Author Topic: “หมออ้อย” คว้ารางวัลคนดี จาก “พระกินรี” ยันตนสมควรได้เพราะทำบุญเยอะ  (Read 590 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


     “หมออ้อย” คว้ารางวัล “พระกินรี” รางวัลที่มอบให้กับ คนดี คิดดี และทำคุณประโยชน์ให้สังคม เผยที่ผ่านมาตนเดินสายทำบุญบ่อยแต่คนไม่รู้เพราะไม่ชอบออกสื่อ ดีใจที่มีคนเห็นทำให้มีกำลังใจว่าทำดีบางทีก็ไม่ได้ปิดทองหลังพระเสมอไป ไม่สนกระแสวิจารณ์ไม่คู่ควรรางวัล แย้งอย่ามองคนที่เปลือกนอก ลั่นถึงจะแต่งตัวโป๊แต่ก็รักษาศีล 5
                 
        ถึงก่อนหน้านี้ “หมออ้อย เรือตรีหญิงจุฑารัตน์ เทียมสุวรรณ” จะมีข่าวฉาวออกมาเรื่อยๆ รวมถึงภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูจะแรงทั้งคำพูดและการแต่งตัวที่วาบหวิวจนโดนด่ามานับครั้งไม่ถ้วน แต่เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าตัวกลับได้รับรางวัล “พระกินรี” สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ญสส.) คนดี คิดดี สังคมดี ตามรอยพระยุคลบาท จัดโดยสมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (สว.นท) ซึ่งได้ทำการคัดเลือกบุคคลที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ชีวิตครอบครัวและสร้างผลประโยชน์ตอบแทนคืนแก่สังคมและแผ่นดินในรูปแบบต่างๆ สมควรเป็นแบบอย่างที่ดี ซึ่งจัดขึ้นที่หอประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โดยในงานมีคนดังที่ได้รับรางวัลมากมาย อาทิ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์, ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ สวัสดี, เคลลี่ รัฐพงศ์ ธนะพัฒน์, กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล, ยิปโซ รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์, เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี, พิชญ์ กาไชย ฯลฯ
       
       งานนี้เลยเลี่ยงไม่ได้ที่หมออ้อยจะโดนค่อนแคะว่าไม่ควรคู่กับรางวัล ซึ่งกับเรื่องนี้เจ้าตัวได้ออกโรงชี้แจงว่าได้เพราะตนเป็นคนทำบุญเยอะ ช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด เพียงไม่ได้ออกสื่อเท่านั้นเอง แย้งอย่ามองคนแค่เปลือกนอก
                 
       “วันนี้มารับรางวัลพระกินรีเราได้ช่วยเหลือเกี่ยวกับการทำบุญอยู่แล้วตามสังคม และทุกคนคงจะรู้ว่าเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่จะมีสื่อตามทำข่าวออกมา แต่เราคิดว่าการทำบุญมันอยู่ที่ความรู้สึกส่วนตัวมากกว่าก็คืออยากทำ และมีความสุขกับการทำบุญมาตลอด แต่ไม่ให้ใครรู้แต่บังเอิญคนที่เห็นชีวิตของเรามาตลอดระยะเวลาหลายๆ ปีที่อยู่ในวงการบันเทิงโดยที่ไปร่วมการทำบุญหลายๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นการดูแลในสถานพินิจ แล้วตอนนี้ก็เป็นประธานศาลพินิจอยู่ที่กาญจนาภิเษก หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ดูแลเด็กในสถานพินิจที่อยู่แถวกันตนาไปดูแลเป็นวิทยากร แล้วก็ไปเอาของไปสนับสนุนในวันเด็ก”
                 
       “นอกจากนี้ก็ได้ช่วยเหลือนำเงินที่ได้จากการบริจาคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการจัดงานต่างๆ หรือว่าเงินทำบุญ อย่างถ้าเรามีเงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์ เงินส่วนหนึ่งเราก็จะนำไปซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลพระมงกุฎ ซึ่งเราก็ทำไปแล้วเมื่องานคนดีศรีสยามที่มาเป็นพิธีกร แล้วก็ร่วมนำเงินที่ได้จากการสนับสนุนการจัดงานไปซื้อเครื่องมือแพทย์ เป็นหน้ากากอนามัยกันฝุ่นสำหรับหมอพยาบาลหรือว่าตำรวจให้กับโรงพยาบาลที่นนทบุรี คือโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าที่ผ่านมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว”
                 
       ดีใจมีคนเห็นที่ให้รู้ว่าบางทีการทำดีของตนก็ไม่ได้ปิดทองหลังพระเสมอไป
       “ซึ่งมีภาพการประชาสัมพันธ์ชัดเจน เพียงแต่ว่าเราไม่ได้ออกสื่อ คือว่างก็จะไป แต่คนในจะเห็นมาตลอด เขาเลยเล็งเห็นว่าเราควรได้ ควรได้ในฐานะที่เราอยู่ในสังคมและเราทำบุญโดยที่ไม่ต้องหวังว่าจะได้หน้า เพราะว่าเราเป็นคน คือเราเคยมีความรู้สึกว่าบางคนทำบุญเยอะๆ แต่ใจไม่ได้ทำ แล้วทำเพื่อให้มีชื่อตัวเองแล้วมาเสนอรับนู่นนี่นั่น เราเลยคิดว่าการทำบุญไม่จำเป็นที่จะต้องบอกสื่อทุกครั้ง เพราะฉะนั้นเวลาเราทำบุญเราไม่ชอบออกสื่อ แล้วผู้ใหญ่โทรมาบอกว่าสิ่งที่เราทำไม่ได้หายไปจากกาลเวลา มีคนแอบรู้ในสิ่งที่ทำ มีคนแอบเห็น เลยให้รางวัลนี้แก่เรา ซึ่งก็สร้างความดีใจ และปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมากว่าอย่างน้อย การทำดีไม่ได้ปิดทองหลังพระเสมอไป”
                 
