“มิกกี้” ซัด “หมออ้อย” ปั้นเรื่องตนอุ๊บอิ๊บเงิน 4.9 แสน ท้าเดี๋ยวก็รู้ความจริงเป็นยังไง ประกาศยังไงก็ไม่ไปเผชิญหน้าอีกฝ่ายที่ศาลแน่นอน พร้อมกร้าวตนมีหลักฐานที่หมออ้อยขอไกล่เกลี่ย แต่ตนไม่ยอม ซัดหยุดสร้างกระแสด้วยวิธีนี้ นอกจากจะเปิดศึกสาดน้ำลายกันไปมาจนฉาวไปตามๆ กันแล้ว “หมออ้อย จุฑารัตน์ เทียมสุวรรณ” ยังเดินหน้าฟ้องแพ่ง แฟนเก่า “มิกกี้ ณัฐพงษ์ ชอบชื่น” เรียกเงิน 4.9 แสน ที่เจ้าตัวอ้างว่ามิกกี้อุ๊บอิ๊บไปสมัยยังคบหากัน ซึ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมาศาลได้นัดทั้งคู่ไกล่เกลี่ย แต่ปรากฏว่าทางฝ่ายของมิกกี้กลับไม่ไป ส่งเพียงทนายความส่วนตัวไป ทำเอาหมออ้อยที่เดินทางไปศาลด้วยตัวเองออกมาฉะว่าอีกฝ่ายตั้งใจหนี ล่าสุดมิกกี้ก็ได้ออกมาตอบโต้เรื่องนี้ว่า…
“จริงๆ ที่ผมไม่ออกมาพูดก็เพราะว่าผมไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องราวเหล่านั้นไปทำไม เพราะว่าเป็นการสร้างเรื่องของคนอีกคนนึง ซึ่งผมไม่ต้องออกมาแก้ตัวในเรื่องที่มันไม่เป็นจริง ผมว่าให้เขาหยุดเถอะครับ เพราะมันไม่มีประโยชน์ที่ออกมาทำลายคนอื่นโดยที่เสียภาพพจน์ของตัวเอง ก็อยากให้เขาปล่อยวาง ถ้าคิดอยากจะสร้างกระแสให้กับตัวเอง ก็ควรใช้วิธีอื่นดีกว่า เพราะว่าเราสองคนไม่ได้สนใจ ไม่ได้เสพข่าว ไม่สนใจคำพูดของเขา เพราะฉะนั้นเขาอยากจะเลือกเดินทางไปทางไหน ก็แล้วแต่เขา”
“หลักฐานที่ผมบอกว่าจะเอามาแฉ ไม่ใช่หลักฐานที่จะมาแฉเขาในทางไม่ดี แต่เป็นหลักฐานที่ผมจะแสดงว่าผมไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด ตามที่เขาแอบอ้าง เพราะว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรว่าคนที่จากกันแล้วจะต้องมาประจานอีกฝ่ายนึง หรือว่ามาใส่ร้ายอีกฝ่ายนึง คืออย่างที่ผ่านมาผมได้ยินเขาบอกว่าเขาไม่ยอมความ ผมไม่ไปศาล หนีศาล”
“จริงๆ วันนี้ถ้าใครอยากดูหลักฐานว่าใครเป็นคนขอไกล่เกลี่ยกันแน่ ผมมี เพราะเขาเป็นคนขอไกล่เกลี่ย ซึ่งผมเองก็บอกกับทางทนายไปว่ายังไม่ไกล่เกลี่ย ผมจะดำเนินคดีนี้ให้ถึงที่สิ้นสุด จะได้รู้กันไปว่าข้อความที่เขาออกไปโพสต์มันเป็นมายังไงกันแน่ แล้วนัดสื่อมวลชนไปเยอะแยะมากมาย ผมก็งงว่าพี่สื่อมวลชนไปทำไม ผลก็ปรากฏว่าผมหนีคดี มาบอกว่าผมมาขอไกล่เกลี่ย แต่เขาไม่ยอมไกล่เกลี่ย ผมก็นั่งขำว่า เอ๊ะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไง”
พร้อมแย้ง เงิน 4.9 แสนที่ “หมออ้อย” บอกว่าตนเอาไปนั้น เป็นการสร้างเรื่องขึ้นมา
“คือเงินจำนวนนี้จริงๆ เป็นเรื่องที่เขาสร้างขึ้นมา เขาจะตั้งจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ เพื่อที่จะมาโจมตีเรา ผมอยากให้มาดูกันที่ศาลว่าเขาจะพิจารณาออกมาแล้ว นัดต่อไปวันที่ 24 ธันวาฯ ก็หวังว่าคงไม่ออกมาพูดอีกว่าผมไม่ไป เพราะผมไม่ไปอยู่แล้ว ไม่จำเป็นว่าผมต้องไปศาล”
ที่มา: manager.co.th