สตูดิโอเกมทีเอชคิว เตรียมล้มละลายปิดตัวอย่างเป็นทางการ ล่าสุดได้ประมูลขายทอดตลาดบริษัทเกมในสังกัด รวมถึงเกมซีรีส์ดังให้กับหลายบริษัท อาทิ Sega, Koch Media, Crytek, Take-Two และ Ubisoft ทีเอชคิว(THQ) อีกหนึ่งสตูดิโอพัฒนาเกมชื่อดังของโลกเตรียมจะปิดตัวอย่างเป็นทางการ ล่าสุด "ไบรอัน ฟาร์เรล" ในฐานะซีอีโอ และ "เจสัน รูบิน" ประธานทีเอชคิว ได้ส่งหมายเปิดผนึกชี้แจงรายละเอียดของการปิดสตูดิโอ และสถานการณ์ล่าสุดของบริษัทในศาลล้มละลายสหรัฐ
ข้อมูลที่น่าสนใจที่เปิดเผยมาในจดหมายคือข้อมูลทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับซีรีส์เกม และสตูดิโอในสังกัด ที่ทางทีเอชคิวประมูลขายออกไปว่าบริษัทใดได้ครอบครองเป็นเจ้าของ และประมูลขายได้ในราคาเท่าไร
สตูดิโอ Relic Entertainment และ ซีรีส์ Company of Heroes
ผู้ชนะประมูล: 26.6 ล้านเหรียญสหรัฐ - Sega Corporation
ผู้เสนอประมูลในลำดับรองลงมา : 26.3 ล้านเหรียญสหรัฐ - Zenimax Media
สตูดิโอ THQ Montreal ที่รวมเอาเกม 1666 และ Underdog เข้าไปด้วย
ผู้ชนะประมูล: 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ - Ubisoft
ผู้เสนอประมูลในลำดับรองลงมา: ไม่มี
เกม Evolve หรือที่มีชื่อเรียกว่า Metamorphosis
ผู้ชนะประมูล: 10.894 ล้านเหรียญสหรัฐ - Take-Two Interactive
ผู้เสนอประมูลในลำดับรองลงมา: 250,000 เหรียญสหรัฐ- Turtle Rock Studios, Inc.
สตูดิโอ Volition และ ซีรีส์ Saints Row franchise
ผู้ชนะประมูล: 22.3 ล้านเหรียญสหรัฐ - Koch Media
ผู้เสนอประมูลในลำดับรองลงมา: 5.4 ล้านเหรียญสหรัฐ - Ubisoft
ซีรีส์ Homefront
ผู้ชนะประมูล: 544,218 เหรียญสหรัฐ- Crytek
ผู้เสนอประมูลในลำดับรองลงมา: ไม่มี
ซีรีส์ Metro
ผู้ชนะประมูล: 5,877,551 เหรียญสหรัฐ- Koch Media
ผู้เสนอประมูลในลำดับรองลงมา: 5,175,000 เหรียญสหรัฐ - Ubisoft
South Park: The Stick of Truth
ผู้ชนะประมูล: 3,265,306 เหรียญสหรัฐ- Ubisoft
ผู้เสนอประมูลในลำดับรองลงมา: ไม่มี
สำหรับซีรีส์มวยปล้ำ WWE มีรายงานข่าวระบุว่าทางเทคทู(Take Two)ได้ประมูลคว้าลิขสิทธิ์ไปครอบครองด้าน ราคาประมูลยังไม่มีการเปิดเผยออกมา
สำหรับทิศทางของซีรีส์ Darksiders และทีมพัฒนา Vigil Games ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งทาง ฟาร์เรล และรูบิน ระบุว่าจะพยายามทุกทางเพื่อหาบริษัทที่เหมาะสมเข้ามาซื้อกิจการ
เอกสารยื่นประมูลก่อนหน้านี้ของทีเอชคิว มีการเปิดเผยรายชื่อเกมที่ยังไม่เปิดเผยของสตูดิโอ THQ Montreal ในชื่อ "Underdog" และจากการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดในครั้งนี้ก็มีอีกหนึ่งเกมโผล่ขึ้นมาในชื่อ "1666"
ข้อมูลในจดหมายเปิดผนึกระบุด้วยว่าสตูดิโอ High Voltage Software (The Conduit) ได้ทำงานร่วมกับสตูดิโอ Volition Inc. เพื่อสร้างเกม Saints Row 4 อย่างไรก็ตามยังไม่มีการระบุในรายละเอียดของการร่วมมือกันว่าแบ่งงานกันทำอย่างไร
ฟาร์เรล และรูบิน ระบุว่าพนักงานส่วนใหญ่จะถูกรวมไปกับการขายกิจการครั้งนี้ด้วย ซึ่งพนักงานเหล่านั้นจะได้รับการจ้างงานต่อโดยเจ้าของคนใหม่ อย่างไรก็ตามพนักงานในบางตำแหน่งก็ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าของคนใหม่
พนักงานทั้งหมดที่ไม่ได้ถูกรวมไปกับการขายกิจการ จะอยู่ในสถานะว่างงาน ด้านสต๊าฟจำนวนไม่มากนักของทีเอชคิวสำนักงานใหญ่ใน Agoura Hills แคลิฟอร์เนีย จะยังคงทำงานต่อไปหลังจากวันที่ 25 มกราคม เพื่อช่วยดูแลการเปลี่ยนผ่านของบริษัท
ฟาร์แรล และรูบิน กล่าวว่า "ในขณะที่บริษัทของเราจะทำการปิดตัวลง เราก็ได้ยินมาว่าสตูดิโอและเกมส่วนใหญ่ของเราจะยังคงดำเนินการต่อโดยการดูแลของเจ้าของคนใหม่ เราหวังว่าสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาจะยังคงอยู่ต่อไป และเราคาดหวังว่าจะได้รับข่าวดีจากสตูดิโอที่แตกออกไป หรือเกมที่ออกไปดำเนินการใหม่ภายใต้เจ้าของคนใหม่"
"สำหรับพนักงานของทีเอชคิวที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขายกิจการจะอยู่ในสถานะว่างงาน แต่เราเชื่อมั่นว่าด้วยพรสวรรค์ และความสามารถของคุณที่ได้แสดงให้เห็นตอนทำงานกับทีเอชคิว จะทำให้คุณเป็นที่รู้จักในวงการเกม และคุณจะมีโอกาสได้ก้าวขึ้นไปอีกระดับในอาชีพ"
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com
ที่มา: manager.co.th