“ดาว มยุรี” แถลงเลิกผัว ยุติชีวิตครอบครัว 25 ปี แจงเป็นปัญหาเดิมๆ ที่ปรับแล้วแต่ไม่ดีขึ้น ยอมรับส่วนหนึ่งเพราะความเจ้าชู้ของอดีตสามี บอกไม่รู้ที่ผ่านมาตนเองเป็นเมียน้อยหรือเปล่า เผยเคยถามแต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับ ก่อนปัดอยู่ๆ ประกาศเลิกผัว เพื่อเปิดทางคบกับนักร้องรุ่นน้อง เคยมีปัญหากันถึงขั้นจะเลิกกันมาแล้วรอบหนึ่ง สำหรับชีวิตคู่ของนักร้องลูกทุ่ง “ดาว มยุรี” กับสามีนักธุรกิจ “มนูญ พิมพาทอง” เหตุเพราะจับได้ว่าฝ่ายชายนอกใจ แต่ทั้งคู่ก็ประคับประคองจนอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยามากว่า 25 ปี และมีลูกสาวด้วยกันวัย 10 ขวบ แต่สุดท้ายก็ไปกันไม่รอด ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้(27 พ.ย.) ทางฝ่ายของ “ดาว มยุรี” ได้ออกมาเปิดแถลงข่าวถึงสาเหตุการแยกทางด้วยตนเอง ที่ สตูดิโอ ของ บริษัท กันตนา ย่านเหม่งจ๋าย โดยเผยว่าตนและอดีตสามีเลิกกันมาได้ปีกว่าแล้ว เพราะปัญหาเรื่องเดิมๆ ที่ปรับกันแล้วแต่ไม่ดีขึ้น
“เราเลิกกันมาตั้งแต่ปี 48 แต่ที่เราอยู่มาเพราะเราให้โอกาสเขา เราก็ทนมาตลอด จนตอนนี้เรามองว่าลูกของเรา 9 ปีแล้ว ก็โตพอที่จะรับรู้ปัญหาแล้วก็พูดคุยกับเขา แต่สถานะที่เริ่มจะแยกกันทางการจริงๆ ก็ประมาณปีกว่าแล้ว ด้วยเรื่องอดีตเก่าๆ ของเขา ด้วยเราไม่สามารถพูดได้ตรงนี้ ด้วยหัวอกของแม่จะดูเหมือนไปใส่ร้ายพ่อของเขารึเปล่า ดาวก็ขออนุญาตไม่เปิดเผยดีกว่า”
“ณ วันนี้ดาวเดินทางมาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ที่ผ่านมา ก็มีเรื่องที่คาราคาซังอยู่หลายปี หลายท่านอาจจะได้ทราบข่าวบ้างในเรื่องอดีตของเขาว่าเป็นยังไง ดาวเจอมาเยอะเจ็บมาเยอะ วันนี้ดาวจึงขอออกมาพูดและเคลียร์ตัวเอง เพราะเราเห็นแก่ความรู้สึกของลูก ตอนนี้เขาโตพอจะรับรู้เรื่องราวที่ผ่านมาแล้ว เขารู้ว่าพ่อกับแม่สถานภาพมันเป็นแบบไหน อาจจะอยู่กันแบบสามีภรรยาไม่ได้แล้วนะ เขาก็เข้าใจส่วนนึง แล้วเราเองก็อยากจะเคลียร์ตัวเองด้วย อยากจะบอกว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะออกมาพูด”
“เราเองไม่อยากจะออกมาพูดเรื่องปัญหาครอบครัว ที่เราพูดก็เพื่อเวลาที่เราไปไหนมาไหนจะได้สะดวกในการทำงาน ก็เลยตัดสินใจพูด เราไม่ได้มีความสัมพันธ์เยี่ยงสามีภรรยาเหมือนที่ผ่านมาแล้ว เราเองก็ยังเก็บสิ่งดีๆ ที่เขาก็เป็นพ่อของลูกเราไว้ เคยเป็นสามีที่ดีของเรา เรื่องธุรกิจเราก็ยังทำร่วมกันอยู่ ดาวไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน”
“ลูกรู้ปัญหามาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เขาก็เห็นมาเรื่อยๆ แต่เราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร จนวันนี้เราได้คุยกับลูกเหมือนเพื่อนว่าลูกมีอะไรในใจคุยกับแม่เลยนะ ก็จะคุยกับเขาให้เข้าใจในเรื่องราวที่เกิดขึ้น ลูกก็เข้าใจนะ แต่ลึกๆ เขาก็คงไม่อยากให้พ่อแม่แยกกัน แต่พอเราให้เหตุและผลเขา เขาก็บอกว่าเขาเข้าใจ ตอนนี้หลักๆ ลูกก็อยู่กับดาว พ่อเขาก็จะมีมารับบ้าง ดาวไม่ได้ปิดกั้นพ่อเขา พ่อเขาจะมาหา ไปค้างคืนทำได้เต็มที่ สถานะพ่อลูกของเขายังเหมือนเดิม มีแต่สถานะของดาวกับเขาที่เปลี่ยนไป”
