Author Topic: Twitter ชน Instagram ทำศึกชิงตลาดแชร์ภาพ ผู้ใช้เซ็ง ใช้งานได้ไม่เหมือนเดิม  (Read 1448 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ภาพจากอินสตาแกรมที่ถูกตัดหรือ crop ทิ้งบางส่วน กำลังปรากฏบนทวิตเตอร์ เพราะวันนี้อินสตาแกรมประกาศเปลี่ยนนโยบายให้บริการบนทวิตเตอร์แล้ว


ซีอีโอและผู้ก่อตั้งอินสตาแกรมนาม Kevin Systrom ยืนยันว่าบริษัทได้เปลี่ยนแปลงวิธีการแนบข้อมูลลงในทวิตเตอร์จริง

ผู้ใช้บริการเครือข่ายสังคมรับส่งข้อความสั้นอย่างทวิตเตอร์ (Twitter) จะไม่สามารถชมภาพถ่ายเต็มเฟรมจากบริการอินสตาแกรม (Instagram) ได้บนบริการทวิตเตอร์อีกต่อไป โดยทวิตเตอร์ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา คาดปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นผลจากแย่งชิงตลาดแชร์ภาพถ่ายที่อินสตาแกรมต้องการขยายฐานตลาดให้ชัดเจน จนทำให้ผู้ใช้ได้รับผลกระทบเต็มๆ
       
       แถลงการณ์ของทวิตเตอร์ระบุว่า อินสตาแกรมนั้นเปลี่ยนแปลงวิธีการแนบภาพลงในบริการทวิตเตอร์ โดยยกเลิกกระบวนการซึ่งทวิตเตอร์เรียกว่า Twitter card integration รูปแบบการสรุปข้อมูลบนทวิตเตอร์ที่อินสตาแกรมเคยใช้เพื่อให้ผู้ใช้เปิดชมภาพอินสตาแกรมบนทวิตเตอร์ได้ การยกเลิก Twitter card ทำให้ผู้ใช้จำนวนหนึ่งเริ่มไม่สามารถชมภาพอินสตาแกรมแบบเต็มๆ ได้บนทวิตเตอร์ (ด้วยการกดปุ่ม View Photo) อย่างเคย ขณะที่บางรายพบว่าภาพถูกตัดทิ้งบางส่วน
       
       ทวิตเตอร์อธิบายว่า ปัญหาการชมภาพอินสตาแกรมที่ผู้ใช้บางส่วนกำลังพบในขณะนี้เป็นเรื่องปกติของคอนเทนต์ที่ไม่ผ่านขั้นตอนการแนบการ์ด (pre-card experience) โดยเมื่อผู้ใช้คลิกที่ข้อความทวีตซึ่งมีลิงก์อินสตาแกรมปรากฏอยู่ ภาพจำนวนมากจะปรากฏในลักษณะถูกตัดหรือ crop ทิ้งไปบางส่วน
       
       ในแถลงการณ์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งอินสตาแกรมนาม Kevin Systrom ยืนยันว่าบริษัทได้เปลี่ยนแปลงวิธีการแนบข้อมูลลงในทวิตเตอร์จริง โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะการใช้งานผ่านหน้าเว็บไซต์ของอินสตาแกรมที่เติบโตต่อเนื่อง
       
       ซีอีโออินสตาแกรมระบุว่า หลายเดือนที่ผ่านมาบริษัทรองรับ Twitter card เพราะยังมีการใช้งานผ่านหน้าเว็บไซต์น้อยอยู่ กระทั่งบริษัทได้ปรับปรุงและเปิดตัวเว็บไซต์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงภาพและร่วมกิจกรรมได้โดยตรง ทั้งการกด Like, แสดงความเห็น (comment) และการติดป้ายเรื่อง (hashtag) ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้บริษัทเชื่อว่าจะเป็นการดีกว่าหากอินสตาแกรมจะดึงผู้ใช้กลับมายังสถานที่ที่คอนเทนต์อินสตาแกรมให้บริการแบบสดๆ
       
       Systrom ย้ำว่า ผู้ใช้ยังคงสามารถแชร์ภาพผ่านทวิตเตอร์ได้ต่อไปเหมือนกับช่วงก่อนหน้านี้ที่อินสตาแกรมยังไม่ได้รองรับ Twitter card โดยยืนยันว่าบริษัทกำลังพยายามหาทางปรับปรุงประสบการณ์ที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์จะได้ชมภาพอินสตาแกรมอย่างสมบูรณ์ที่สุด

หลายฝ่ายเชื่อมโยงการประกาศครั้งนี้เข้ากับเฟซบุ๊ก (Facebook) ยักษ์ใหญ่เครือข่ายสังคมอันดับ 1 ของโลกที่ประกาศซื้อกิจการอินสตาแกรมไปตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ครั้งนั้น นักวิเคราะห์ต่างชาติล้วนแสดงความกังวลว่าบริการอินสตาแกรมจะยกเลิกการผูกบริการเข้ากับเครือข่ายสังคมค่ายอื่น แม้ซีอีโอเฟซบุ๊กจะยืนยันว่าจะยังคงความสามารถในการผูกบริการอินสตาแกรมไว้กับเครือข่ายอื่นดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
       
