เป็นปีที่เรียกได้ว่าน่าสนใจทีเดียวเมื่องานประกาศผลรางวัลแกรมมี ครั้งที่ 55 มีการประกาศกฎการแต่งตัวของบรรดาศิลปินว่าห้ามโชว์เนื้อหนังจนเกินงาม หลายคนเคารพกฎด้วยดี งานนี้ “อเดล” นักร้องสาวเมืองผู้ดี ถึงขั้นโดนแซวใส่ผ้าม่านเข้ารับรางวัลแรกของงานคว้าศิลปินป๊อปหญิงยอดเยี่ยมไปครอง เรียกได้ว่างานประกาศผลรางวัลแกรมมี ครั้งที่ 55 ปีนี้ศิลปินชายถือว่ามาแรงทีเดียว เมื่อมีชื่อเข้าชิงรางวัลสาขาใหญ่ๆ มากมายทั้ง Mumford & Sons , อินดี้ป๊อปทริโอ Fun และนักร้องอาร์แอนด์บี แฟรงค์ โอเชียน ก็ล้วนแต่มีชื่อเข้าชิงถึง 6 สาขา ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ๆ งานนี้ยังรวมถึงสาขาอัลบั้มแห่งปีด้วย
เปิดงานปีนี้ด้วยการแสดงของนักร้องสาวคันทรีป๊อปสาวสวยเทย์เลอร์ สวิฟท์ ที่เธอนำเอาคณะละครสัตว์ประกอบการแสดงของตนเองขึ้นเวทีกับเพลงฮิต We Are Never Ever Getting Back Together ซึ่งก่อนการถ่ายทอดสด เทย์เลอร์ ก็ขึ้นรับรางวัล Best Song Written For Visual Media จากผลงานเพลง Safe & Sound ที่เธอได้ร่วมงานกับ T-Bone Burnett และ The Civil Wars ซึ่งเป็นเพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Games
ทางด้านราชินีแกรมมีปีที่แล้ว ที่กวาดรางวัลใหญ่คนเดียวไปถึง 6 รางวัลอย่าง อเดล ปีนี้เจ้าตัวยังคงเป็นขวัญใจกรรมการเช่นเดิม คว้ารางวัลศิลปินเพลงป๊อปยอดเยี่ยมไปครองจากเพลง Set Fire To The Rain โดยปีนี้แฟชั่นของนักร้องสาวยังแตกต่างจากเดิมที่มักสวมชุดสีดำอยู่เสมอ โดยเจ้าตัวมาในชุดสวยสไตล์วินเทจสีแดงลายดอกไม้ จนถูกแซวว่านำผ้าม่านมาตัดชุด พร้อมยังเปิดตัวรอยสักตัวอักษร A บริเวณหลังใบหูที่เจ้าตัวมอบให้กับ แองเจโล ลูกชายคนแรกของเธอด้วย ซึ่งเธอยังให้เกียรติกล่าวถึงผู้เข้าชิงรายอื่นๆ ในสาขาเดียวกันที่นั่งอยู่ท่ามกลางผู้ชม ก่อนระบุว่า “จริงๆ แล้วเราทำงานกันหนักมาก แต่แค่ทำให้มันดูเหมือนง่ายๆ เท่านั้น”
ด้าน แครี อันเดอร์วูด นักร้องสาวสวยเจ้าแม่คันทรีอีกรายที่ปีก่อนถูกเทย์เลอร์ สวิฟท์ มาแรงแซงหน้าไปได้ มาปีนี้เจ้าตัวยังคงกลับมาทวงบัลลังก์ได้อีกครั้งคว้ารางวัล ศิลปินคันทรียอดเยี่ยมจากเพลง Blown Away ซึ่งนับเป็นศิลปินหญิงคนเดียวที่ได้เข้าชิงในสาขานี้เลยทีเดียว
โดยปีนี้ ทางผู้จัดงานแกรมมี ครั้งที่ 55 ได้ออกกฎการแต่งกาย ห้ามโชว์ ห้ามโป๊สำหรับผู้ที่ขึ้นเวที ซึ่งเจนนิเฟอร์ โลเปซ ที่เคยแหวกอกจนโดนวิจารณ์ไปทั่ว มาปีนี้เจ้าตัวเคารพกฎเป็นอย่างดี ปิดอกมิดชิด แต่ผ่าขาสูงจนถูกผู้เชิญรางวัลอีกคนอย่างพิทบูลแซวบนเวที นอกจากกฎการแต่งกายที่เรียกความสนใจจากผู้ชมให้ติดตามชมได้แล้ว ปีนี้ยังเป็นปีที่น่าสนใจเมื่อมีศิลปินหน้าใหม่รวมถึงหน้าเก่านอกสายตาเข้าชิงรางวัลใหญ่ๆ มากมาย
