หมอแถลง “ทาทา” อาหารเป็นพิษ เพราะกินสตูไก่ค้าง 3 วัน ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องอยู่ ICU เผยอีก 3 วันกลับบ้านได้ ด้านแฟนหนุ่มชาวโรมาเนีย “วิค” สุดห่วงคอยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด หลังเมื่อวานที่ผ่านมา นักร้องดัง “ทาทา ยัง” ถูกหามส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน เนื่องจากมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง หายใจติดขัด และมีไข้สูง ทำเอาแฟนคลับใจหายใจคว่ำด้วยความเป็นห่วง ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันนี้ (28 ม.ค.) ได้มีการเปิดแถลงข่าวความคืบหน้าอาการของนักร้องสาวขึ้น ที่อาคาร 2 ชั้น 6 รพ.สมิติเวช สุขุมวิท 49 โดยมี นพ.จิตจำลอง หะริณสุต รอง ผอ.รพ.สมิติเวช, นพ.ณัฐวุฒิ สิริมนตาภรณ์ แพทย์อายุรกรรมสาขาโรคระบบทางเดินอาหารและตับ, นพ. สุรสฤษดิ์ ขาวละออ อายุรแพทย์สาขาโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันทางคลินิก และ น.ส.ฐิตามินทร์ เฟื่องอารมณ์ ญาติของทาทา ร่วมแถลงข่าว ทั้งนี้ นพ.จิตจำลอง หะริณสุต ได้เป็นผู้เผยถึงอาการและการรักษาทาทาก่อนว่า...
“เมื่อวานนี้ตอนช่วงเช้า คุณทาทา ยัง ก็ได้เข้ามาทำการรักษา เราถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง แต่คุณทาทาเป็นคนไข้ประจำอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ไม่น่ามีอะไรเป็นห่วง แล้วก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติมากมาย เมื่อวานนี้คุณทาทา ได้เข้ามาด้วยอาการปวดท้องทางด้านขวา มีการคลื่นไส้อาเจียน แล้วก็ถ่ายเหลวเล็กน้อย สิ่งที่กลัวตอนแรกเลย คือ กลัวจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ คุณหมอ ณัฐวุฒิ ซึ่งเป็นแพทย์เจ้าของไข้ ก็ได้ดูแลคุณทาทาเป็นอย่างดี โดยที่ความจริงได้ติดตามดูแลกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว”
“หลังจากตรวจวินิจฉัยแล้ว พบว่า เป็นเพียงแค่อาหารเป็นพิษเท่านั้น ขณะนี้อาการต่างๆ เรียบร้อยดี หลังจากได้รับการรักษาไปในช่วงแรก ก็ปรากฏว่า มีอาการหายใจลำบากเล็กน้อย มีลักษณะตัวแดงหน้าแดง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับภูมิแพ้ ก็เลยเรียนเชิญคุณหมออีกท่านที่เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้มาดู หลังจากให้การรักษาแล้วพบว่าเรียบร้อยดี ขณะนี้คุณทาทา สบายดี แต่ว่ายังมีอาการอ่อนเพลีย ก็เลยจะเก็บไว้ช่วยดูแลและพยาบาลก่อนนะครับ”
“ภูมิแพ้เกิดจากอาหารก็ได้ ทีนี้เรื่องยาที่ให้ในครั้งนี้เป็นยาเดิมที่เคยได้รับมาก่อนหน้านี้ แล้วก็ได้รับมาเป็นเวลานานแล้ว เพราะฉะนั้นถามว่าอะไรกันแน่ ถ้าให้เจาะจงลงไปคงบอกไม่ได้ อาหารเป็นไปได้ไหมเป็นไปได้ ยาเป็นไปได้ไหมโอกาสก็มีบ้าง แต่ไม่น่าจะเกี่ยวกับโรคไทรอยด์ที่ทาทาเป็นอยู่แล้วครับ”
