“รศ.ดร.เสรี” จับมือ “เจ๊เบียบ” สนับสนุนการแข่งขันจูบมาราธอนทำสถิติโลก บอกเป็นการแสดงออกความรักไม่ผิดศีลธรรม เผยปีนี้อยากให้แชมป์จูบเป็นคู่รักหญิงหญิง ปีที่ 3 แล้ว สำหรับกิจกรรม “จูบรัก มาราธอน” ที่ริบลีส์จัดขึ้นเพื่อเป็นการต้อนรับเดือนแห่งความรักเลยก็ว่าได้ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วเป็นการสร้างสถิติคู่รักชาย-ชาย ทำไว้ที่ 50 ชั่วโมง 25 นาที 1 วินาที โดยในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้มีการแถลงข่าวการแข่งขัน จูบรัก มาราธอน ปี 3 กับการแข่งขันจูบที่ยาวนานที่สุดในโลก เพื่อบันทึกสถิติ กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอรด์ งานนี้ “รศ.ดร.เสรี วงษ์มณฑา” กับ “ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช” ชูจั๊กกะแร้สนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวเต็มที่
รศ.ดร.เสรี : “เป็นที่ปรึกษาของบริษัทอยู่แล้วค่ะ”
ระเบียบรัตน์ : “ค่ะในเชิงสังคมนะคะคิดว่าเรื่องความรักมันจะต้องแสดงออก การที่ริบลีส์ทำ นอกจากทำให้ต่างประเทศได้รู้จักประเทศไทย เพราะเป็นการเรคคอร์ดระดับโลกนะคะ เป็นการแสดงให้เห็นว่าความรักมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องและควรจะแสดงออกซึ่งภาษากายไม่ใช่ว่าเรารักกันแต่ไม่แสดงออกแล้วเมื่อไหร่เราจะรู้ว่าเรารักกัน ถ้าไม่แน่จริง 50 ชั่วโมงไม่สามารถประคับประคองกันได้นะคะโดยที่เราต้องอยู่ด้วยกัน 24 ชม. มันต้องออกจากใจจริงๆ นะคะ”
รศ.ดร.เสรี : “กิจกรรมนี้ถ้าจะว่าไปแล้วเป็นกิจกรรมทั้งด้านสังคมและการตลาด การตลาดเป็นการประชาสัมพันธ์กิจกรรมของริบลีส์ และจะทำให้คนรู้จักธุรกิจนี้ดีขึ้น แต่ในเชิงสังคมนั้นคือการเปิดโอกาสให้คนที่รักกันมาแสดงความรักด้วยภาษากายในที่สาธารณะและให้ได้มีโอกาสที่จะช่วยประคับประคองเกื้อหนุนกันที่จะไปสู่ชัยชนะซึ่งการไปสู่ชัยชนะนั้นอาจจะเป็นเป้าหมายรอง แต่เป้าหมายหลักนั่นคือจะทำอย่างไรที่จะเห็นว่าเรารักกัน ช่วยเหลือกันจนกระทั่งไปสู่เป้าหมายได้”
“เป็นการประชาสัมพันธ์ทางด้านธุรกิจด้วย ขณะเดียวกัน ก็เป็นการเปิดโอกาสให้คนในสังคมให้แสดงออก ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจูบกันได้นานขนาดนั้น ปากไม่หลุดออกจากกัน ประคับประคองไม่ให้ง่วงไม่ให้เหนื่อยไม่ให้เมื่อยตลอดจนการกินการเข้าห้องน้ำ สิ่งเหล่านี้มันแสดงถึงความร่วมมือของคนที่รักกัน”
มองไม่เป็นเรื่องผิดศีลธรรม เพราะเป็นการแสดงความรักภาษากาย
ระเบียบรัตน์ : “เราไม่ได้ทำผิดศีลธรรม สิ่งที่ถูกควรจะแสดงออกนะคะ สังคมกลับกลายมองว่าประเจิดประเจ้อไม่ใช่อันนี้เราถูกต้องแล้ว แต่ที่คุณไปลับลอบได้เสียมีกิ๊กไปเที่ยวนั่นเป็นสิ่งที่ควรจะตำหนินะคะ”
รศ.ดร.เสรี : “เราไม่ได้ไปคว้าใครที่ไหนมา”
ระเบียบรัตน์ : “มันเป็นการแสดงความรักทางภาษากาย ค่ะ”
รศ.ดร.เสรี : “ถ้าไม่รักกันจริงจูบปากไม่ได้”
ระเบียบรัตน์ : “อย่างเขาไปซื้อขายบริการ นั่นจะเป็นเรื่องเพศสัมพันธ์ จะให้มานั่งจูบคงไม่ดี แต่กิจกรรมนี้เป็นการแสดงความรักที่ละเอียดอ่อนนะคะ ซึ่งแรกๆ สังคมไทยจะมองสังคมไทยไม่ให้จูบกันต่อหน้าสาธารณะ แต่เราจูบในสิ่งที่ถูกต้องหนิคะเป็นการจูบคู่ครองคู่รักกัน”
ออกปากอยากให้แชมป์จูบมาราธอนปีนี้เป็นคู่รักหญิงหญิง
รศ.ดร.เสรี : “เพราะว่ารัฐธรรมนูญยอมรับความหลากหลายทางเพศแล้วค่ะ เพราะสิ่งที่เราทำก็ไม่ได้นอกเหนือรัฐธรรมนูญ”
ระเบียบรัตน์ : “ความรักมันไม่ใช่มีแค่ 2 เพศนะ เรามองว่าชายกับหญิงเป็นสิ่งที่เรามองเห็นทั่วไป ปีนี้ระเบียบรัตน์อยากจะเห็นหญิงรักหญิงมาด้วย จะได้มีครบ เพราะปีแรกชายหญิง ปีสองชายชาย”
ดร.เสรี : “จะได้เป็นสถิติโลกเลยเพราะว่าแชมป์ทั้ง 3 ปีไม่เหมือนกันเลย"
รศ.ดร.เสรี : “สำหรับคนที่รักกันจริงอยากแสดงความรักกันและอยากลองดูว่าเราสามารถช่วยกันประคับประคองในความพยายามตรงนี้ไปถึงเป้าหมายได้อย่างไรมาลองดูสิคะมันเป็นโอกาศที่ดีมากๆ เลยนะคะถือว่าเป็นแบบฝึกหัดก็แล้วกัน”
ระเบียบรัตน์ : “ค่ะมาเติมเต็มความรักของครอบครัวนะคะ เราอยู่กันมาเราอาจจะไม่รู้ว่าเรามาความรักความผูกพันธ์กันขนาดไหน สิ่่งนี้จะเป็นสิ่งที่แสดงออกถ้าไม่รักจากหัวใจทำไม่ได้ ยืนยันนะคะเพราะว่าเข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าด้วยกัน เหนื่อย หิวก็ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน นี่คือคู่ทุกข์คู่สุขจริงๆ สมบูรณ์ค่ะ”
ที่มา: manager.co.th
