ไซแมนเทคเผยผลสำรวจสถานะศูนย์ข้อมูล พบมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นจากเทรนด์ใหม่ของเทคโนโลยี ทั้ง BYOD (Bring Your Own Device) คลาวด์ และเวอร์ชวลไลเซชัน ทำให้แต่ละองค์กรต้องเตรียมความพร้อมเพื่อปรับปรุงศูนย์ข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ นายประมุท ศรีวิเชียร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ไซแมนเทค ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ทางไซแมนเทคได้ทำการสำรวจสถานะของศูนย์ข้อมูล (Data Center) จาก 2,453 องค์กร 32 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย 100 องค์กร พบว่าศูนย์ข้อมูลมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อธุรกิจในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อแบ่งเป็นภูมิภาคแล้วพบว่าในแถบละตินอเมริกามีความซับซ้อนมากที่สุด ส่วนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นมีอัตราการซับซ้อนของข้อมูลน้อยที่สุด
ขณะที่ความซับซ้อนของศูนย์ข้อมูลกว่า 95% เกิดจากการเพิ่มปริมาณของแอปพลิเคชันจากเทรนด์ของโมบายล์ดีไวซ์ ถัดมาคือเทรนด์ของ BigData ทำให้ต้องมีการเตรียมความพร้อมของศูนย์ข้อมูลให้เสถียรขึ้นเพราะ 54% ของความซับซ้อนเกิดจากเทรนด์ดังกล่าว ส่วนการใช้งานพับลิกคลาวด์ส่งผลกระทบ 49% การบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์เวอร์ชวลไลเซชัน เดสก์ท็อปเวอร์ชวลไลเซชัน และไพรเวตคลาวด์ ส่งผลกระทบที่ 46% เท่าๆ กัน โดยผลกระทบทำให้เกิดปัญหาในการสืบค้นข้อมูลย้อนหลังถึง 47% ถัดมาเป็นปัญหาเกี่ยวกับการแบ่งสรรพื้นที่เก็บข้อมูลให้แก่ผู้ใช้งาน 40%
“ไซแมนเทคแนะนำให้ต้องสามารถบริหารจัดการศูนย์ข้อมูลด้วยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และรองรับรูปแบบการเปลี่ยนแปลง ความเข้าใจในแง่ของการเข้าถึงข้อมูล เพื่อรับกับอุปกรณ์รูปแบบต่างๆ ที่แตกต่างออกไป ลดจำนวนของการสำรองข้อมูลที่ซ้ำซ้อน”
ปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับการบริหารข้อมูลอย่างโปร่งใสในเมืองไทย ได้แก่ การรักษาความปลอดภัย 77% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าค่อนข้างสำคัญหรือสำคัญอย่างมาก ความพร้อมใช้งานของเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการบริหารข้อมูลอย่างโปร่งใส 62% ปัญหาเรื่องกฎระเบียบ 56% ดาต้าเซ็นเตอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น 55% ปัญหาด้านกฎหมาย 46% และการเพิ่มขึ้นของข้อมูล 43%
ขณะเดียวกัน องค์กรในเมืองไทยมีเป้าหมายหลายประการเกี่ยวกับการบริหารข้อมูลอย่างโปร่งใส รวมถึงการปรับปรุงความปลอดภัย 74% ระบุว่ามีความสำคัญ การตั้งค่าการปกป้องตามคุณประโยชน์ของข้อมูล 71% ความสะดวกในการค้นหาข้อมูลที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที 68% ลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการจัดเก็บข้อมูล 63% และลดความเสี่ยงทางกฎหมายและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ 60%
นายนพชัย ตั้งไตรธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค บริษัท ไซแมนเทค เปิดเผยถึงรูปแบบการโจมตีทางอินเทอร์เน็ตที่คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นในปี 2013 ไว้ว่า ในเมืองไทยที่น่าจะเห็นคือเรื่องของ Adware ที่ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตค่อนข้างเร็ว จากปริมาณการใช้งานโมบายล์ที่แฝงโฆษณาภายในแอปพลิเคชัน ขณะเดียวกัน เรื่องของโมบายล์แบงกิ้งก็เริ่มมีจำนวนมากขึ้น ทำให้กลายเป็นเป้าโจมตีตามปริมาณผู้ใช้งาน
Company Relate Link :
Symantec
ที่มา: manager.co.th