Author Topic: ได้เวลา วินโดวส์โฟน 8 !!  (Read 766 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

ได้เวลา วินโดวส์โฟน 8 !!
« on: November 09, 2012, 02:50:38 PM »

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ตัวชี้ชะตาโนเกีย Lumia 920

เป็นเวลากว่า 3 ปีที่วงการสมาร์ทโฟนมีการขับเคี่ยวกันของ 2ขั้วอำนาจใหญ่ ที่เปรียบเสมือนผู้ควบคุมชะตา และคอยกำหนดทิศทางการเดินในโลกของสมาร์ทโฟนอยู่ตลอดเวลา นั่นคือ แอนดรอยด์ และไอโอเอส
       
       แต่ในปัจจุบันกาล มิอาจเป็นเช่นนั้นได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อแอนดรอยด์ และไอโอเอสของแอปเปิล เริ่มใกล้เข้าสู่จุดหยุดนิ่ง ไม่มีซึ่งการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ให้สาวกแอปเปิลได้ร้องว้าว! ออกมาดังๆ
       
       ด้านแอนดรอยด์ ถ้าเปรียบรูปมวยแล้วยังเป็นรองไอโอเอสอยู่หลายขุม ด้วยตัวระบบปฏิบัติการที่ต้องพึ่งพลังของฮาร์ดแวร์มากเกินไป ประสบการณ์ในการใช้งานของผู้ใช้ยังไม่ราบรื่นเป็นเนื้อเดียวกันอย่างไอโอเอส และเมื่อ 2 ขั้วอำนาจใหญ่เริ่มไม่มีการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ออกมา นี่อาจเป็นเวลาที่ดีที่สุด ที่ขั้วอำนาจที่ 3 จะได้โอกาสทองสำหรับการพาตัวเองเฉิดฉายไปพร้อมกับการช่วงชิงความเป็นใหญ่ในวงการสมาร์ทโฟนเสียที และนี่คือเวลาของ.......วินโดวส์โฟน 8


***นำร่อง 5 รุ่น
       
       แม้ว่าวินโดวส์โฟน 8 จะถูกจัดอยู่ในหมวดของแพลตฟอร์มปิด (Closed Platform) แต่กลยุทธ์ในแง่ของผลิตภัณฑ์ ไมโครซอฟท์กลับเลือกที่จะเป็นพันธมิตรกับค่ายผู้ผลิตสมาร์ทโฟนในการเข็นสมาร์ทโฟนที่ปะชื่อแบรนด์นั้นๆ ไปพร้อมๆ กับการใช้วินโดวส์โฟน โดยในเวลานี้มีออกมาจำนวน 5 รุ่น แบ่งออกเป็นโนเกีย 2 รุ่น เอชทีซี 2 รุ่น และซัมซุง 1 รุ่น
       
       ถ้าหากมองให้ลึกลงไปในบรรดา 3 ค่ายผู้ผลิตมือถือ จะเห็นได้ชัดว่า โนเกีย เป็นค่ายเดียวที่จริงจังกับวินโดวส์โฟนมากกว่าใครเป็นที่สุด ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังอยู่ในสภาวะหลังพิงฝา จำเป็นต้องมองหา ‘จุดเปลี่ยน’ อะไรสักอย่าง เพื่อพาตัวเองพ้นจากจุดวิกฤต ซึ่ง Nokia Lumia 920 และ Lumia 820 อาจเป็นคำตอบสุดท้ายที่โนเกียกำลังรอคอยอยู่ก็เป็นได้

   
ด้านเอชทีซี และซัมซุง 2 ผู้ผลิตจากเอเชีย อยู่ในสถานการณ์ที่ลอยตัวกว่าโนเกีย เนื่องจากว่าทั้ง 2 แบรนด์ต่างมีแพลตฟอร์มในมือถึง 2 แพลตฟอร์ม ทั้งวินโดวส์โฟน และแอนดรอยด์ โดยเอชทีซีมี Windows Phone 8X และ 8S ส่วนซัมซุงมีเพียงรุ่นเดียว นั่นคือ Ative S
       
       ***วินโดวส์โฟน 8 รู้จักภาษาไทยแล้ว
       
       ในต่างประเทศ สาเหตุหลักที่วินโดวส์โฟน 7 (และ 7.5) เป็นอันต้องม้วนเสื่อกลับบ้าน พร้อมถูกตราหน้าว่า ‘ล้มเหลว’ นั่นเป็นเพราะว่า ความสามารถโดยรวมของวินโดวส์โฟน 7 ยังไม่เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้บริโภค อีกทั้งยังไร้ซึ่งแรงจูงใจในแง่การใช้งาน อีโคซิสเต็มส์ที่รองรับการใช้งานให้ลื่นไหลก็ไม่มี สเปกเครื่องโดยภาพรวมยังถือว่าค่อนข้างต่ำ ยิ่งถ้านำไปเทียบกับสมาร์ทโฟนของฝั่งแอนดรอยด์ด้วยแล้ว ยิ่งเห็นถึงความแตกต่าง
       
