“ในนามของบริษัท ท็อปไลน์ไดมอนด์ ซึ่งสาวมาดเป็นศิลปินในกังสัด ทางบริษัทดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด ที่จะต้องรักษาอยู่ในโรงพยาบาลจนถึงเด็กที่จะต้องอยู่ต่อ เพราะว่าศิลปินของท็อปไลน์ทุกคนถ้ามีปัญหา บริษัทดูแลมาตลอดทุกๆ คน ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเท่าไหร่ครับ แต่ค่อนข้างจะสูง ตอนนี้จ่ายมัดจำไป 3 แสนก่อน ทาง รพ.จะแจ้งเป็นระยะๆ ว่าต้องชำระเท่าไหร่”
ที่มา: manager.co.th