“ชิน” ลั่นมีดีพอไม่เป็นตัวเลือก “มิน” รับมีหลายคนเตือนมินมีหนุ่มคุยด้วยเยอะ แต่ตนไม่สนใจ บอกถ้าชอบใครแล้วก็คือชอบ จะยอมหยุดก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายมีแฟน ถูกมองว่าเป็นหนุ่มๆ ในสต๊อกของนางเอกสาว “มิน พีชญา วัฒนามนตรี” ทำเอาหนุ่ม “ชิน ชินวุฒิ” ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก โดยเจ้าตอบบอกว่าตนมีดีพอที่จะไม่ต้องเป็นตัวเลือกของใคร พร้อมป้องสาวมินว่าอีกฝ่ายก็ไม่คิดว่าจะเอาหนุ่มๆ ที่มีข่าวด้วยเป็นตัวเลือกเหมือนกัน
“ผมโอเคนะ แฮปปี้กับสิ่งที่เป็นอยู่ เพราะว่าเราคุยกันสบายและคุยกันสนุกๆ และเขาก็เป็นคนสนุกโก๊ะๆ อยู่แล้ว เวลาไลน์ตอบกันก็เฮฮาอยู่แล้ว เล่นมุขได้แซวได้ ค่อนข้างเป็นสถานะที่ดีเพราะเราสบายใจที่จะคุยและรู้จัก ผมเองก็พูดเสมอว่าสุดท้ายแล้วถ้าไม่ได้เป็นกันเราก็ได้เพื่อนที่ดีมา เขาพูดชัดเจนว่าผมเองและทุกคนที่เป็นข่าวด้วยไม่ได้เป็นตัวเลือกของเขา ผมไม่ยอมเป็นตัวเลือกใครครับ และผมก็ไม่ได้เป็นตัวเลือก ผมก็มีดีของผม”
“ถามผมว่ามีความหวังไหม มันก็มีความหวังอยู่แล้ว แต่ผมชอบนะที่เขาพูดมาตลอด และในความรู้สึกว่าผู้หญิงที่มีตัวเลือกนี่จะดูไม่ดีและแรงเลยทันที และเขาเองก็คงไม่อยากให้ใครมาเป็นตัวเลือกเพราะเขาไม่ได้เลือกใคร ไม่ได้เก็บไว้ว่าฉันมีเยอะไหม ผมไม่ได้ถามเขานะ แต่เรารู้ว่าเขาเป็นยังไง ผมรู้สึกว่าผู้หญิงแบบเขาไม่ใช่คนที่จะมานั่งเก็บสต็อก”
“ผมไม่เคยพูดตรงๆ นะว่าผมรออยู่ ผมว่ามันดูแรงไปนิดนึง ถ้าเราจะพูดว่า มินเรารอมินคนเดียวนะ มันจะแรงไปนิดนึง ดูโผงผาง ส่วนตัวถามว่ารอไหม สำหรับถ้าเราแฮปปี้กับสิ่งที่เราทำหรือว่าคุยด้วยแล้วมันก็พอแหละ ตั้งแต่วันแรกที่มีข่าวหรือว่ามีคนมาถาม ก็มีคนพูดว่ามินมีคนคุยด้วยเยอะนะ ทุกคนรู้ว่าพูดยังไงก็ไม่เข้าหัวผมครับ ยังไงถ้าผมเลือกแล้วก็คือแบบนั้น ถ้าชอบใครแล้วก็จะชอบ เพราะผมเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว ก็ดูว่าถ้าวันนึงผมหยุดเมื่อไหร่ก็จะบอกเอง แต่ตอนนี้ก็ยังคุยอยู่ ผมมีความรู้สึกว่าเราได้รู้จักคนนึงที่เราสบายใจ และเป็นคนดีน่ารู้จักไว้ ท้ายสุดแล้วที่ผมพูดเสมอคือแม้ไม่ได้เป็นแฟน แต่เขาเป็นคนดีที่เราได้รู้จัก และถ้าวันนึงเราได้ร่วมงานกัน การรู้จักคนในวงการดีๆ แบบนี้หายาก”
“ที่ผมยังใจเย็นเพราะด้วยความเราอยากรู้จักเขาและปลื้มมานานมากแล้ว ประมาณ 2 ปี แล้ว ปลื้มแบบสวย น่ารัก น่ารู้จัก และมันจะมีแบบที่เราอยากรู้จัก แล้วพอรู้จักมันจะรู้สึกว่าไม่ใช่ แต่พอคนนี้ได้รู้จักและรู้สึกว่าเป็นคนดีจริงๆ ผมไม่ได้รีบมีแฟนครับ ทุกวันนี้ผมทำงานอยู่กับครอบครัว เพื่อน ก็ไม่มีเวลาแล้ว แต่อยากที่บอกว่าได้คุยกับเค้าแล้ว ได้รีแลกซ์และได้ผ่อนคลาย ผมจะหยุดก็ต่อเมื่อถ้าเขามีแฟน ในจุดนั้นแล้วเราจะไปต่อทำไม”
ที่มา: manager.co.th