CSC ปรับตัวครั้งใหญ่ปี 2013 รับการดำเนินธุรกิจครบ 30 ปี อัดเคมเปญลดแลกแจกแถมและรุกหนักการตลาดทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เตรียมปรับปรุงหน้าร้านมือถือที่ได้รับสิทธิ์จากบลิสเทลใหม่ทั้งหมดพร้อมยกเครื่องหันมาเอาดีด้านสินค้าโมบายล์มากขึ้น ลดสัดส่วนด้านไอทีลง หวังฟันรายได้ปีหน้ากว่า 6,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้มั่นใจรายได้ 3,300 ล้านบาท นายพิชัย นีรนาทโกมล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คอมพิวเตอร์ซิสเท็ม คอนเน็คชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ CSC กล่าวว่า ในปีหน้า CSC จะครบรอบ 30 ปีแล้ว ดังนั้นเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปี CSC จะมีเคมเปญฉลอง 30 ปี ลดแลกแจกแถม และมีการปรับตัวครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนหน้าร้าน การปรับสัดส่วนระหว่างการขายสินค้าไอทีและสินค้าโมบายล์ การรุกหนักทำการตลาดทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และการนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ซึ่งจะรวมไปถึงผลิตภัณฑ์เฮ้าส์แบรนด์ที่คาดว่าจะสามารถนำเสนอได้ในปีหน้า
'ในส่วนของการขายนั้น CSC แบ่งสินค้าออกเป็น 2 ชนิดคือ สินค้าในหมวดไอที และสินค้าในหมวดโมบายล์ การปรับตัวในครั้งนี้จะเป็นการดำเนินการทางด้านการตลาดที่เข้มข้นขึ้น เริ่มตั้งแต่การปรับปรุงและเปลี่ยนจากตู้ขายมือถือให้เป็นหน้าร้าน เปลี่ยนรูปแบบหน้าร้านที่ได้สิทธิ์จากบลิสเทลให้เป็น CSC ทั้งหมด รวมไปถึงการจัดการในส่วนของร้านไอทีเดิมให้ดูทันสมัยมากขึ้น โดยจะเน้นความทันสมัยและทันยุค อย่างเช่น การจัดให้มีจอภาพแบบออลอินวันที่ลูกค้าจะสามารถโหลดแอปพลิเคชันได้ทันที ให้ลูกค้าสามารถจับต้องเครื่องได้เป็นต้น'
นายพิชัย กล่าวว่า งบประมาณในการปรับปรุงหน้าร้านครั้งนี้เป็นจำนวนกว่า 50 ล้านบาท หรือมากกว่านั้น ซึ่งจะทำให้ในสิ้นปีนี้ CSC มีหน้าร้านประมาณ 130 ร้าน และจะเพิ่มเป็น 180 ร้านในปีหน้า ซึ่งการปรับตัวครั้งนี้รวมไปถึงการจัดทำคอมพานีโปรไฟล์เป็นเรื่องเป็นราว จากเดิมที่เป็นเพียงแผ่นพับแนะนำบริษัทเท่านั้น เพื่อให้คนเข้าใจว่า CSC มีแผนกอะไรบ้าง ทำอะไร และสื่อสารออกไป นอกจากนี้จะมีการจัดกิจกรรมเจาะตามพื้นที่ต่างๆ อาทิ ในห้างสรรพสินค้าที่มีพื้นที่ในส่วนของไอทีอยู่แล้ว การจัดตั้งสาขาประจำจังหวัด รวมไปถึงการจัดตั้งศูนย์ประจำภาคเพื่อเป็นตัวช่วยกระจายสินค้าโดยเริ่มที่ขอนแก่นเป็นที่แรก
สำหรับปีนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 3,300 ล้านบาท เกินจากเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 3,000 ล้านบาท ส่วนปีหน้าตั้งเป้าไว้ 6,000 ล้านบาท โดยจะมีสินค้าโมบายล์เป็นหลัก เนื่องจากโมบายล์สามารถสร้างกำไรได้มากกว่า โดยสัดส่วนการขายในปีนี้การขายสินค้าไอทีอยู่ที่ 70% โมบายล์ 25% และ B2G หรือการซื้อขายระหว่างรัฐและบริษัทฯ อีก 5% ส่วนปีหน้าสัดส่วนการขายสินค้าไอทีอยู่ที่ 50% โมบายล์ 45% และ B2G อีก 5%
'รายได้จากโมบายล์ได้กำไรดีกว่าสินค้าไอที โดยโทรศัพท์มือถือที่ขายอยู่หน้าร้านมีหลายแบรนด์ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นยี่ห้อซัมซุงที่มีสัดส่วนมากที่สุดประมาณ 60-70% ส่วนที่เหลือเป็นแบรนด์อื่นๆ อย่างโนเกีย ที่กำลังจะไปได้ดีกับระบบปฏิบัติการวินโดว์สโฟน ออปโป้ แบล็กเบอรี่ เอชทีซี ส่วนโซนี่ก็มีบ้างแต่มีปัญหาเรื่องของการซัปพลายของจึงไม่ได้เน้นแบรนด์โซนี่มากนัก ส่วนแบรนด์อื่นอย่างโมโตโรล่ายังต้องดูดิสทริบิวเตอร์รายใหญ่อย่างเอสไอเอสว่าจะทำต่อหรือไม่ เพราะทางเราค่อนข้างเลือกทำตลาด ส่วนเอเซอร์และเอซุสก็มีการนำมาทำอีเวนต์ในช่วงสั้นๆ'
นายพิชัย กล่าวว่า ในปีหน้าคาดว่าสมาร์ทโฟนจะมีแชร์ในตลาดมากกว่า 50% เนื่องจากมีสมาร์ทโฟนแบรนด์ใหม่ๆ ลดราคาลงมาก อย่างแบรนด์ แซดทีอีก็ลงราคาเหลือเพียง 2,900 บาท ซึ่งเป็นราคาที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ โดยปีนี้ยอดขายของโมบายล์ทั้งตลาดจะอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านเครื่อง ส่วนปีหน้าคาดว่าจะมียอดขายประมาณ 20 ล้านเครื่อง และคาดว่าในปีหน้าจะเป็นปีทองของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต
'ด้านตลาดไอที ปัจจุบัน core i5 เป็นตลาดที่ใหญ่มาก เป็นเมนสตรีมในการทำตลาด ทำให้เราขายของได้ในจำนวนเท่าเดิม แต่ช่วยเรื่องยอดขายไม่ได้ เราต้องขายเพิ่มขึ้น 30 - 50% ส่วนวินโดว์ส 8 พอจะดึงตลาดได้ ถ้ามีการปรับราคาสัก 25,000 บาทน่าจะช่วยทำให้ยอดขายดีขึ้นในปีหน้า เพราะตลาดไอที การลดราคาทำให้ตัวดีมานด์ยังมีอยู่ แท็บเล็ตมีทรานฟอร์มเมอร์ได้จะเป็นส่วนเสริม ทัชสกรีน อัลตร้าบุ๊ก ถ้าราคาลดลงก็จะกระตุ้นตลาดให้สามารถขายได้มากขึ้น และทำให้ยอดขายด้านไอทีของเรามากขึ้น'
Company Related Link :
CSC
ที่มา: manager.co.th