“การที่ย้ายมาวอร์ดผู้ป่วยหนัก ก็เพื่อจะดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากว่าเป็นที่สนใจของประชาชน เพราะฉะนั้นเราจึงให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน แล้วก็ให้การมั่นใจกับการรักษามากกว่า ส่วนวันนี้เพิ่งไปดูกันมา ก็ตื่นดี พูดคุยสบาย มีอาการปวดท้องเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ย้ายไปปวดทางด้านซ้าย ซึ่งเข้าใจว่า น่าจะปวดเพราะโรคกระเพาะ ซึ่งมีอยู่ดั้งเดิมแล้วเท่านั้น ตอนนี้อาการก็ฟื้นขึ้นมาตามลำดับก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ตอนนี้ก็ยังมีลักษณะที่คล้ายๆ กับภูมิแพ้บ้าง แต่ลักษณะเหมือนเป็นหวัดเรื้อรังมากกว่า น่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลภายใน 2-3 วันข้างหน้า”
ด้านของ นพ.ณัฐวุฒิ สิริมนตาภรณ์ แพทย์อายุรกรรมสาขาโรคระบบทางเดินอาหารและตับ ซึ่งเป็นแพทย์เจ้าของไข้ ได้กล่าวเสริมว่า... “ตอนนี้อาการของน้องทาทาก็ดีขึ้นมาก ก็ไม่มีอะไรน่าสงสัย เพราะเป็นอาหารเป็นพิษ อาการปวดท้องคลื่นไส้อาเจียนในฐานะที่เป็นหมอก็บอกได้เลยว่าอาหารเป็นพิษ พอดีมีโรคของภูมิแพ้ขึ้นมาเหมือนที่อาจารย์จิตจำลองบอกก็เลยย้ายไปที่ไอ.ซี.ยู.ตอนนี้ก็โอเคอาการปลอดภัยแล้วครับ”
ขณะที่ นพ.สุรสฤษดิ์ ขาวละออ อายุรแพทย์สาขาโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันทางคลินิก ได้เผยว่า แม้ทาทาจะอาการดีขึ้น แต่ก็ยังต้องอยู่ห้องไอ.ซี.ยู.
“ยังครับ เพราะว่าน้องยังอ่อนเพลียอยู่ ก็เลยอยากดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ความจริงก็ไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วง ก็ในส่วนของภูมิแพ้ ที่ดูตอนนี้คุณทาทามีเรื่องของปัญหาเยื้อบุของจมูกที่ค่อนข้างจะบวมอยู่ ที่เป็นสาเหตุทำให้มีอาการอึดอัดได้ ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ ตอนนี้ก็ทานอาหารได้เป็นปกติแล้ว”
ทั้งนี้ ในส่วนของ น.ส.ฐิตามินทร์ เฟื่องอารมณ์ ญาติของทาทา ที่มาร่วมแถลงข่าวด้วยได้แจกแจงรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ปกตินักร้องสาวเป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ ได้ทำสตูไก่ทานกัน และเก็บไว้ในตู้เย็น 2-3 วัน ในช่องแช่ปกติไม่ได้ใส่ช่องฟรีซ แต่เพราะอากาศร้อนอาจทำให้เสีย พอเอาออกมาทานได้ 3-4 คำ ก็หยุดเพราะรสชาติไม่ดี แล้วก็มีอาการมวนท้องอาเจียน ปวดท้อง จึงรีบขับรถมาที่โรงพยาบาล แต่ตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นแล้ว กำลังใจทาทาก็ดีมาก มีญาติๆ มาเต็ม เขาอยากออกจากโรงพยาบาลแล้ว
เมื่อถามถึงแฟนหนุ่มของทาทา ชาวโรมาเนีย นาม “วิค” ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าตัวก็เผยว่า ฝ่ายชายมาเฝ้าทาทาตลอด 24 ชั่วโมง ถึงห้องไอ.ซี.ยู.จะไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมได้ก็รออยู่หน้าห้องตลอดจนถึงตอนนี้ ทั้งเป็นห่วงและกังวลเพราะไม่เข้าใจภาษาไทย จนต้องคอยถามตลอดเวลา ขอพยาบาลเข้าไปดูทาทาบ้าง ครอบครัวเองก็ดีใจที่มีคนดูแลทาทาดีแบบนี้ กำลังใจของทาทาตอนนี้เกินร้อย ต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง
ที่มา: manager.co.th