       อินสตาแกรมนั้นเป็นบริการแอปพลิเคชันตกแต่งและแชร์ภาพถ่ายซึ่งทำให้ผู้ใช้อุปกรณ์ไอโอเอส (iOS) ทั้งไอโฟน ไอแพด และไอพอดทัช รวมถึงอุปกรณ์แอนดรอยด์ (Android) สามารถถ่ายภาพและนำไปประกาศไว้บนเครือข่ายสังคมหลากหลายค่าย ปัจจุบันแอปพลิเคชันอินสตาแกรมมีสมาชิกผู้ใช้งานเป็นประจำมากกว่า 30 ล้านคน และมีการอัปโหลดภาพขึ้นสู่ระบบมากกว่า 5 ล้านภาพต่อวัน โดยในช่วงเวลาที่เฟซบุ๊กตัดสินใจซื้ออินสตาแกรม มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอเฟซบุ๊กประกาศว่าเฟซบุ๊กรู้ดีว่าการที่บริการอินสตาแกรมเปิดกว้างให้ผู้ใช้เครือข่ายสังคมอื่นมาใช้งานได้นั้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคชื่นชอบอินสตาแกรม ดังนั้นบริษัทจึงตั้งใจรักษาความสามารถดั้งเดิมของอินสตาแกรมไว้ต่อไป โดยเฉพาะความสามารถในการโพสต์ภาพลงบนเครือข่ายสังคมอื่นๆ นอกเหนือจากเฟซบุ๊ก
       
       อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นสวนทางกับคำกล่าวของซีอีโอเฟซบุ๊กทั้งหมด เนื่องจากหลังจากการประกาศไม่นาน อินสตาแกรมก็ลงมือสร้างเว็บไซต์เพื่อขยายบริการให้รองรับผู้ไม่ได้ใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยเปิดให้บริการเว็บไซต์เครือข่ายสังคมอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งผู้ใช้จะสามารถชมภาพใหญ่จุใจบนคอมพิวเตอร์ไม่ต่างจากการชมภาพบนเฟซบุ๊ก
       
       นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่านี่คือสัญญาณการแข่งขันในสงครามตลาดแชร์ภาพที่ดุเดือดยิ่งขึ้น โดยอินสตาแกรมต้องลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ปัญหาการไม่ได้รับประโยชน์จากทราฟฟิกทวิตเตอร์ จุดนี้ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์ Diffbot พบว่ากว่า 36% ของลิงก์ทุกชนิดที่แชร์บนทวิตเตอร์นั้นเป็นลิงก์ภาพถ่าย ซึ่งแม้สัดส่วนดังกล่าวจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่กว่า 40% ของลิงก์เหล่านี้ถูกเชื่อมกับเพจที่แสดงภาพของทวิตเตอร์เอง มีเพียง 15% เท่านั้นที่ลิงก์ไปสู่เว็บไซต์ของอินสตาแกรม
       
       นอกจากนี้ ยังมีการนำไปเชื่อมโยงกับความเคลื่อนไหวของทวิตเตอร์ ซึ่งมีข่าวว่าทวิตเตอร์เตรียมเพิ่มบริการตกแต่งภาพถ่ายเพื่อให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์สามารถตกแต่งภาพได้ แน่นอนว่าคุณสมบัตินี้อาจทำให้ทวิตเตอร์กลายเป็นคู่แข่งอินสตาแกรมทางอ้อม ทำให้ไม่แน่ว่าอินสตาแกรมอาจต้องการตัดไฟแต่ต้นลมก่อนจะถึงวันที่ทวิตเตอร์เป็นคู่แข่งอย่างเต็มตัว จึงต้องหาทางปรับรูปแบบความร่วมมือในที่สุด

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
1943 Views
Last post April 11, 2009, 01:38:04 AM
by Reporter
0 Replies
1782 Views
Last post October 05, 2010, 12:46:23 PM
by Nick
0 Replies
1696 Views
Last post October 07, 2010, 12:58:57 PM
by Nick
0 Replies
1739 Views
Last post October 07, 2010, 03:04:16 PM
by Nick
0 Replies
1735 Views
Last post May 24, 2011, 01:32:11 PM
by Nick
0 Replies
1510 Views
Last post May 10, 2012, 05:26:58 PM
by Nick
0 Replies
1353 Views
Last post August 20, 2012, 04:18:57 PM
by Nick
0 Replies
1570 Views
Last post September 23, 2012, 07:06:37 PM
by Nick
0 Replies
1485 Views
Last post October 01, 2012, 03:26:14 PM
by Nick
0 Replies
1432 Views
Last post December 11, 2012, 07:59:48 PM
by Nick