“สุกัญญา มิเกล” ประกาศตัดขาด “ศวัส” อดีตผู้ดูแลประสานงาน Rock and Roll House หลังมีพฤติกรรมทั้ง ยักยอก แอบอ้างชื่อ พร้อมฝากเตือนเพื่อนศิลปินระวังตกเป็นเหยื่อ งานเข้าอย่างจัง สำหรับร็อคเกอร์หญิงแกร่ง “สุกัญญา มิเกล” ในฐานะผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนสามัญ Rock and Roll House ที่เกิดจากการรวมตัวกับเพื่อนๆ ศิลปินอีกหลายคน หลังผู้ที่ทำหน้าที่ประสานงานคนหนึ่งที่มีชื่อว่า "ศวัส" ไปมีพฤติกรรมฉ้อฉลด้วยการแอบอ้างชื่อกับคนที่มาร่วมงานด้วยทำเอาเจ้าตัวต้องออกมาชี้แจงเป็นการด่วน
“คือเรารับเขาเข้ามาทำงานตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว และก็ต่อหน้าเราเนี่ยทุกอย่างดูดีเนาะ แต่ว่าเขาก็ใช้ความที่อยู่ใน Rock and Roll House และก็ใช้ความที่ทำงานอยู่กับเรา สุกัญญา มิเกล และดารานักร้องอีกหลายๆ คนเอาไปใช้เพื่อสร้างโปรเจ็ค หรือทำงานการกุศล อย่างเช่นตอนน้ำท่วมแล้วก็มีการยักยอกเงินไปไม่จ่ายตังค์เขาหรือให้เขาไม่ครบเวลาจ้างศิลปินมาทำงาน ซึ่งไม่เกี่ยวกับเราเลย"
"แต่คนทุกคนที่รู้จักเขา และรู้ว่าเขาทำงานอยู่กับเราทุกคนเลยเชื่อใจและยอมที่จะทำงานด้วยมันเลยกลับกลายเป็นว่าพอเขาดิวใครมาทำงานด้วยแล้วจ่ายตังค์ให้ไม่ครบเราก็ต้องไปจ่ายแทนเป็นแบบนี้หลายๆกรณีเพื่อที่เราจะรักษาชื่อเสียงของกลุ่มเราเอาไว้”
“เราเริ่มมารู้แบบชัดเจนจริงๆ คือเขาไปรับงานโดยที่เราไม่ได้เกี่ยวข้องเลย อย่างวันที่ 21 พย.คอนเสิร์ตเปิดบุญของด็อกเตอร์มาย แล้วเขาเป็นคนดูแลโปรเจ็คนี้จ้างเครื่องเสียงมา แล้วก็ไม่จ่ายตังค์ค่าเครื่องเสียงเราเองก็ต้องไปรับผิดชอบ เพราะเครื่องเสียงนั้นมันมาจากคอนเน็คของเราเป็นเพื่อนกัน อย่างนี้พอเรารู้ตั้งแต่ประมาณกลางๆ เดือนพฤศจิกายนว่าเขาเป็นคนยังไง จนกระทั่งปลายเดือนก่อนจะมีคอนเสิร์ตกับพี่อุ๊ หฤทัย เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมเราก็เช็คบิลเลย”
“ที่ผ่านมานอกจากตังค์ที่เราต้องไปจ่ายแทนเขาแล้วยังมีข้าวของเครื่องใช้ที่เราให้ในฐานนะที่ทำงานร่วมกันอย่างเช่น โน๊ตบุ๊ค เน็ตบุ๊ค เขาก็เอาไปขายแล้วมาอ้างกับเราว่าเอาไปซ่อมบ้าง แล้วก็ให้รถไว้ใช้ทำงาน ก็นำรถไปมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นสภาพรถเยินมาก แต่เราไม่คิดมาก แต่กว่าว่าเขาจะไปทำคนเจ็บไว้แล้วเราต้องมารับผิดชอบแทนเขาก็เลยต้องการที่จะเคลียร์ตัวเองว่าเรากับเขาไม่เกี่ยวข้องกันแล้วนะ”
เผยคนในวงการเริ่มรับรู้...“ตอนนี้คนในวงการก็เริ่มรู้กันบ้างแล้วว่าศวัสเป็นคนยังไง แต่ยังไม่หมดซะทีเดียว เท่าที่รู้คนๆ นี้เขาเริ่มทำอย่างนี้มาตั้งแต่ปี 51 ซึ่งเรามาย้อนดู ในเว็บเพจของเขาแต่เว็บเพจมันจะถูกปิดไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าฝีมือเขาหรือเปล่า เพราะเขาจะเป็นคนสร้างเว็บเพจเองด้วยทำกิจกรรมกับคนตาบอด ทำกิจกรรมกับเด็กๆ”
“ที่ผ่านๆมามีกรณีโกงเกิดขึ้นหรือเปล่าเราไม่รู้ แต่รับรู้ได้ตอนที่ว่าเขามาทำงานกับเราเนี่ยตั้งแต่เลิฟทูแชร์มาปีที่แล้ว เริ่มมีการเงินไม่ตรง พูดจาไม่ตรง ทำให้บ้านสัตว์พิการเกิดไม่พอใจกลุ่มศิลปินนี้ที่ทำแล้ว มี พี่บี๋ คณาคำ อภิรดี, แอม เสาวลักษณ์, เจี๊ยบ วรรธนา, อิน บูโดกัน ,ดีเจตะแง้ว ใหญ่ๆ ทั้งนั้นแล้วเขาก็มองพวกเรากลายเป็นสร้างเรื่องพวกนี้มาหากิน เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าศวัส เป็นคนไม่ตรงเราเองและคนอื่นๆ พึ่งมารู้ที่หลังว่าอ้าวตกลงแล้วเงินหายไป เพราะอีนี่นี่เอง”