ยอมรับว่าความเจ้าชู้ของอดีตสามีมีส่วนที่ทำให้ครอบครัวพัง
“สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เลิกก็เป็นเรื่องราวเก่าๆ ที่ดาวเคยได้เจอมา แล้วก็เรื่องที่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะสงสารลูก เราทนมาจนเราอิ่มตัวกับมันแล้วที่ดาวจะเดินก้าวต่อไปด้วยตัวดาวเอง ตอนนี้เราก็อยู่กันในสถานะเพื่อน หุ้นส่วน พ่อของลูกเราเท่านั้น ส่วนปัญหาเรื่องเงิน เขาไม่ได้มาขอเงินดาว เพียงแต่เราเป็นหุ้นส่วนกัน ก็อาจจะมีเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งดาวขอไม่พูดถึงแล้วกัน มีส่วนนึงบ้างค่ะ”
“เรื่องความเจ้าชู้ก็คงจะมี แต่เราจะไม่ไปโฟกัสว่าตรงนั้นตรงนี้ มันอยู่ที่ตัวเขา แต่ดาวทนมาเดินทางมาถึงทุกวันนี้ได้ จนรู้สึกอิ่มตัวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วเลยอยากจะเดินออกมา เพื่อจะได้โฟกัสที่งานของเรา ลูกของเรา ที่ผ่านมาเขาก็ช่วยดูแลลูกปกตินะ แต่ดาวก็ไม่รู้ว่าเขาจะรับผิดชอบในตัวดาวหรือสิ่งต่างๆ ที่ดาวควรจะได้รับรึเปล่า”
“เราคุยและปรับกันมาหลายครั้งแล้ว เราไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม เราอยากอยู่อย่างนี้ อยากอยู่คนเดียว ก็ไม่รู้นะว่าลึกๆ เขาคิดยังไง แต่ดาวไม่ขอทนแล้ว เราอยู่กันมา 20 กว่าปีได้แล้ว เราเลยจุดคำว่าเสียใจมาแล้ว มันผ่านความเจ็บปวด ชอกช้ำ มันเป็นการขออโหสิกรรมให้ดีกว่า ถ้าเราผูกใจเจ็บเราก้าวเดินออกมาไม่ได้”
ส่วนข่าวเจ้าตัวหันไปคบนักร้องหนุ่มค่ายแสงระวี ชื่อ “เอ็ม” ทำให้เป็นเหตุผลที่ทำให้อยากออกมาแถลงข่าวแยกทางกับสามี เพื่อจะได้เริ่มต้นรักใหม่นั้น นักร้องลูกทุ่งลูกหนึ่งแจงว่า...
“ไม่ใช่ค่ะ ถ้ามองแบบนั้นเราจะทำงานด้วยกันลำบาก ถ้าเราไม่ได้อยู่ค่ายเดียวกันแล้ว เราไปไหนด้วยกันนั่นสิน่ามองว่าเราเป็นแฟนกัน เราจีบกัน แต่นี่เราต้องทำงานอยู่ด้วยกัน น้องเขาจะเสียหาย แล้วเราก็จะทำงานด้วยกันลำบากนะ ก็สนิทสนมกับน้องเขาส่วนนึงเพราะเราทำงานร่วมกัน มีการสอน มีการพูดคุย ให้ความเป็นกันเองกับเขาเพื่อให้เขาจะได้ไม่เกร็งกับเรา ก็จะเป็นการสอนเรื่องของการทำงานมากกว่า”
“ยืนยันว่า ไม่มีมือที่สามนะคะ ดาวไม่อยากให้คนมองว่าพอเราเป็นอย่างนี้แล้วจะมีเรื่องมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยว ถ้าพูดถึงเรื่องการทำงานดาวทำงานค่ายแสงระวี ดาวมีเพลงคู่กับนักร้องในค่ายกับน้องเอ็ม แต่ก็เป็นเรื่องของการทำงาน เพลงคู่มันก็ต้องไปกันเป็นคู่อยู่แล้ว แต่เราไม่ได้ไปกันสองคน เราไปกันเยอะ”
