Author Topic: อดีตผู้ช่วย “เลดี้ กาก้า” ขอค่าล่วงเวลา 11 ล้านบาท-แฉโดนใช้งานเยี่ยงทาส  (Read 678 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


   “เจนนิเฟอร์ โอนีล” อดีตผู้ช่วยของ “เลดี้ กาก้า” ตัดสินใจฟ้องร้องนักร้องสาวซูเปอร์สตาร์แห่งยุค เพื่อขอค่าทำงานล่วงเวลาจำนวนเฉียด 4 แสนเหรียญฯ พร้อมอ้างว่าตัวเองต้องทำงานให้กับอดีตนายจ้างจนแทบไม่มีเวลาให้กับชีวิตของตัวเอง เคยแม้แต่ขึ้นเตียงนอนเป็นเพื่อน “เลดี้ กาก้า” มาแล้ว
       
       “ฉันต้องอยู่ข้างๆ เธอตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมง ใน 1 วัน และทั้ง 7 วันในแต่ละสัปดาห์” เจนนิเฟอร์ โอนีล วัย 42 ปี กล่าวระหว่างขึ้นให้การกับศาล ในคดีที่เธอฟ้องร้องเรียกค่าทำงานล่วงเวลาจากอดีตนายจ้างที่ชื่อว่า เลดี้ กาก้า ซึ่งเธอเคยทำงานด้วยระหว่างทัวร์คอนเสิร์ตเมื่อปี 2010 “รวมถึงการต้องนอนเตียงเดียวกับเธอด้วย เพราะเธอไม่อยากจะนอนคนเดียว” โดยข่าวระบุว่า อดีตผู้ช่วยไม่ได้อ้างว่าการ “ขึ้นเตียง” ดังกล่าวเป็นเรื่องทางเพศแต่อย่างใด
       
       โดยก่อนหน้านี้ ทาง RadarOnline.com เปิดเผยว่า เจนนิเฟอร์ โอนีล ได้เรียกร้องเงินค่าจ้างสำหรับการทำงานหนักระหว่างปี 2009-2011 เป็นจำนวน 393,000 เหรียญฯ (11.7 ล้านบาท) สำหรับการทำงานเกินเวลาถึง 7,168 ชั่วโมง จากเดิมได้ค่าจ้าง 75,000 เหรียญฯ (2.2 ล้านบาท) ต่อปี “ฉันไม่มีห้องนอนส่วนตัวในโรงแรมระหว่างการออกทัวร์ครั้งนั้นเหมือนคนอื่นด้วยซ้ำ ไม่มีใครถามว่าฉันอยากจะได้ห้องพักส่วนตัวรึเปล่า” เธอกล่าวระหว่างการไต่สวนพยานเมื่อเดือน พ.ย.ปีก่อน
       
       “เธอเคืองสุดๆ เวลาโทรศัพท์ติดต่อฉันไม่ได้ จะโกรธแล้วก็ถามฉันว่าเธอจะจ่ายค่าโรงแรมทำไมถ้าเรียกฉันไม่ได้แบบนี้” โอนีล ยังยืนยันว่าเธอทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่แทบจะต้องรับใช้ทุกอย่าง ทั้งอุ่นอาหารให้ และยังเคยโดนปลุกให้ลุกขึ้นมากลางดึก เพื่อเปลี่ยนแผ่น DVD ให้กับ เลดี้ กาก้า ผู้เป็นนายจ้าง เพียงเพราะนักร้องหญิงคนดัง ไม่อยากจะลุกขึ้นเดินไปเปลี่ยนแผ่น DVD เองเท่านั้น
       
       “ฉันแทบไม่มีความเป็นส่วนตัว, ไม่ได้พูดคุยกับครอบครัว, ไม่ได้คุยกับเพื่อนคนไหน ไม่ได้มีเซ็กส์เมื่อเริ่มรู้สึกอยากขึ้นมา ไม่มีเวลาสำหรับการทำอะไรเลย” ผู้ช่วยของ เลดี้ กาก้า กล่าว ส่วนทนายความของเธอก็เขียนในคำฟ้องว่า คดีความครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างคนดังผู้ร่ำรวย กับผู้ช่วยที่ไม่มีอะไรเลย นอกจากนั้น ก็ยังแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของบุคคลที่หลงตัวเอง จนทำอะไรโดยไม่สนใจกฎหมายใดๆ เลยด้วย
       
       แน่นอนว่า เลดี้ กาก้า ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ยืนยันว่า ลูกจ้างของเธอทำงานกันคนละอย่างมากก็แค่วันละ 8-9 ชั่วโมงเท่านั้น และเธอก็ดูแลทุกคนอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับ เจนนิเฟอร์ โอนีล ที่เธอเคยเลี้ยงอาหารสุดหรูราคามื้อละ 3,000 เหรียญฯ ให้ด้วยซ้ำไป
       
       “เธอไม่ได้มีตารางการทำงาน ประเภทเข้างานตอนเช้าเพื่อเล่น Tetris ซัก 4 ชั่วโมง แล้วก็ตอกบัตรกลับ นี่คือ งานประเภทที่เมื่อฉันต้องการ เธอก็ต้องพร้อมทันที” เลดี้ กาก้า กล่าวถึงหน้าที่ของอดีตผู้ช่วย
       
       “เธอเหมาะสมแล้วสำหรับ เงิน 75,000 เหรียญฯ (ต่อปี) ที่เราตกลงกันเอาไว้ แต่เธอจะไม่ได้เงินมากกว่านั้นอีกแม้แต่เพนนีเดียว” เลดี้ กาก้า ยังเล่าว่าเธอเลิกจ้างผู้ช่วยคนนี้ หลังพบว่า โอนีล นอนหลับอยู่บนเตียงในเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ซึ่งมีอยู่เพียงแค่ 2 เตียง ระหว่างเที่ยวบินไปปารีส ซึ่งนักร้องคนดังบอกว่ารับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ “ผู้ช่วยส่วนใหญ่ของฉันจะยกเตียงให้กับแม่ หรือไม่ก็คนในครอบครัวของฉันเสมอ เจนนิเฟอร์ เป็นคนแรกที่ไม่เคยยกเตียงให้ใคร แต่จองไว้สำหรับตัวเองตลอด” หรือบางครั้งก็ไม่ยอมแบ่งหมอนบนเครื่องบินให้กับแขกคนอื่นด้วยซ้ำ
       
       เลดี้ กาก้า ยังบอกอีกว่า เจนนิเฟอร์ โอนีล คนนี้เป็นเพื่อน ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ตัวของเธอเองอายุ 19 ปี ซึ่งทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นยิ่งน่าเศร้าขึ้นไปอีก “ตอนนั้นฉันพูดว่า “เจนนิเฟอร์ แบบนี้ไม่เหมาะสมเลย” แต่เธอก็ทำเหมือนว่า “ฉันจะได้อะไรในฐานะรุ่นใหญ่ ที่อยู่กับเธอมามากกว่าใคร เป็นเพื่อนของเธอด้วยไม่ได้เหรอ?” ซึ่งฉันจำคำพูดได้แม่นเลยค่ะ เพราะถ้าเธอเป็นเพื่อนฉันและพูดออกมาว่า “ฉันเป็นเพื่อนของเธอนะ ทำไมจะได้ที่พิเศษบนเครื่องบินไม่ได้” สิ่งแรกที่ฉันคิดออกมาทันทีก็คือ “คิดแบบนี้เธอไม่ใช่เพื่อนฉันแน่ๆ””

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)