หน้าเว็บไซต์ใหม่ของพันทิปดอทคอม พร้อมสัญลักษณ์ใหม่และตัวการ์ตูนมาสค็อตใหม่"น้องพาพัน" ผู้ก่อตั้งพันทิปดอทคอม (pantip.com) เว็บบอร์ดหรือเว็บไซต์ให้บริการกระทู้ออนไลน์ที่มีฐานผู้ใช้งานมากที่สุดของเมืองไทยยอมรับว่าการปรับโฉมเว็บไซต์ครั้งใหญ่ตั้งแต่ 1 ม.ค. 56 ที่ผ่านมาส่งให้ยอดการตั้งกระทู้ลดลง 10% ในช่วงสัปดาห์แรกของการเปลี่ยนแปลง ยืนยันพันทิปดอทคอมไม่มีแผนเข้าตลาด-ร่วมหุ้น-หาพันธมิตรต่างชาติอย่างที่หลายคนสงสัย แย้มมีแผนแจ้งเกิดหน่วยธุรกิจใหม่ซึ่งเป็นโครงการลับสุดยอดที่ผู้ก่อตั้งพันทิปดอทคอมยังให้รายละเอียดไม่ได้ นายวันฉัตร ผดุงรัตน์ ผู้ก่อตั้งพันทิปดอทคอมให้สัมภาษณ์ว่าหลังจากพันทิปฯปรับโฉมใหม่และเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ยอดการตั้งกระทู้บนเว็บไซต์มีจำนวนลดลง 8-10% ในระยะแรก แต่ยังไม่ได้ติดตามว่าตัวเลขดังกล่าวสามารถฟื้นจากวิกฤติเป็นปกติได้หรือไม่ในขณะนี้ ซึ่งส่วนตัวมั่นใจว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเมื่อผู้ใช้ปรับตัวได้
เรื่องนี้นายอภิศิลป์ ตรุงกานนท์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ พันทิปดอทคอม ยอมรับว่าผู้ใช้บางส่วนยังไม่คุ้นเคยกับระบบใหม่ โดยถูกร้องเรียนเรื่องระบบติดป้ายคำหรือ Tag ในกระทู้มากที่สุด ซึ่งพันทิปฯรับรู้ปัญหาและเร่งมือให้ความรู้แก่ผู้ใช้แล้วด้วยการส่งทีมงานพิมพ์อธิบาย และสร้างเครื่องมือเพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจได้เร็วขึ้น ทั้งการทำคลิปวิดีโอ และการเขียนบทความเผยแพร่เทคนิกการใช้งาน
อภิศิลป์ให้ข้อมูลว่าปัจจุบัน กระทู้ที่ถูกตั้งใหม่บนพันทิปฯมีจำนวนเฉลี่ยราว 4,000 กระทู้ต่อวัน เบื้องต้นพบว่าระบบใหม่ไม่มีผลทำให้การตั้งกระทู้ลดลงเมื่อเทียบกับสถิติในช่วงที่ยังใช้ระบบเดิม เชื่อว่าสถิตินี้จะคงที่แม้พันทิปฯจะมีนโยบายจำกัดการตั้งกระทู้ที่ 4 กระทู้ต่อคนต่อวัน ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ที่ตั้งพร้อมระบบเว็บใหม่เพื่อป้องกันกระทู้ขยะหรือสแปม เนื่องจากผู้ใช้ทั่วไปมักตั้งกระทู้ไม่เกิน 4 กระทู้ต่อวัน โดยอาจพิจารณาปรับเพิ่มจำนวนในอนาคต
ระบบ Tag ที่ถูกร้องเรียนนี้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติใหม่ที่ผู้ใช้พันทิปดอทคอมจะได้ใช้งาน โดย Tag คือการติดคำสั้นๆเพื่อบอกว่ากระทู้นี้เกี่ยวข้องอะไร ระบบออกแบบให้ผู้ใช้เลือกติดได้ทั้ง Tag หลักและ Tag รอง ป้ายคำเหล่านี้จะทำให้ผู้อ่านเลือกค้นหาข้อมูลได้ง่าย ซึ่งปัจจุบันพบว่ามี Tag ในระบบพันทิปฯโฉมใหม่แล้ว 7,000-8,000 Tag โดยอนาคต พันทิปฯจะต่อยอดเป็นคุณสมบัติที่ผู้ใช้สามารถสร้างห้องใหม่ที่มีเฉพาะกระทู้ที่สนใจ
