Author Topic: พิษสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต “จอแตก” โหมไฟตลาดฟิล์มกันกระแทกโต  (Read 1803 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai

<a href="https://www.youtube.com/watch?v=2CQ1HSQFhhg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=2CQ1HSQFhhg</a>

พิษสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต “จอแตก” โหมไฟตลาดฟิล์มกันกระแทกโต พิษสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต “จอแตก” โหมไฟตลาดฟิล์มกันกระแทกโต พิษสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต “จอแตก” โหมไฟตลาดฟิล์มกันกระแทกโต


      “ไอเซิร์ฟ” ระบุทุกวันนี้ร้านค้ามาบุญครองทั่วไปรับซ่อมสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตหน้าจอแตกราว 3-5 เครื่องต่อวัน ตัวเลขนี้แสดงถึงโอกาสร้อนแรงในการทำตลาดฟีล์มกันกระแทกซึ่งสามารถเพิ่มความทนทานให้หน้าจอได้ คุยฟุ้งฟิล์ม iGuard Monster ของบริษัทสามารถป้องกันหน้าจอแตกร้าวได้ดีกว่าฟิล์มทั่วไป 2.2 เท่าตัว ขีดราคา 990 บาทแลกความสบายใจของผู้ใช้ ขอเวลา 3 เดือนขยายพันธมิตรจำหน่ายปูพรมตลอดปี
       
       มานะ ทาฮาตะ ผู้บริหารบริษัท ไอเซิร์ฟ เอเชีย จำกัด ผู้นำเข้าฟิล์มกันกระแทกยี่ห้อ iGuard Monster จากเกาหลีใต้ ให้ข้อมูลว่าจากการสุ่มสอบถามร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือที่ห้างมาบุญครอง พบว่ามีผู้นำสมาร์ทโฟนหน้าจอแตกมาซ่อมราว 3-5 เครื่องต่อวัน บริษัทจึงมั่นใจว่าตลาดอุปกรณ์เสริมเพื่อดูแล รักษา และปกป้องสมาร์ทโฟนจะเติบโตมากขึ้นในประเทศไทย
       
       “ตลาดแอ็กเซสซอรีส์ไทยทุกวันนี้เรียกว่าเติบโต 100% เป็นการโตที่คู่ไปกับการเติบโตของการใช้สมาร์ทโฟน เชื่อว่าปีนี้ก็จะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น หากดูเฉพาะในตลาดฟิล์มมือถือ ครึ่งหนึ่งคือกลุ่มกันกระแทก”
       
       แนวโน้มนี้ทำให้ไอเซิร์ฟลงนามกับ Neo-Metro Khan ผู้ผลิตเกาหลีใต้ เพื่อนำเข้าฟิล์ม iGuard Monster เข้ามาจัดจำหน่ายในไทยแต่ผู้เดียว โดยมีแผนทำตลาดเจาะกลุ่มผู้ใช้ไอโฟน และไอแพด หวังเพิ่มความสบายใจในการใช้งาน
       
       ผู้บริหารไอเซิร์ฟเชื่อว่าทุกวันนี้ผู้บริโภคไทยให้ความสนใจกับคุณภาพของฟิล์มมากกว่าราคา iGuard Monster จึงถูกกำหนดราคาที่ 990 บาท (สำหรับไอโฟน 5) โดยการันตีว่าสามารถทนต่อแรงกระแทกได้ดีกว่าฟิล์มทั่วไป 2.2 เท่าตัว (220%) แต่ไม่ทำให้ระบบสัมผัสหน้าจอช้าไปจากเดิม กลับทำให้ลื่นไหลขึ้น แถมยังสามารถป้องกันแสง และลดการเกิดสีรุ้งบนหน้าจอได้
       
       จากการสาธิต ไอโฟน 5 ที่ติดฟิล์มนี้จะสามารถตกพื้น (แบบคว่ำหน้า) โดยหน้าจอไม่แตก เช่นเดียวกับกรณีที่ถูกค้อนทุบ ซึ่งอาจทำให้ฟิล์มเสียไปแต่ไม่มีรอยร้าวบนหน้าจอและเครื่องยังทำงานต่อไปได้
       
       ผู้บริหารไอเซิร์ฟย้ำว่า บริษัทยังไม่มีแผนรับประกันความเสียหายหน้าจอเพื่อกระตุ้นตลาดฟิล์ม iGuard Monster ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัทผู้ผลิตที่พบว่าเคยมีปัญหาจากการรับประกัน 1 ปี (บางรายนำเครื่องที่หน้าจอแตกแล้วมาติดเพื่อเคลมประกัน) แต่จะเน้นสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อ ด้วยการสาธิตทั้งการนำค้อนมาทุบหน้าจอ ผ่านวิดีโอและสื่อ ให้เห็นว่าฟิล์มทำให้เครื่องทนต่อแรงกระแทกมากกว่าจริง
       
       “ราคา 990 ไม่ได้แพงที่สุดในตลาด ยังมีฟิล์มที่ราคาแพงกว่านี้ เราเห็นคู่แข่งประเภทเดียวกันในตลาดไทยแค่ 1 ยี่ห้อ ยี่ห้อนั้นต้องใช้สเปรย์น้ำในการติดฟิล์ม และอาจมีปัญหาฟีล์มเหลืองในอนาคต แต่ของเราใช้เทคโนโลยีออปติคอลฟิล์มชนิดพิเศษทำให้ฟีล์มสามารถเกาะติดผิวหน้าจอเหมือนฟิล์มทั่วไป”
       
       ไอเซิร์ฟระบุว่า ตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ชิ้นต่อเดือน โดยมั่นใจว่าตลาดแอ็กเซสซอรีส์ไฮเอนด์จะเติบโตไม่แพ้ทุกเอนด์ในแง่มูลค่า ขณะนี้กำลังเร่งขยายช่องทางจำหน่ายจากที่มีอยู่ในร้าน U Store และศูนย์บริการเครือข่ายมือถือทั้ง Ais Shop, DTAC Shop และ True Shop รวมถึงร้านไอทีตามห้างดัง ไปยังร้านค้าย่อยตามมาบุญครองและศูนย์ค้าปลีกรายย่อยเพื่อขยายตลาด
       
       สำหรับไอเซิร์ฟเอเชีย เป็นบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปลายปี 2012 และเริ่มนำเข้าฟิล์ม iGuard Monster เข้ามาทำตลาดเป็นผลิตภัณฑ์แรก โดยบริษัทมีแผนนำเข้าแอ็กเซสซอรีส์ประเภทเคสสำหรับไอโฟนเข้ามาทำตลาดอีก 1 รุ่นในช่วงไตรมาส 2 คาดว่าจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้
       
       นอกจากไอโฟน 5, ไอแพด และไอแพดมินิ iGuard Monster ยังมีรุ่นรองรับ Galaxy S3 และคาดว่าจะมีจำหน่ายรุ่นสำหรับ Samsung อื่นๆ ตามมาอีก โดยฟีล์มสำหรับไอแพดยังไม่มีการกำหนดราคา คาดว่าจะไม่เกิน 1,500 บาท
       
ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)