       “ยังคิดว่าเออเราทำดีปิดทองหลังพระมาตลอดเวลา มีแต่ว่าว่าตำหนิเรื่องนู้นเรื่องนี้เรื่องนั้น ซึ่งเราก็เป็นมนุษย์นะ มันยังไม่บรรลุมันก็ต้องมีรักโลภ โกรธหลง บางทีสิ่งดีๆ ที่เราทำมันก็ท้อเหมือนกัน ว่าทำไมเราทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคมตั้งเยอะแยะ แต่อย่างว่าสังคม แต่ครั้งนี้เออมีคนเห็น พระเจ้าเห็น ฟ้ามีตา ก็เลยเป็นกำลังใจให้เราต้องทำความดีต่อไป ถึงแม้จะไม่มีใครเห็นก็ตาม”
                 
        บอกทำบุญมาจนคนที่เคยทำเชื่อใจ ถึงภายลักษณ์จะติดลบ วอนอย่ามองคนที่ภายนอก
       “ถามอย่างหนึ่งทำไมหมอต้องใส่แว่น ต้องใส่เสื้อกาวน์ คุณหมอจะแต่งตัวแบบคุณหมอพรทิพย์ ทำผมเป็นสี แต่สร้างความดีความงามได้ไหม ได้ ทำไมคนดีจะต้องใส่ชุดคอจีน ใส่ชุดแม่ชี คนชั่วใส่ชุดแม่ชีได้ไหม แอ๊บใส่ชุดพระก็มี บางทีไปขอเงินตามถนนแล้วบอกตัวเองเป็นพระ คือเครื่องแบบไม่ได้บ่งบอกว่าคุณดีหรือไม่ดี เครื่องแบบเป็นเพียงสิ่งที่บอกว่าคุณต้องอยู่ในบรรทัดฐานของคนดี”
       
       “แต่เราเป็นผู้หญิงยุคใหม่จะไม่บอกคนอื่นว่าฉันดีจากภายนอก ฉันเป็นของฉันแบบนี้ แต่หนึ่งฉันรักษาศีล 5 ฉันไม่เอาเปรียบคนอื่น ฉันไม่ได้ทำความเดือนร้อนให้คนอื่น ศีล5 คนทำให้ได้ หนึ่งไม่ลักทรัพย์ ไม่ผิดลูกผิดเมีย หรือไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่พูดเพ้อเจ้อไม่พูดปด ไม่สุราเมระยะ ถ้าคุณทำ 5 ข้อนี้ได้คุณเป็นคนดี 5 ข้อไม่เยอะ แต่ไม่มีใครทำได้ครบ 5 ข้อ เพราะฉะนั้นลองทำดี สิ่งดีๆ ไม่ใช่เรื่องยาก เราทำดีได้ไม่เห็นจะยากเลย ไม่ได้เดือดร้อนด้วย”
                 
       “ถามว่าเรามีแฟนแล้วไปแย่งแฟนคนอื่นเขาเนี่ย เหนื่อยไหม เหนื่อยนะ เขาจะจับได้ไหม เขาจะไปอยู่บ้านไหน เขาจะไปอยู่กับใครเครียด แต่ถ้าเรารู้ว่ามีแฟนเราไม่เอาสักอย่าง เราไม่ผิดข้อกาเม สมมติโกหกบอกว่าเนี่ยที่บ้านฉันมีบ้านใหญ่ 40 ล้าน ฉันมีธุรกิจ แต่ว่าไม่มี แล้ววันหนึ่งนักข่าวบอกพี่หนูอยากไปเยี่ยมบ้าน หมออ้อยทำยังไงล่ะ เครียดต้องไปหาเช่าบ้านไปซื้อบ้านเพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่ผิดศีล 5 ข้อ การทำดีไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ว่าคุณคิดว่าการทำดีมันยาก เราก็เลยคิดว่าเราใช้ชีวิตปกติ”
       
       “เคยเห็นเรามีสื่อบอกไหมว่าหมออ้อยแย่งแฟนไหม ไม่มี ขโมยทรัพย์สินไหม ไม่มี เป็นเมียน้อยใครไหม ไม่มี เพียงแค่แต่งตัวและข่าวที่ออกมาทำไมเราจะแต่งตัวไม่ได้ เราจะเป็นตัวของเราไม่ได้ อย่ามองกันที่ภายนอกค่ะ งานไหนก็จะแต่งตัวเซ็กซี่แบบนี้เพราะว่ามันเป็นตัวตนของเราค่ะ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)