"ถือว่าไม่น้อยลงนะ สัปดาห์แรกเกิดเหตุ Tag มั่ว ทำให้กระทู้ปรากฏในห้องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา เรามีทีมงานช่วยอธิบายเพื่อให้ผู้ใช้ติด Tag ให้ถูกต้อง ถือว่าวุ่นวาย คลุกคลักนิดหนึ่ง แต่เราจะพยายามปรับปรุง ซึ่ง 1 เดือนที่ผ่านมาก็เข้ารูปเข้ารอยแล้ว" อภิศิลป์กล่าว
เทงบปรับเว็บ 5 ล้านบาท ดำเนินการ 1 ปีครึ่ง
ระบบติด Tag เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงระบบข้อมูลใหม่บนพันทิปฯครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 16 ปี งบประมาณที่ใช้คือ 5 ล้านบาท ระยะเวลาพัฒนาคือ 1 ปีครึ่ง โดยพันทิปฯเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยแก้ปัญหา 2 จุดที่เป็นอุปสรรค์ของการเป็นคลังปัญญาไทยของพันทิปฯ ได้แก่ปัญหา"กระทู้ด๋อย"และปัญหา"กระทู้หาย"
คำว่า"กระทู้ด๋อย"ถูกใช้เพื่อเรียกกระทู้ยอดฮิตที่มีผู้ตอบหลายร้อยความเห็น แต่บังเอิญมีการส่งความเห็นในจังหวะเดียวกันจนทำให้บางความเห็นหายไป ขณะที่กระทู้หายหรือปัญหากระทู้หมดอายุ ซึ่งเป็นเพราะที่ผ่านมา พันทิปต้องเคลียร์กระทู้อายุหลายปีออกไปเพราะข้อจำกัดเนื้อที่จัดเก็บในระบบ
พันทิปจึงลงมือปรับโฉมระบบครั้งใหญ่ (นับเป็นเวอร์ชันที่ 3) โดยเปลี่ยนแปลงทั้งด้านซอฟต์แวร์ ระบบเก็บข้อมูล และระบบเครือข่าย พร้อมการันตีว่าระบบใหม่จะทำให้พันทิปฯสามารถขยายพื้นที่เก็บข้อมูลออกไปได้ต่อเนื่อง
หากแก้ปัญหากระทู้หายได้ พันทิปฯโฉมใหม่จะสามารถเป็นคลังความรู้ของคนไทยที่ไม่มีวันหมดอายุ เพราะผู้ใช้จะสามารถค้นหาได้ตลอดไปไม่ว่ากระทู้นั้นจะมีอายุกี่ปี
อีกเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาพันทิปฯโฉมใหม่ คือการเพิ่มความสามารถเรื่องความต้องการส่วนบุคคลให้มากขึ้น โดยพันทิปฯเชื่อว่าระบบใหม่จะทำให้่พันทิปฯเป็นชุมชนย่อยที่มีความเฉพาะเจาะจง (Micro Community) มากขึ้นกว่าที่ผ่านมาซึ่งแบ่งเป็นห้องสนทนาเท่านั้น เช่น ห้องเฉลิมไทยที่คุยเรื่องบันเทิง ผู้ใช้จะสามารถเจาะจงได้ว่าจะเลือกตั้งและอ่านกระทู้เกี่ยวกับละครที่ชอบ เป้าหมายนี้ทำให้พันทิปฯนำระบบ Tag มาใช้เพื่อให้เกิดเป็นชุมชนย่อยที่คุยเรื่องเฉพาะเจาะจงลงไป
ขณะเดียวกัน พันทิปฯระบบใหม่จะทำให้ผู้ใช้สามารถกำหนดเนื้อหาเพื่ออ่านได้ตามความสนใจ (Personalize) คุณสมบัตินี้จะเกิดขึ้นภายในปีนี้
วันฉัตร ผดุงรัตน์ ผู้ก่อตั้งพันทิปดอทคอม ยืนยันไม่เข้าตลาดหุ้น-ไม่ร่วมทุนต่างชาติ งานนี้วันฉัตรย้ำว่าโครงสร้างองค์กรของพันทิปฯจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยจะไม่มีการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติหรือแปรรูปบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากต้องการเป็นเว็บไทยพันธุ์แท้ที่ไม่บริหารโดยเน้นรายได้เป็นวัตถุประสงค์หลัก