“และก่อนหน้านั้นมันมีเคสที่เขาไปจ้างอีเว้นบอกแฟนคลับพี่บี๋ คณาคำว่าจะพาไปเที่ยวแฟนคลับเขาก็ซื้อบัตรจองเข้ามาเป็นจำนวนหกพันบาท อันนี้เป็นราคาสมมติ และปรากฏว่าอีเว้นท์ตัวนี้ไม่เกิดขึ้นจริง เขาก็ทวงตังค์คืน ศวัสก็โยกโย้ไม่รับโทรศัพท์ไม่โทรกลับ ปิดเครื่อง บล็อคเว็บเพจ เฟสบุ๊ค"
"จนกระทั่งเรื่องไปถึงพี่บี๋มาบอกเราๆ ก็ต้องจ่ายตังค์ให้ไปอีก นี่คือเคสที่เราเห็นๆ และบอกไว้แล้วว่าอย่าทำอีกนะเหมือนกับว่าเราก็อยากช่วยให้เขาเป็นคนดี เพราะไม่คิดว่าเขาจะเลวขนาดนี้มาตอนหลังงอกขึ้นมาไม่รู้แต่กี่เรื่องๆ แล้วคนทั่วไปเริ่มมองว่าเรามีส่วนรู้เห็นด้วยมันเลยเลวร้ายมาก”
ส่วนในเรื่องของความเสียหายสาวร็อคเกอร์ สุกัญญา มิเกล นั้นบอกไม่สามารถที่จะรุบุตัวเลขที่มันชัดเจนได้เพราะไม่ได้มีการทำบัญชีกันเอาไว้ แต่รู้ว่ามีคนที่โดน ศวัส หลอกลวงเอาเงินไปเยอะหลายคน
“ถ้าในส่วนของเราเองตอนนี้รถเอาไปซ่อมอยู่ และไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วว่าไปรับรถมาวันไหน ถ้าเกิดเขาเคยขับไปชนเฉี่ยวใครแล้วมีคนเจ็บ คนที่ใช้รถคือคุณศวัสคนนี้ ดังนั้นจะเสียหายจากเคสนี้ที่เขาทำเนี่ยก็คงจะมีบ้างเล็กน้อย แต่ในเรื่องของซ่อมรถพี่ต้องซ่อมเองอยู่แล้วและไม่รู้ว่าต้องจ่ายอีกกี่หมื่น"
"แล้วก็เงินที่ทำการชดใช้อุดให้กับศิลปินที่โดนล่อลวงไปใช้งาน แล้วจ่ายค่าตัวครบบ้างไม่ครบบ้างก็ตกราวๆ ที่ประมาณห้าหมื่นกว่าบาท และเงินที่ส่งให้เขาเป็นเหมือนเงินเดือนแล้วก็มีเงินส่วนอื่นๆ ที่เราหยิบยื่นกันมือต่อมือก็คงประมาณอีกหลายๆ หมื่นแต่เราไม่ได้ทำบิลเอาไว้เลยไม่รู้ว่ามันคือจำนวนเท่าไหร่ แต่ก็จัดว่าโดนกันเยอะหลายคนเลยทีเดียว”
ถึงจะถูกหลอกลวงยักยอกจนทำให้เสียทรัพย์และเสียชื่อเสียงกันหลายๆ คน แต่ทุกคนก็ลงความเห็นที่จะไม่เอาเรื่องฟ้องร้องมีคดีความ เพราะทำไปก็ไม่มีประโยชน์ที่จะได้เงินคืนเนื่องจาก ศวัส ไม่มีงานทำเรียกร้องอะไรไปก็คงไม่มีทางที่จะได้คืน แต่ที่ต้องการออกมาเป็นข่าว เพราะอยากฝากเตือนไม่อยากให้มีเหยื่อรายต่อๆ ไปอีก
“เท่าที่คุยหลายๆ เคสที่เข้ามาในเฟสแล้วว่าแต่ละคนต้องการเรียกสิ่งที่เขายักยอกหรือหลอกลวงไปคืนหรือไม่ แต่ส่วนตัวพี่ไม่ต้องการได้แต่อยากที่จะแจ้งให้ทุกคนรู้ว่าบุคคลๆ นี้น่ากลัวนะถ้าเขาไปติดต่องานด้วยก็น่าจะจำข่าวนี้ได้และคิดเอาเองว่าจะทำงานกับเขาดีมั้ย แค่เตือนไว้เฉยๆ ที่ผ่านมาเขาไม่ได้ทำกับเราคนเดียวเขาเอาตรงนี้ไปโฆษณากับคนอื่นๆ ด้วย ทำนองเดียวคล้ายๆ กับนาธานอ่ะ (หัวเราะ)แบบเดียวกันเลย ต้องการเงิน”
“ตอนนี้เท่าที่คุยกับหมู่ศิลปินกรุ๊ปแรกที่โดนหักหลัง โดนหลอกล่อไปเนี่ย แต่ละคนสงสารเขาเพราะว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีการงานไม่มีอะไรเราเรียกร้องอะไรไปก็ไม่ได้คืนอยู่แล้ว การทำคดีพวกเราก็เสียเวลาโดยที่ไม่ได้อะไรคืนนอกเหนือว่าเอาเขาเข้าคุกมีอยู่อย่างเดียวว่าถ้าเขายังไม่หยุดพอข่าวนี้ออกไปแล้วเขายังไม่หยุดที่จะไปหลอกคนอื่นอีกเมื่อนั้นแหล่ะเราถึงจะทำการจับดำเนินคดีจริงๆ"
ที่มา: manager.co.th