อย่าง เอ็ด ชีรัน นักร้องจากเมืองผู้ดี วัย 21 ปี ซึ่งขึ้นแสดงร่วมกับเอลตัน จอห์น ในเพลง The A Team ซึ่งเพลงนี้ของเขาก็ยังมีชื่อเข้าชิงเพลงแห่งปีด้วยเช่นกัน แต่ก็พลาดให้กับเพลง We Are Young ผลงานชื่อดังของศิลปินหน้าใหม่วงทริโอนิวยอร์กอินดี้ป๊อปอย่าง Fun ที่ร่วมร้องกับจาเนล โมเน ซึ่งงานครั้งนี้พวกเขายังได้ขึ้นแสดงโชว์ในเพลง Carry On พร้อมเอฟเฟกต์ฝนตก ซึ่งเปียกปอนชุ่มฉ่ำบนเวทีก่อนขึ้นรับรางวัลใหญ่
สิ่งที่น่าสนใจของปีนี้อีกอย่าง คือ มีการเพิ่มรางวัลใหม่ๆ ขึ้นมาซึ่งประกาศเป็นปีแรก เช่น สาขา Best Urban Contemporary Album อัลบั้มยอดเยี่ยมสาขานี้ก็ตกเป็นของ Channel Orange จาก Frank Ocean
ด้านร็อกเกอร์ The Black Keys ก็คว้ารางวัลกลับไปแล้วก่อนหน้าการถ่ายทอดสด 2 รางวัล กับผลงาน Lonely Boy ที่คว้ารางวัลเพลงร็อกยอดเยี่ยม และอัลบั้ม El Camino ของพวกเขาก็คว้าอัลบั้มร็อกยอดเยี่ยมแห่งปีไปเช่นกัน หลังมีชื่อเข้าชิงถึง 5 รางวัล ซึ่งรวมถึงอัลบั้มแห่งปีและบันทึกเสียงแห่งปีด้วย
ด้านวงโฟล์กจากอังกฤษอย่าง Mumford & Sons ที่ถูกจับตามองอย่างมากปีนี้ กับการมีชื่อเข้าชิงถึง 6 สาขา พวกเขาก็สามารถคว้าไปได้แล้วหนึ่งรางวัลจากสาขามิวสิกวิดีโอยาวยอดเยี่ยมในเพลง Big Easy Express ที่ร่วมงานกับ เอ็ดเวิร์ด ชาร์ป และ แมกเนติก ซีโรส์ รวมถึง Old Crow Medicine Show ก่อนที่ อเดล แชมป์เก่าปีที่แล้วที่คว้ารางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปีไปครองจะขึ้นประกาศรางวัลเดียวกันในปีนี้ ซึ่งอัลบั้ม Babel จาก Mumford & Sons ของพวกเขาก็คว้ารางวัลใหญ่ของปีไปครองปิดท้ายงาน
ทางนักร้องชาวออสซี โกทีเย วัย 32 ปี ก็คว้ารางวัลไปแล้ว 2 รางวัลจากอัลบั้ม Making Mirrors ในสาขาอัลบั้มอัลเทอร์เนทีฟยอดเยี่ยม และศิลปินเพลงป๊อปดูโอ หรือกลุ่มยอดเยี่ยมจากเพลง Somebody That I Used To Know ที่ร่วมร้องกับ คิมบรา วอลลีย์ เดอ แบ็คเกอร์ โดยเพลงนี้ยังสามารถคว้ารางวัลใหญ่ของงานอีกหนึ่งรางวัลอย่างบันทึกเสียงแห่งปีไปได้ด้วย ซึ่งได้นักร้องชื่อดัง พรินซ์ มาประกาศผลรางวัล โดยผลงานที่เข้าชิงบันทึกเสียงยอดเยี่ยมทั้งหมดปีนี้ถือว่ามีความหลากหลายมากทีเดียว
ส่วน DJ Skrillex วัย 25 ปี ที่คว้ารางวัลแกรมมีกลับบ้านไป 3 รางวัลเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ก็คว้าเพิ่มอีกกับบันทึกเสียงเพลงแดนซ์ยอดเยี่ยมและอัลบั้มเพลงแดนซ์-อิเล็กทรอนิกส์ยอดเยี่ยมจากอัลบั้ม “Bangarang”