"ไม่เข้าตลาดเพราะถ้าเข้าจะเลี่ยงคำถามเรื่องผลกำไรไม่ได้ เป้าหมายของเราอยู่ที่ความสุขของสมาชิก ที่ผ่านมา ผลงานฝั่งเราอยู่ที่ 3-5% เท่านั้น ไม่ว่าเราจะเขียนโปรแกรมหนักขนาดไหนสัดส่วนก็ไม่เกินนี้ แต่ผลงานหลักจะอยู่ที่ผู้ใช้ ที่นำความรู้เข้ามาเผยแพร่ ตรงนี้ผมพูดอยู่ตลอดว่าเราเป็นได้แค่คนสวน ทุกคนที่เข้ามาในเว็บบอร์ดต่างหากที่เป็นผู้ทำให้เกิดดอกและผล"
ปีที่ผ่านมา พันทิปดอทคอมและเว็บไซต์ในเครือ (พันทิปเน็ตเวิร์ก) มีรายได้รวมราว 70-80 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการโฆษณา สมาชิกผู้ใช้งานอยู่ที่ 7 แสนคน คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1 ล้านคนในปีนี้ โดยเพจวิวปัจจุบันมีสถิติล่าสุดที่ 9 แสนวิวต่อวัน เชื่อว่าจะเติบโตเป็น 1.3 ล้านวิวในปีนี้
นอกจากการปรับปรุงเว็บไซต์ อภิศิลป์ระบุว่าปีนี้พันทิปฯจะเบนเข็มธุรกิจไปยังกลุ่มโฆษณาบนอุปกรณ์พกพา (Mobile Ads) โดยจะให้บริการโมบายล์ไซต์ภายในปีนี้ เชื่อว่าภายใน 2 ปีจะสามารถทำรายได้จากอุปกรณ์พกพาอย่างเป็นกอบเป็นกำ
สถิติระยะเวลาการอ่านกระทู้โดยเฉลี่ยของผู้ใช้พันทิปฯในไทยคือวันละ 10 นาที ลดลงจาก 12 นาทีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จุดนี้อภิศิลป์เชื่อว่าไม่ใช่ผลกระทบจากความนิยมเครือข่ายสังคมเฟซบุ๊กของคนไทย เนื่องจากเป็นเว็บไซต์คนละวัตถุประสงค์ และที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเป็นประตูที่ทำให้ผู้ใช้เข้าสู่พันทิปฯมากขึ้นต่อเนื่อง
"เฟซบุ๊กคือการคุยกับเพื่อน แต่พันทิปฯคือการคุยกับสาธารณะ เรายอมรับว่ามีการปรับตัวให้สมัครสมาชิกพันทิปได้ง่ายขึ้น ทำให้สามารถลงชื่อใช้ด้วยชื่อบัญชีเฟซบุ๊กได้แล้ว"
วันฉัตรทิ้งท้ายว่าบริษัทกำลังมีแผนแตกหน่วยธุรกิจใหม่ เพื่อรับผิดชอบธุรกิจที่เกี่ยวกับอุปกรณ์โมบายล์ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้
ล่าสุด พันทิปฯเปิดโครงการ Use Me Again จัดประกวดสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุไอทีเหลือใช้ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 6 ก.พ.-17 พ.ค. 56 ผู้ชนะจะได้รับของรางวัลและโอกาสในการประชาสัมพันธ์บนเว็บไซต์พันทิปฯ พร้อมกับโอกาสในการรับการสนับสนุนจากพันทิปในการผลิตเพื่อจำหน่ายบน Pantip Market เว็บไซต์ตลาดนัดในเครือพันทิปเน็ตเวิร์ก
Company Related Link :
Pantip
ที่มา: manager.co.th