อรูบ้าเผยเทรนด์การใช้งานไวไฟมีอัตราการเติบโตสูงทั่วโลก โดยเฉพาะภายในองค์กรขนาดใหญ่ที่ได้รับเทรนด์นำอุปกรณ์พกพาส่วนตัวมาใช้ (BYOD) ส่วนการเติบโตของไวไฟในเมืองไทยเพิ่มตามยอดขายสมาร์ทโฟน แนะองค์กรต้องจัดการโมบิลิตีเน็ตเวิร์กให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคไม่ได้มีดีไวซ์เพียงเครื่องเดียวทำให้เกิดความต้องการใช้งานสปีดที่สูงขึ้น และส่งผลโดยตรงต่อการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่าย นายโดนอลด์ เมเยอร์ ผู้จัดการอาวุโสการตลาดผลิตภัณฑ์ บริษัท อรูบ้า เน็ตเวิร์คส์ อิงค์ กล่าวว่า เทรนด์การใช้งานไวไฟจำเป็นมากขึ้นและมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะการใช้งานไวร์เลสภายในองค์กรขนาดใหญ่ที่เป็นผลมาจากการทำงานแบบที่พนักงานสามารถนำอุปกรณ์ส่วนตัวเข้ามาใช้งานในองค์กรได้ หรือ Bring Your Own Device (BYOD) ซึ่งกำลังกลายเป็นกระแสในอนาคต
นอกจากนี้ พฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคทั่วไปก็เริ่มเข้าสู่โมบายล์เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องคำนึงถึงด้านการใช้งานที่ไม่ได้ซัปพอร์ตเฉพาะองค์กร แต่ต้องรวมถึงลูกค้าหรือคนที่เข้ามาใช้งานที่จะเพิ่มขึ้นมาด้วย ดังนั้นการติดตั้งเพื่อการใช้งานไวไฟต้องมีสปีดที่ดี และแพลตฟอร์มต้องสามารถรองรับได้ดีเช่นกัน
“ปัจจุบันผู้บริโภคมีการใช้งานโมบายล์ที่เปลี่ยนไป ทำให้เราจะเห็นปรากฏการณ์การใช้โมบิลิตีไม่เหมือนเดิม ผู้ใช้คนหนึ่งเริ่มใช้งานอุปกรณ์โมบายล์หลายเครื่องจากเดิมที่มีเพียงเครื่องเดียว ดังนั้นการเชื่อมต่อต้องมีการจัดการที่ดีเพื่อสร้างประสบการณ์ของลูกค้าให้ดีขึ้นตามไปด้วย”
สำหรับในเมืองไทย การเติบโตของตลาดไวไฟเกิดจากการใช้งานของสมาร์ทโฟนที่เพิ่มมากขึ้น การเชื่อมโยงเครือข่ายสังคมออนไลน์ การเชื่อมต่อกับการทำงานต่างๆ ทำให้การใช้งานเครือข่ายเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
นายโดนอลด์กล่าวว่า ABI Research ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมามีการผลิตอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายออกมามากกว่า 9 พันล้านเครื่อง ในขณะที่การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่ายอดการดาวน์โหลดโมบายล์แอปพลิเคชันจะมีจำนวนสูงถึง 3.1 แสนล้านครั้งภายในปี 2559 ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญกับการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของจำนวนอุปกรณ์โมบายล์และแอปพลิเคชันต่างๆ ผู้ดูแลระบบไอทีขององค์กรจึงต้องมั่นใจว่าโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่ายจะสามารถให้ประสิทธิภาพและคุณภาพที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานแอปพลิเคชันทางธุรกิจ
เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการการใช้งานดังกล่าว อรูบ้าจึงได้ทำการเปิดตัวแพลตฟอร์มเครือข่ายไร้สายที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับปริมาณโมบายล์แอปพลิเคชันและอุปกรณ์พกพาที่มีการนำมาใช้งานอย่างมากมายในองค์กร ขณะเดียวกันก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านไอทีขององค์กรอีกด้วย
โดยผลิตภัณฑ์อรูบ้า 72000 ซีรีส์ (Aruba 7200 Series) จะเป็นอุปกรณ์โมบิลิตีคอนโทรลเลอร์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AppRF ของอรูบ้า ที่มีความสามารถในการรู้จักและควบคุมแอปพลิเคชัน ทำให้การใช้งานแอปพลิเคชันผ่านเครือข่ายไร้สายมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 11 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชันในปัจจุบัน รวมถึงใช้ฟังก์ชัน Airtime Fairness, QoS เพื่อควบคุมคุณสมบัติการแพร่สัญญาณวิทยุที่อุปกรณ์แอ็กเซสพอยต์ ซึ่งอุปกรณ์คอนโทรลเลอร์จะปรับการใช้งาน ชนิดของแอปพลิเคชัน และโปรไฟล์ของผู้ใช้ให้ได้รับประสิทธิภาพสูงสุดจากการใช้งานเครือข่ายไร้สาย รวมไปถึงยังครอบคลุมทั้งแอปพลิเคชันที่อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรและแอปพลิเคชันบน ระบบคลาวด์ และรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อ 802.11 a/c อีกด้วย
นายประคุน เลาหกิตติกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อรูบ้า เน็ตเวิร์คส์ อิงค์ กล่าวว่า ปัจุบันการใช้งานไวไฟในเมืองไทยเพิ่มสูงขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้งานสมาร์ทโฟนทำให้โอเปอเรเตอร์ต่างหันมาให้ความสนใจและเปิดให้บริการแก่ลูกค้ามากขึ้น
นอกจากนี้ ในส่วนของภาครัฐเองยังได้มองเห็นความสำคัญในเรื่องนี้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างจุดเชื่อมต่อไวไฟให้กับสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อรองรับการใช้งานแท็บเล็ตของนักเรียน ตลอดจนการติดตั้งไวไฟภายในองค์กรรัฐวิสาหกิจเพื่อให้ผู้บริการได้ใช้งานไวไฟภายในหน่วยงานก็มีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน อรูบ้าจึงมองเห็นแนวโน้มการใช้งานที่เพิ่มขึ้น จึงนำผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Aruba 7200 ซีรีส์ มาจัดการเพื่อสร้างประสิทธิภาพให้แก่องค์กรและตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว
Company Relate Link :
Aruba
ที่มา: manager.co.th
