เอสเอพี งัดโซลูชั่นราคาประหยัดสู้วิกฤติเศรษฐกิจ หวังช่วยกระตุ้นการลงทุนของลูกค้า พร้อมสร้างยอดขายให้บริษัทเพิ่ม
นายภัทร ยงวณิชย์ กรรมการผู้จัดการ เอสเอพี ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทได้เปิดแพคเกจโซลูชั่นด้านอีอาร์พีราคาประหยัดเจาะกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี และลูกค้าใหม่ เพื่อช่วยกระตุ้นการลงทุนของลูกค้าในภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง โดยแพคเกจดังกล่าวใช้ชื่อว่า ‘The Best-Run Now’ โดยลูกค้าใหม่ที่ต้องการซื้อซอฟต์แวร์ของเอสเอพีตั้งแต่ 15 ไลเซ่นส์ขึ้นไป สามารถซื้อซอฟต์แวร์ของบิสซิเนส ออบเจ็กต์ในราคาพิเศษลด 50 %
" สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจและธุรกิจในปัจจุบันถือเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับทุกๆ องค์กร ไม่ใช่เพียงแค่เอสเอพีเท่านั้น แต่ยังคงมีโอกาสใหม่ๆ เนื่องจากลูกค้าของเราเชื่อว่าโซลูชั่นของเอสเอพีจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกทางด้านธุรกิจ ปรับปรุงประสิทธิภาพ และเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน จะช่วยให้ลูกค้าสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ ”
ขณะที่โซลูชั่นเอสเอพี บิสสนิเนส ออลอินวัน เฟรมเวิร์ค ที่ทำตลาดในปัจจุบันก็สามารถตอบโจทก์ลูกค้าที่ต้องการ โดยที่ช่วยลดต้นทุนค่าติดตั้งและช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพองค์กรได้ 60-70 % ถ้าเทียบกับระบบที่ไม่มีเฟรมเวิร์ค
นายภัทร กล่าวยอมรับว่า เศรษฐกิจปีนี้อาจทำให้หลายบริษัทต้องชะลอการตัดสินใจ แต่ยังเชื่อว่า การลงทุนด้านไอทียังเป็นความจำเป็นอันดับแรกที่หลายบริษัทไม่ได้มีการตัดงบประมาณลง โดยกลุ่มอุตสหกรรมที่ยังมีการลงทุนด้านไอทีต่อเนื่อง ได้แก่ กลุ่มสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล และกลุ่มคอนซูมเมอร์ โพรดักส์
ขณะที่การประกาศปลดพนักงานทั่วโลกของเอสเอพีลง 3,000 คน ขณะนี้ พนักงานในไทยยังไม่มีผลกระทบ รวมถึงโครงสร้างการบริหารงานก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่บริษัทจะเข้มงวดในเรื่องของการประเมินประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานให้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับผลประกอบการตลอดปี 2551 เอสเอพี เอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น เป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเจริญเติบโตเร็วที่สุดของเอสเอพี เอจี ด้วยยอดรายได้จากซอฟต์แวร์ 594 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 23 % ส่วนรายได้จากซอฟต์แวร์และบริการที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์อยู่ที่ 1,192 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 24%
แม้ว่าเอสเอพี เอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น ต้องเผชิญกับความท้าทายกับสภาวะตลาดที่ยากลำบากในช่วงไตรมาส 4 โดยรายได้จากซอฟต์แวร์และบริการที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์เพิ่มขึ้น 5% แต่รายได้รวมตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้น 20 % อยู่ที่ระดับ 1,532 ล้านยูโร
ขณะที่ รายได้จากซอฟต์แวร์ของเอสเอพีเพิ่มขึ้น 20 % ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2551 ส่วนรายได้ จากซอฟต์แวร์และบริการที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น 19 %
ทั้งนี้ คาดว่า ปี 52 เอสเอพีในไทย จะมีการเติบโตราว 20%
"ในช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2551 เราได้ทำสัญญากับลูกค้ารายสำคัญๆ เช่น บริษัท ที . ซี . ฟาร์มาซูทิคอล จำกัด บริษัท บุญถาวร เซรามิค จำกัด และ บริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด สัดส่วนลูกค้าใหม่ และลูกค้าเก่าปีนี้ ประเมินยาก ว่าส่วนไหนจะมากกว่ากัน เช่นเดียวกับการประเมินรายได้ และการเติบโตของธุรกิจก็ประเมินได้ยาก” นายภัทร กล่าว
ที่มา:
http://www.bangkokbiznews.com