Author Topic: Advice เกาะแท็บเล็ตจีน ดันยอดขายปี 56 ทะลุ 16,000 ล้าน  (Read 955 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ตลาดแท็บเล็ตจีนเฟื่องฟู

     แอดไวซ์ มั่นใจ ปีหน้ายังคงเป็นปีทองของแท็บเล็ต เตรียมส่งแท็บเล็ตจีนราคาถูกลงตลาด พร้อมขยายไลน์นำแบรนด์อื่นเข้ามาทำตลาด หวังดันยอดขายโตขึ้น 10 เท่า พร้อมปรับปรุงหน้าร้านใหม่ดูทันสมัยรองรับเทรนด์ใหม่ของลูกค้ามากขึ้น มั่นใจยอดขายปีหน้าอยู่ที่ 16,000 ล้านบาท โตขึ้น 40 % เมื่อเทียบกับยอดขายปีนี้ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 11,000 ล้านบาท
       
       นายณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยร่วมค้าเดอะซิสเต็ม จำกัด หรือ แอดไวซ์ กล่าวว่า ปัจจุบันการเติบโตของอุปกรณ์ไอทีมีอัตราการเติบโตที่สูงมาก โดยเฉพาะแท็บเล็ตยังเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากพฤติกรรมการใช้งาน การเรียนรู้ และความพร้อมของระบบสารสนเทศพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น ไวไฟ ไวร์เลส และ 3G ที่สามารถรองรับการใช้งานทุกที่ ทุกเวลาได้ ทำให้เกิดความต้องการใช้งานเป็นจำนวนมาก จากตัวเลขไอดีซีคาดว่าในปีนี้แท็บเล็ตจะมีการเติบโตประมาณ 125%
       
       ด้วยแนวโน้มความต้องการดังกล่าว แอดไวซ์ จึงได้ขยายไลน์การจำหน่ายแท็บเล็ตเพิ่มมากขึ้น โดยที่ผ่านมาได้ทดลองทำตลาดแท็บเล็ตราคาย่อมเยาว์เริ่มต้นที่ 1,699 บาท ภายใต้แบรนด์ Scopad, Aigo ฯลฯ ในงานคอมมาร์ตที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับมียอดขายตลอดงานรวม 2,600 เครื่อง ในขณะที่ตลาดการศึกษาก็ยังความต้องการแท็บเล็ตราคาย่อมเยาว์อีกจำนวนมาก ดังนั้นนอกจากแบรนด์จีนแล้วในปีหน้าแอดไวซ์จะนำผลิตภัณฑ์แท็บเล็ตหลากหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Acer, Samsung, Asus, Toshiba, Sanei, Ainol เป็นต้น ที่มีขนาดตั้งแต่ 6 นิ้วขึ้นไปมาทำตลาดให้กับลูกค้าได้เลือกตามความต้องการ
       
       “แอดไวซ์ เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลากหลายแบรนด์ ทั้งทั้งค้าปลีก-ส่ง สินค้าอุปกรณ์ไอทีกว่า 4,500 ชนิด ทำให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานจึงตัดสินใจนำแท็บเล็ตหลากหลายรุ่นและราคาเข้ามาทำตลาดในครั้งนี้ และคาดว่าจะได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะทั้งดีไซน์ ขนาด นวัตกรรมและราคาจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้ไม่ยาก นอกจากนี้การขยายไลน์สินค้าในส่วนของแท็บเล็ตนี้จะถือเป็นการปูทางไปสู่การทำตลาดของการทำตลาดสมาร์ทโฟนในอนาคต”
       
       นายณัฏฐ์ กล่าวว่า แอดไวซ์ คาดว่าในปีหน้าจะมีความต้องการใช้งานแท็บเล็ตเพิ่มขึ้นส่งผลให้ยอดขายแท็บเล็ตของแอดไวซ์เพิ่ม 10 เท่าเมื่อเทียบกับยอดขายรวมของปีนี้ที่น่าจะอยู่ประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนธุรกิจโดยรวมจะโตประมาณ 40% เป็นการเติบโตของโน้ตบุ๊ก 20% และคอมโพเนนท์ 10% และจะมีเพิ่มเติมในส่วนของ สมาร์ทโฟนอีกด้วย ที่จะตอบสนองความต้องการและข้อจำกัดด้านงบประมาณ
       
       "ในเดือนมีนาคมปีหน้า จะมีการนำเสนอสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ที่มีราคาเพียง 1,990 บาทมาทำตลาด ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ยอดขายรวมของแอดไวซ์ในปี 2556 สูงถึง 16,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40 %เมื่อเทียบกับยอดขายในปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 11,000 ล้านบาท"
       
       การสร้างยอดขายที่เติบโตขึ้นดังกล่าวนอกจากจะมาจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ในส่วนของแท็บเล็ตแล้ว แอดไวซ์จะมีการปรับปรุงร้านค้าตัวแทนทั่วประเทศกว่า 142 แห่งให้ดูทันสมัยมากขึ้น รวมไปถึงจัดกิจกรรมทางการตลาดผ่านหน้าร้านมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ในส่วนของแท็บเล็ตแบรนด์จีนอย่างสโคปนั้น แอดไวซ์สามารถการันตีได้ว่าจะสามารถซ่อมได้อย่างแน่นอนเพราะนอกจากจะนำเข้าแล้วบริษัทฯ ยังได้นำความรู้ในตัวผลิตภัณท์เพื่อมาใช้ในการซ่อมบำรุงให้กับลูกค้าเองอีกด้วย
       
       “แอดไวซ์ ใช้ระบบออนไลน์แบบเรียลไทม์เป็นทั้งเครื่องมือและช่องทางเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ รวมถึงระบบข้อมูลคลังสินค้า ชิ้นส่วน การจัดส่ง ระบบบัญชี การดูแลรักษา ฯลฯ รวมถึงกิจกรรมการตลาดต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้คู่ค้าสามารถตรวจสอบจำนวนสินค้าคงคลังเพื่อสั่งซื้อ ตรวจสอบสถานะอุปกรณ์ที่ส่งซ่อม ชิ้นส่วน รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆเพื่อให้สามารถให้บริการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ คู่ค้าสามารถบริหารสต๊อกสินค้าได้ตลอดเวลา ขณะที่ลูกค้าได้รับการบริการที่รวดเร็ว ผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย”
       
       นายณัฏฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน แอดไวซ์ มีเครือข่ายอยู่กว่า 142 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ 67 จังหวัดทั่วไทย มีเป้าหมายขยายเพิ่มให้ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ภายในปี 2556 โดยในปีนี้ใช้งบการตลาดไปประมาณ 80 ล้านบาท ส่วนปีหน้าจะใช้แค่ 50 ล้านบาท เนื่องจากในปีหน้าจะไม่มีโรดโชว์ แต่จะเน้นการจัดเอ็กซ์โปร์แทนจึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงเหมือนในปีนี้ โดยในปีหน้าจะมีสัดส่วนการขายสินค้าคอมโพเนนซ์ 40 % สินค้ากลุ่มโน้ตบุ๊ก 40 % และสินค้าในกลุ่มแท็บเล็ต 20 % จากสัดส่วนเดิมอยู่ที่ 50%, 40% และ 10 % ตามลำดับ
       
       Company Related Link :
       Advice

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics