Author Topic: หัวเหลียน ช้ำ โรงงานหยุดผลิตคอมพ์  (Read 1136 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

หัวเหลียนเจอพิษเศรษฐกิจ โรงงานผลิตคอมพ์โลคัลแบรนด์ไม่มีออเดอร์ ส่งผลกำลังการผลิตหล่นวูบเกือบ 50 % ล่าสุดหันผลิตจอแอลซีดีทดแทน

 นายธนภัทร เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหัวเหลียน คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่หดตัวอย่างรุนแรงส่งผลให้โรงงานรับผลิตคอมพิวเตอร์แบรนด์ในประเทศไม่มียอดกำลังการผลิตเกิดขึ้นมาตั้งแต่กลางปี 2551 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น ลิเบอร์ต้า เบลต้า เลเซอร์


 โดยถือว่ากำลังการผลิตลดลงไปมากกว่า 50 % ทำให้โรงงานต้องหันมาผลิตจอมอนิเตอร์ในแบรนด์จีวิว ( GView ) พาวเวอร์ซัพพลายสำหรับคอมพิวเตอร์ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า


 สำหรับจอมอนิเตอร์ จีวิวจะนำเข้าชิ้นส่วนมาจากโรงงานที่ประเทศจีน และเข้ามาประกอบในโรงงานที่สมุทรปราการ ซึ่งปัจจุบันโรงงานในจีน ก็จะผลิตเคสที่ส่งออกขายในต่างประเทศ เช่น เกาหลี ยุโรป มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งยอดส่งออกก็ลดลง ตามเศรษฐกิจที่กระทบไปทั่วโลกเช่นกัน


 “ ตอนนี้เราแทบไม่ได้ผลิตคอมพ์โลคัลแบรนด์เลย เพราะตลาดตกลงมาก ปัจจุบันเหลืออยู่ในตลาดไม่กี่ราย แต่ก็ไม่ได้ผลิตที่โรงงานเรา ทำให้โรงงานที่สมุทรปราการตอนนี้จะหันมาเน้นการประกอบจอมอนิเตอร์ภายใต้แบรนด์จีวิวแทน ”


 ทั้งนี้ กำลังการผลิตเครื่องประกอบในโรงงานก่อนหน้านี้อยู่ที่ 2,400 เครื่องต่อวัน


 นายเฉียน กล่าวว่า บริษัทเริ่มมีการขาดทุนมาตั้งแต่ปี 2550 โดยยอดการผลิตคอมพ์โลคัลแบรนด์ ที่ถือเป็นรายได้หลักตกลงมาตลอด ทำให้บริษัทต้องเบนเข็มหันมาใช้กำลังการผลิตในโรงงาน เพื่อผลิต และประกอบชิ้นส่วนด้านคอมพิวเตอร์ทดแทน


 “ ตั้งแต่เปิดบริษัทในปี 41 ผลประกอบการเราเฟืองฟูมากในช่วงปี 41-48 แต่หลังจากนั้นเราขาดทุนมาตลอด คิดเป็นมูลค่าราว 10 ล้านบาทได้แล้วดังนั้นปีนี้ บริษัทจะหันมาเน้นโปรดักส์ที่ยังทำรายได้ให้กับบริษัทอยู่ โดยเฉพาะจอมอนิเตอร์ เคส และพาวเวอร์ซัพพลาย ที่ยังมีความต้องการในตลาดอยู่บ้าง ”


 ทั้งนี้ เขาเชื่อว่า ตลาดผู้ใช้ใหม่จะหันมามองคอมพิวเตอร์พีซีเพิ่มมากกว่าโน้ตบุ๊ค เพราะเศรษฐกิจแบบนี้คนจะไม่ซื้อโน้ตบุ๊คเป็นเครื่องแรกเพราะราคาจะสูงกว่าพีซี คาดว่า ตลาดนี้น่าจะยังมีอยู่ราว 30 %


 อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดจอมอนิเตอร์ของจีวิวเอง ที่ผ่านมามียอดส่วนแบ่งการตลาดที่ลดลง เพราะต้องแข่งกับยี่ห้อมีแบรนด์อย่าง ซัมซุง แอลจี และฟิลิปส์


 ทั้งนี้ คาดว่า โปรดักส์ที่จะสร้างรายได้ในปีนี้ให้กับบริษัทได้มากสุด คือ เคส คอมพิวเตอร์ และพาวเวอร์ซัพพลาย ที่ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 40 %


 ล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ ” อะตอมทู ” (aTom 2 Limited Edition) เคสระดับพรีเมี่ยม โดยผลิตออกมาจำนวนจำกัดเพียง 99 ตัวเท่านั้น ขายในราคา 3,999 บาท เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนท์


 ปัจจุบันหัวเหลียนมีพาร์ทเนอร์ใน 2 ส่วนหลัก คือ กลุ่มดีไอวาย และกลุ่มดิสทริบิวเตอร์ ซึ่งประกอบด้วย ดีคอมพิวเตอร์ อินแกรม ไมโคร และดิจิแลนด์ ซึ่งสัดส่วนรายได้มากจากดีไอวายมากกว่า 70 % ขณะที่ดิสทริบิวเตอร์เหลือแค่ 30 % เท่านั้น


 หัวเหลียนมีพนักงานกว่า 100 คน มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ และมีสาขาอีก 4 สาขา กระจายอยู่ตามภูมิภาคที่สำคัญของประเทศ ได้แก่ สาขาเชียงใหม่, สาขาขอนแก่น, สาขาหาดใหญ่ และสาขาภูเก็ต


 โดยขณะนี้ บริษัทยังไม่มีแผนที่ปรับลด หรือลดขนาดของการโอเปอเรชั่นทั้ง 4 สาขาลงแต่อย่างใด


 “ ผมมองว่าปีนี้ เป็นปีที่ยากลำบากมาก และผลกระทบจากต่างประเทศยังเข้ามาถึงไทยไม่เต็ม คาดว่าไตรมาส 2 เป็นต้นไปจะยิ่งหนักมากกว่านี้อีก ในส่วนบริษัทคงจะเน้นทำตลาดในส่วนที่ยังไปได้ และพยายามรักษาระดับรายได้เอาไว้ให้คงที่อยู่ คือ ใกล้ๆ 200 ล้านบาท ” นายเฉียน กล่าว


ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com/


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)