“ดี้ นิติพงษ์” เลิกหนีโผล่เคลียร์คดีเมีย “รุ่งฤดี” ข่มขู่กิ๊กเก่า โวยจะเอาให้ตายกันเลยเหรอ ยันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เป็นเรื่องของอารมณ์ และเป็นการพนันเฉยๆ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว รับข่าวดังกล่าวมีผลกระทบต่อชีวิต ลูกห้ามมองผู้หญิงอื่นแต่กับเมียไม่มีปัญหา เจ้าตัวบอกตอนแรกรู้สึกดีมีข่าวชู้สาวจะได้ดูหล่อ แต่พอเจอเข้าจริงๆ เป็นความซวยชัดๆ หลังจาก “ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค” หนีไม่ยอมให้สัมภาษณ์มานานร่วมปี นับตั้งแต่ “รุ่งฤดี ห่อนาค” ภรรยาของดี้ ถูก “พรรัมภา” อดีตนักแต่งเพลงสาวที่เคยทำงานอยู่ค่ายแกรมมี่และสหภาพการดนตรี พร้อมด้วย “ธนากร” สามี ไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่าโดนรุ่งฤดีข่มขู่ด้วยการส่งข้อความมาด่าว่าเป็นกะหรี่ 18 มงกุฎ และขู่จะให้นอนโรงพยาบาลฟรี 3 เดือน แถมยังอ้างรู้จักกับ ผบ.ตร. ฯลฯ เพราะหึงหวงที่อดีตนักแต่งเพลงสาวเคยมีความสัมพันธ์กับ ดี้ นิติพงษ์ สามี ถึงแม้จะเลิกยุ่งเกี่ยวกันไปนานแล้วก็ตาม ล่าสุด ดี้ก็ยอมเปิดปากเคลียร์เรื่องนี้เป็นครั้งแรกในระหว่างมาร่วมงานแถลงข่าว “โครงการปลุกจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน” ที่จัดขึ้น ณ โรงแรมเซ็นทารา เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งทันทีที่โดนถามเจ้าตัวก็ถึงกับร้องโอ้ย! พร้อมยันเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด
"โอ้ย…อย่าถามยาวเลย ยิ่งพูดก็ยิ่งเสีย ข่าวมันก็เงียบไป ไม่ได้พูดคุยกัน จะเอาให้เป็นให้ตายกันเลยเหรอ ข่าวแบบนี้ไม่อยากพูด พูดไปแล้วมันไม่มีใครได้ มีแต่คนเสีย มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ผมบอกนะว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด มีเรื่องของอารมณ์เกิดขึ้น และเรื่องของพนัน ตอนนี้ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่ (เห็นมีเรื่องการจะฟ้องร้อง) จะเอาจริงๆ เหรอ จะฟ้องอะไรบางอย่าง เรื่องก็เงียบไปแล้วนี่ไม่มีอะไร ผมไม่ได้ไปฟ้องร้อง ก็ไม่ได้ไปมีเรื่องอะไรต่อจากตอนนั้นกับข่าวคราวที่มีขึ้นมา”
“ผลกระทบไม่มีอะไรนะ ตอนนั้นอาจจะงงๆ กันนิดหน่อยเพราะจู่ๆ ก็มีข่าว เลยไม่อยากพูดอะไรมาก มันจะเสียกันหมด ครอบครัวก็เข้าใจกันดี ไม่มีปัญหา ไปเที่ยวกันปกติ ทุกวันนี้ลูกยังห้ามไม่ให้มองผู้หญิงเลย ไม่มีนัดเคลียร์ มันจบไปแล้วไม่มีอะไรไม่อยากพูดอะไร”
“ตอนแรกก็มีผลกระทบนิดนึง แต่ก็ปล่อยไป ไม่ได้คิดว่ามันจะมากระทบอะไรชีวิตผม ทุกเรื่องราวมันมีเข้าใจผิดกันได้ ก็เลยไม่อยากจะพูดอะไรเดี๋ยวมันจะกลายเป็นเรื่องขึ้นมา ทางภรรยาผมก็ไม่มีอะไร ก็ไปเที่ยวกันปกติ กับเรื่องนี้ไม่มีใครมาถามอะไรมากมาย แต่ก็มีคนโทร.มาถาม ก็คิดว่าดีเหมือนกันมีข่าวอย่างนี้ซะบ้างจะได้ดูหล่อๆ เป็นสีสันในชีวิต แต่พอเป็นขึ้นมาจริงๆ แล้วมันไม่สนุกเลย แบบว่าซวยแล้ว”
ที่มา: manager.co.th