แชมป์เก่าที่เคยคว้าสาขาอัลบั้มเพลงป็อปยอดเยี่ยมไปครองอย่างเคลลี คลากสัน ก็คว้ารางวัลสาขาเดียวกันไปครองได้สำเร็จในปีนี้จากอัลบั้ม Stronger ซึ่งเจ้าตัวขึ้นรับรางวัลด้วยสีหน้าที่คาดไม่ถึงก่อนกล่าวว่าดื่มไปเยอะพอควร พร้อมกล่าวอย่างร่าเริงแบบถ่อมตนว่าชื่นชอบและเคารพผลงานศิลปินที่เข้าชิงสาขาเดียวกันทุกคน
ด้านเจย์-ซี เจ้าพ่อแร็ปเปอร์ชื่อดังและลูกหม้อสุดฉาวอย่าง คานเย เวสต์ ก็คว้าไปแล้ว 2 รางวัลกับเพลง N****s In Paris ในสาขาศิลปินแร็ปยอดเยี่ยมและเพลงแร็ปยอดเยี่ยม ซึ่งเพลง No Church In The Wild ของพวกเขาที่ร่วมงานกับ แฟรงค์ โอเชียน และ The Dream ก็ได้รับการประกาศบนเวทีคว้ารางวัลสาขาเพลงแร็ปร่วมร้องยอดเยี่ยมไปได้ ซึ่งเพลงนี้ยังเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์จาก The Great Gatsby ด้วย ส่วนทางฟากภรรยาคนสวยของเขาที่เพิ่งเปิดการแสดงใหญ่ในงานซูเปอร์โบว์ลอย่างบียอนเซ ก็คว้ารางวัลการแสดงอาร์แอนด์บีดั้งเดิมยอดเยี่ยม ไปได้จากเพลง Love On Top
ในส่วนของอัลบั้มเพลงคันทรียอดเยี่ยมปีนี้ตกเป็นของศิลปินกลุ่มมากฝีมือที่คุ้นชื่อกันเป็นอย่างดีกับ Zac Brown Band ซึ่งผลงานอัลบั้ม Uncaged ก็เข้าตากรรมการได้สำเร็จ
ผลรางวัลแกรมมี อวอร์ดส์ ครั้งที่ 55
อัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปี - “Babel,” Mumford & Sons , Markus Dravs, producer; Robin Baynton & Ruadhri Cushnan, engineers/mixers; Bob Ludwig, mastering engineer
บันทึกเสียงยอดเยี่ยมแห่งปี - “Somebody That I Used To Know,” Gotye Featuring Kimbra Wally De Backer, producer; Wally De Backer & Francois Tetaz, engineers/mixers; William Bowden, mastering engineer
เพลงแห่งปี - “We Are Young”, Fun. Featuring Janelle Monáe
รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม - Fun
เพลงป็อปเดี่ยวยอดเยี่ยม - “Set Fire To The Rain,” Adele
ศิลปินดูโอ/กลุ่มป๊อปยอดเยี่ยมแห่งปี - “Somebody That I Used To Know,” Gotye feat. Kimbra
อัลบั้มเพลงป็อปยอดเยี่ยม - “Stronger,” Kelly Clarkson
อัลบั้มยอดเยี่ยมสาขา Best Urban Contemporary - “Channel Orange,” Frank Ocean
บันทึกเสียงเพลงแดนซ์ยอดเยี่ยม - “Bangarang,” Skrillex
อัลบั้มเพลงแดนซ์/อิเล็กทรอนิกส์ยอดเยี่ยม - Skrillex
อัลบั้มเพลงป๊อปดั้งเดิมยอดเยี่ยม - Kisses On The Bottom, Paul McCartney
เพลงฮาร์ดร็อก/เมทัลยอดเยี่ยม - “Love Bites (So Do I),” Halestorm