ปฏิเสธถูกหมอดูทักว่าสามีคนนี้ไม่ใช่เนื้อคู่ แต่เป็นหนุ่ม “เอ็ม” เลยทำให้ปักใจเชื่อจนคิดเลิกกับสามี...“ไม่เคย ไม่มี คำนี้ไม่เคยได้ยินเลยจริงๆ กับน้องเอ็มไม่มีอะไร เป็นน้องที่ทำงานร่วมค่ายเพลงเดียวกันแค่นั้น”
“ที่ตัดสินใจแยกทางไม่ใช่ว่าดาวพร้อมจะคบคนใหม่ เราไม่ได้ต้องการจะมีครอบครัวใหม่ ทุกอย่างยังต้องใช้เวลาเพราะเราเจ็บช้ำมาเยอะ จะมีครอบครัวใหม่นั้นเราต้องปรึกษาลูกเราก่อน แล้วเขาจะรับลูกเราได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเราเองก็ไม่ใช่วัยรุ่น เราผ่านอะไรมาเยอะ ก็ต้องดูกันไปนานๆ แต่ไม่ปิดกั้นนะ ขอใช้เวลา ตอนนี้เราคิดถึงสภาพจิตใจของลูกมาเป็นอันดับหนึ่ง”
“ตอนนี้ยังไม่มีแฟนใหม่หรือใครที่จะมาเป็นผู้นำชีวิตเราได้ ไม่รู้สิเหมือนเราเจออะไรมาเยอะ เราก็เข็ด ความจริงใจที่เขามาคบกับเราอยู่ตรงไหน เราอายุเยอะแล้วแล้วเราก็มีลูกติดด้วย หลายอย่างมันทำให้เราคิดเยอะเลย ไม่อยากจะคิดอะไรแล้ว ขอทำงานก่อนดีกว่า สบายใจกว่า มันยากนะที่จะหาคนจริงใจและรับเราได้”
กับกรณีที่อดีตสามีให้ข่าวว่า “ดาว มยุรี” เปลี่ยนไปหลังย้ายมาอยู่ค่าย “นพพร ซิลเวอร์โกลด์” ทั้งที่ตนพยายามปรับตัวแล้ว เจ้าตัวก็บอกว่า...“นั่นมันเรื่องของเขา เขาทำดีขึ้นมันก็ดีกับตัวเขา เราอยากก้าวออกมา ไม่อยากเป็นสามีภรรยากันแล้ว”
ออกตัวอยากพูดอะไรมาก กรณีมีข่าวอดีตสามีมีครอบครัวใหม่แล้ว แต่ยอมรับว่าอยู่กินกันมา 20 กว่าปีไม่รู้เหมือนกันว่าฝ่ายชายแอบคบคนอื่นพ่วงด้วย จนตนกลายเป็นเมียน้อยหรือเปล่า
“เขามีครอบครัวใหม่มั้ยอันนี้ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ก็มีข่าวมาถึงหูเรานะ ว่าตอนเราอยู่มา 20 ปีเป็นน้อยรึเปล่า เราก็ไม่รู้ ก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากไปกว่านี้เพราะกลัวจะกระทบจิตใจลูก หาว่าไปว่าพ่อของเขา เราก็แยกกันมาเกือบปีแล้ว แต่เรามีปัญหากันมาตั้งแต่ปี48 เราก็อดทนให้โอกาสเขามาเรื่อยๆ จนตอนนี้เรารู้สึกพอแล้วกับสิ่งที่ต้องทนเจ็บปวดมาทั้งหมด ก็ให้มันอยู่ในอดีต ขอก้าวเดินกับการทำงานในสายอาชีพของตัวเอง โฟกัสกับงานที่เรารักดีกว่า”
เผยคำว่าเมียน้อยทำให้ความเป็น “ดาว มยุรี” เสียศักดิ์ศรีมาก
“คำว่าเมียน้อยสำหรับความเป็น ดาว มยุรี มันก็เสียศักดิ์ศรีนะ แต่เราก็ไปห้ามคนมองไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าลึกๆ พ่อของลูกเรานั่นมีอะไรรึเปล่า เราไม่มีหน้าที่ไปอยากรู้ตรงนั้น แต่ข่าวก็เข้ามาถึงหูเราเยอะเหมือนกัน เคยถามแต่เขาก็ไม่ยอมรับ แต่อย่างที่บอกมันก็มีเข้าหูมา ครั้งหนึ่งเมื่ออดีตเราเคยเป็นนพนภา แต่ตอนนี้เราจะไม่เป็นนพนภาแล้ว”
“โอกาสรีเทิร์นก็แล้วแต่ตัวเขาว่าจะปรับตัวยังไง ดาวให้โอกาสทุกคนนะคะ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แต่ ณ ตอนนี้ดาวขอโฟกัสเรื่องการทำงานที่เรารักและลูกมากกว่า”
ที่มา: manager.co.th