เจมาร์ทคาดรายได้ปีนี้ ทะลุหมื่นล้านบาท จากการเติบโตต่อเนื่องของสมาร์ทดีไวซ์ที่รองรับบริการสื่อสารข้อมูล 3G ความถี่ 2.1 GHz และ 4G (LTE) พร้อมปัดฝุ่นทำแฟรนไชส์ใหม่ ยันตลาดต่างจังหวัดยังมีโอกาสอีกมากจากการขึ้นค่าแรง 300 บาท นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท กล่าวว่า เจมาร์ทมั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะสามารถสร้างรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องและจะสามารถขยายธุรกิจได้ตามที่คาดหวังไว้ เพราะนอกจากจะมีการเปิดบริการ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz แล้วยังเชื่อว่าจะมีการออกใบอนุญาต LTE (4G) ซึ่งจะทำให้เกิดการใช้งานดาต้าและการสื่อสารข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาใช้งานสมาร์ท ดีไวซ์มากขึ้น โดยเฉพาะการใช้งานในต่างจังหวัดที่เจมาร์ทเชื่อว่าผลจากการขึ้นค่าแรง 300 บาททั่วประเทศจะทำให้ตลาดในส่วนนี้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
'เจมาร์ทมั่นใจว่ายอดรายได้จะขึ้นสู่หลัก 10,000 ล้านบาท อย่างแน่นอน ด้วยแผนการตลาดในปีนี้ที่เจมาร์ทได้เตรียมจัดงานมหกรรมสุดยอดเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 20 บริษัท โดยมีแผนจะจัดงานเพิ่มขึ้นทั้งหมด 6 ครั้ง จากเดิมที่จัดปีละ 3 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีการเตรียมเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2556 เพื่อกระจายสาขาไปยังภูมิภาคต่างๆ รองรับกับการเติบโตของตลาด โดยตั้งเป้าภายในปีนี้จะมีประมาณ 50 สาขาและคาดว่าจะเพิ่มยอดขายให้เจมาร์ท 100 ล้านบาท โดยมีทั้งรูปแบบของ Kiosk รวมไปถึงการขยายร้านเจมาร์ทให้เพิ่มขึ้น'
เจมาร์ทได้เตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ในการจัดงาน โมบาย โชว์ 2013 แบ่งเป็น บางกอก โมบายโชว์ (Bangkok Mobile Show ) ในกรุงเทพฯ 4 ครั้ง เพื่อเจาะตลาด 4 มุมเมือง และขยายไปยังตลาดต่างจังหวัด 2 ครั้ง ได้แก่ เชียงใหม่ โมบาย โชว์ (Chiangmai Mobile Show) และนครราชสีมา (Korat Mobile Show) ซึ่งคาดว่ารายได้รวมในการจัดงานทั้ง 6 งานจะอยู่ที่ประมาณ 350 ล้านบาท ส่วนแผนการขยายสาขา เจมาร์ท ช็อป ปีนี้จะเปิดใหม่ทั่วประเทศเพิ่มอีก 60 สาขา จนถึงสิ้นปีนี้เจมาร์ทจะมีช็อปให้บริการประมาณ 280 สาขา เน้นบริการด้วย Jaymart Quality Service หรือ JQS ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา
นอกจากการเปิดตัวสาขาและจัดงานแสดงสินค้าแล้ว เจมาร์ทยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับลูกค้าไม่ว่าจะเป็นการให้บริการผ่อนชำระโทรศัพท์มือถือ บริการส่งมือถือถึงบ้าน หรือบริการมือถือสำรองระหว่างซ่อม รวมไปถึงความร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ในการช่วยกระจายสินค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น โดยสิ่งที่จะทำขึ้นใหม่คือการเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ที่เจมาร์ทเคยทำไปแล้วแต่ไม่สำเร็จเนื่องจากในครั้งนั้นยังไม่พร้อม แต่ครั้งนี้ด้วยความที่เจมาร์ทมีอัตราการเติบโตที่ดี มีผลกำไร รวมไปถึงประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เจมาร์ทมั่นใจว่าจะสามารถสร้างแฟรนไชส์ที่แข็งแกร่งและประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
'สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในปีนี้ แต่สินค้าที่กำลังมาแรงในปัจจุบันคืออุปกรณ์เสริม (แอสเซสเซอรี่) ที่กำลังมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากเดิมยอดขายในส่วนนี้อยู่ที่ประมาณ 8 ล้านบาทต่อเดือน แต่ปัจจุบันกระโดดขึ้นไปถึง 20 ล้านบาท สามารถสร้างกำไรให้กับเจมาร์ทเพิ่มขึ้นอีก และเชื่อว่าจะมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นตามเทรนด์ยุคใหม่อีกด้วย'
Company Relate Link :
Jaymart
ที่มา: manager.co.th