ศิลปินเพลงร็อกยอดเยี่ยม - “Lonely Boy,” Black Keys
เพลงร็อกยอดเยี่ยม - “Lonely Boy,” Dan Auerbach, Brian Burton, Patrick Carney
อัลบั้มร็อกยอดเยี่ยม - El Camino, the Black Keys
อัลบั้มเพลงอัลเทอร์เนทีฟยอดเยี่ยม - Making Mirrors, Gotye
เพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม - “Adorn,” Miguel
ศิลปินอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม - “Climax,” Usher
ศิลปินอาร์แอนด์บีดั้งเดิมยอดเยี่ยม - “Love On Top,” Beyonce
อัลบั้มอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม - Black Radio, Robert Glasper Experiment
ศิลปินเพลงแร็ปยอดเยี่ยม - “N****s In Paris,” Kanye West, Sean Carter
เพลงแร็ปร่วมร้องยอดเยี่ยม - “No Church In The Wild,” Jay-Z & Kanye West Featuring Frank Ocean & The-Dream
เพลงแร็ปยอดเยี่ยม - “N****s In Paris,” Kanye West, Sean Carter, Mike Dean, Chauncey Hollis
อัลบั้มแร็ปยอดเยี่ยม - Take Care, Drake
ศิลปินเดี่ยวคันทรียอดเยี่ยม - “Blown Away,” Carrie Underwood
ศิลปินดูโอ/กลุ่มคันทรียอดเยี่ยม - “Pontoon,” Little Big Town
เพลงคันทรียอดเยี่ยม - “Blown Away,” Josh Kear, Chris Tompkins (Carrie Underwood)
อัลบั้มคันทรียอดเยี่ยมแห่งปี - “Uncaged,” Zac Brown Band
อัลบั้มนิวเอจยอดเยี่ยม - Echoes of Love, Oakram
ศิลปินเดี่ยวอิมโพรไวส์แจ๊ซยอดเยี่ยม - “Hot House,” Gary Buron & Chick Corea
อัลบั้มเพลงร้องแจ๊ซยอดเยี่ยม - Radio Music Society, Esperanza Spaulding
อัลบั้มยอดเยี่ยมของโลก - The Living Room Sessions Part 1, Ravi Shankar
อัลบั้มเพลงบลูส์ยอดเยี่ยม - Locked Down, Dr. John
อัลบั้มเพลงโฟล์กยอดเยี่ยม - The Goat Rodeo Sessions, Yo-Yo Ma, Stuart Duncan, Edgar Meyer & Chris Thile
อัลบั้มเพลงประสานเสียงยอดเยี่ยม - Gravity, Lecrae
เพลงประสานเสียงยอดเยี่ยม - “Go Get It,” Mary Mary (Writer: Erica Campbell, Tina Campbell and Warryn Campbell)
อัลบั้มละตินป๊อป, ร็อก หรือ เออร์เบินยอดเยี่ยม - MTV Unplugged Deluxe Edition, Juanes
อัลบั้มละตินร็อก, เออร์เบิน หรือ อัลเทอร์เนทีฟยอดเยี่ยม - Imaginaries, Quetzal
อัลบั้มเร็กเก้ยอดเยี่ยม - Rebirth, Jimmy Cliff
มิวสิกวิดีโอสั้นยอดเยี่ยม - “We Found Love,” Rihanna feat. Calvin Harris
มิวสิกวิดีโอยาวยอดเยี่ยม - “Big Easy Express,” Mumford & Sons, Edward Sharpe & The Magnetic Zeros & Old Crow Medicine Show
ที่มา: manager.co.th
