กสทช.ออกคำสั่งปรับ “ทีโอที-3 ค่ายมือถือ” หลังขัดคำสั่งทางปกครองกรณีค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (ไอซี) การลงทะเบียนพรีเพด และการกำหนดวันหมดอายุบัตรเติมเงิน รวมค่าปรับราว 53 ล้านบาท นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 56 ได้ออกคำสั่งทางปกครอง 3 ฉบับ ได้แก่ 1. คำสั่งให้บริษัท ทีโอที ทำสัญญาเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม (ค่าไอซี) กับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค 2. คำสั่งให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือทุกรายจัดเก็บข้อมูลหรือลงทะเบียนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือแบบบัตรเติมเงินล่วงหน้า (พรีเพด) ทุกราย และ 3. คำสั่งให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือทุกรายห้ามกำหนดวันหมดอายุบัตรเติมเงินล่วงหน้า โดยให้ผู้ประกอบการทุกรายปฏิบัติตามคำสั่ง กสทช.และชำระค่าปรับตามกฎหมายด้วย
ในส่วนกรณีของทีโอทีจะต้องชำระค่าปรับให้ กสทช.วันละ 20,000 บาท โดยทีโอทีจะต้องชำระค่าปรับตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 2553 หากนับจนถึงวันที่ 3 ม.ค. 2556 รวม 812 วัน คิดเป็นเงินค่าปรับ 16,380,000 บาท รวมทั้งต้องจ่ายค่าปรับไปจนกว่าทีโอทีจะชำระค่าปรับทั้งหมด
“แม้ทีโอทีจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดไปแล้วก็ตาม แต่ล่าสุดศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งให้ทีโอทีทำสัญญากับดีแทค ดังนั้นถึงจะอยู่ระหว่างรอคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ทีโอทีก็ต้องชำระค่าปรับดังกล่าว ซึ่งในตอนนี้ทีโอที และดีแทคอยู่ระหว่างเจรจาการทำสัญญาระหว่างกัน โดยคาดว่าจะมีข้อสรุปเร็วๆ นี้”
ขณะที่กรณีผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 ค่าย คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) บริษัท ทรูมูฟ และดีแทค ต้องลงทะเบียนผู้ใช้บัตรเติมเงินล่วงหน้า (ลูกค้าในระบบพรีเพด) นั้น ทั้ง 3 ค่ายมือถือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง กสทช.จึงต้องสั่งปรับวันละ 80,000 บาท โดยมีคำสั่งปรับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. 2555 จนถึงวันที่ 3 ม.ค. 2556 รวม 182 วัน คิดเป็นเงินรวม 14,560,000 บาท หรือรายละประมาณ 3.64 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นวันละ 80,000 บาท ไปจนกว่าทั้ง 3 รายจะชำระค่าปรับตามคำสั่ง กสทช.
ส่วนกรณีที่ 3 ค่ายมือถือยังคงกำหนดวันหมดอายุบัตรเติมเงิน ซึ่งถือว่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกสทช. จึงได้มีคำสั่งปรับวันละ 100,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. 2555 จนถึง 3 ม.ค. 2556 รวม 219 วัน คิดเป็นเงิน 21,900,000 บาท หรือรายละ 7.30 ล้านบาท ไปจนกว่าทั้ง 3 ค่ายมือถือจะชำระค่าปรับดังกล่าวแล้ว
นายฐากรกล่าวว่า ในปี 2556 นี้ถือเป็นปีแห่งการคุ้มครองผู้บริโภค ดังนั้น กสทช.ต้องรักษาสิทธิของผู้บริโภค ซึ่งการออกคำสั่งทางปกครองดังกล่าวเพื่อให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามคำสั่ง นอกจากออกคำสั่งปรับแล้ว ก็จะเชิญผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกรายมาหารือทำความเข้าใจและขอร้องแบบบังคับให้ชำระค่าปรับด้วย โดยยืนยันว่าคำสั่งของ กสทช.มิใช่เสือกระดาษอีกต่อไป แต่สามารถบังคับใช้ได้จริง
“เรายอมรับว่าคำสั่งของ กสทช.มิใช่คำสั่งสุดท้าย เพราะผู้ประกอบการมีทางเลือกที่จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอความยุติธรรม ซึ่งทำให้กระบวนการต่างๆ ต้องใช้เวลา โดยดูได้จากแต่ละคำสั่ง กสทช.จะมีผลได้จริงก็ต้องรอคำพิพากษาของศาลปกครองแล้วจึงถือเป็นที่สิ้นสุด”
Company Relate Link :
กสทช.
ที่มา: manager.co.th