       แต่ที่สำคัญที่สุด คือ การที่ไมโครซอฟท์ เร่งเปิดโปรเจ็กวินโดวส์โฟน 8 ให้เร็วขึ้น เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับวินโดวส์ 8 พร้อมกับการประกาศว่า วินโดวส์โฟน 7 จะไม่สามารถอัปเกรดข้ามมาเป็นเวอร์ชัน 8 ได้ จุดนี้ก็เหมือนการพูดเป็นนัยว่า วินโดวส์โฟน 7 ถูกลอยแพแล้ว
       
       ส่วนตลาดในประเทศไทย นอกเหนือจากเหตุผลข้างต้นแล้ว ประเด็นสำคัญที่วินโดวส์โฟน ‘ไม่เกิด’ คงมีเหตุผลเพียงข้อเดียวนั่นคือ การไม่รองรับภาษาไทย แต่วินโดวส์โฟน 8 สามารถปิดจุดบอดนี้ได้แล้ว จึงทำให้ผู้บริโภคสบายใจได้เลยว่า การใช้งานภาษาไทยบนวินโดวส์โฟน 8 จะใช้งานได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องกอปปี้พยัญชนะ และสระ ผ่านแอปพลิเคชันพิมพ์ไทยอีกต่อไป

***จุดเด่นที่เป็นจุดขาย
       
       ขึ้นชื่อว่าไมโครซอฟท์ สิ่งแรกที่คนทั่วไปนึกถึง นั่นคือ ชุดเอกสาร (Microsoft Office) อันประกอบไปด้วย เวิร์ด (Word), เอ็กเซล (Excel) และพาวเวอร์พอยต์ (PowerPoint) ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เมื่อวินโดวส์โฟน 8 การใช้งานด้านเอกสาร จะทำได้เหมือนกับบนเครื่องพีซีทุกประการ ซึ่งถ้ามองให้ลึกลงไปอีกสักนิด จะเห็นได้ว่านี่คือกลยุทธ์ที่ล้ำลึกของไมโครซอฟท์ เพราะวินโดวส์โฟน 8 ไม่ได้ย่ำอยู่กับตลาดคอนซูเมอร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังมองไกลไปถึงตลาดเอ็นเตอร์ไพรส์อีกด้วย
       
       ทั้งนี้ โปรดอย่าลืมว่า วินโดวส์ เป็นระบบปฏิบัติการที่ถือครองส่วนแบ่งตลาดองค์กรมากที่สุด และการที่วินโดวส์โฟน 8 สามารถใช้งานด้านเอกสารได้อย่างครบถ้วน ย่อมกลายเป็นการขยายตลาดไปในตัว และเมื่อลูกค้าในกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์ได้มีโอกาสได้ใช้งานวินโดวส์โฟน แล้วเกิดถูกใจ แน่นอนว่าย่อมต้องเกิดกระแสบอกต่อ จุดนั้นเองจะทำให้ไมโครซอฟท์กินรวบได้ทั้งตลาดคอนซูเมอร์ และเอ็นเตอร์ไพรส์ในเวลาเดียวกัน


***วินโดวส์โฟน เดินตามรอยแอนดรอยด์ ??
       
       เท่าที่สังเกตกลยุทธ์ในการทำตลาดวินโดวส์โฟน 8 ของไมโครซอฟท์ มีการนำแผนการตลาดของแอนดรอยด์ และแอปเปิล มาปรับใช้ได้อย่างแนบเนียน
       
       ไมโครซอฟท์เลือกที่จะให้วินโดวส์โฟน 8 เป็นระบบปฏิบัติการแบบปิด เช่นเดียวกับแอปเปิล ขณะเดียวกัน ก็เลือกที่จะให้วินโดวส์โฟน 8 ขับเคลื่อนผ่านดีไวส์ของค่ายผู้ผลิตที่เป็นพันธมิตรอย่าง ซัมซุง เอชทีซี โนเกีย รวมไปถึงหัวเว่ย และแซดทีอี
       
       และเมื่อมองถึงจำนวนผู้ผลิต จะเห็นได้ชัดว่า ไมโครซอฟท์กำลังเดินตามรอยเท้าที่แอนดรอยด์เคยก้าวไว้ ด้วยการสนับสนุนให้มีผู้ผลิตที่พร้อมจะผลิตสมาร์ทโฟน วินโดวส์โฟนออกมาเป็นจำนวนมาก เพื่อดันให้วินโดวส์โฟนมีตัวตนอยู่ในตลาดให้มากที่สุด พร้อมกับการเปิดรับพันธมิตรหน้าใหม่
       
       เมื่อถึงจุดหนี่งไลน์ผลิตภัณฑ์ของวินโดวส์โฟน ก็จะมีพร้อมทั้งกลุ่มโลว์เอนด์ มิดเอนด์ ไปจนถึงไฮเอนด์ ซึ่งนั่นจะทำให้วินโดวส์โฟนกลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น จนพร้อมที่จะขึ้นมาเป็นคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อกับไอโอเอส และแอนดรอยด์ และทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น

   
***2013 ปีของวินโดวส์โฟน !?!?
       
       ด้วยระยะเวลาในการเปิดตัววินโดวส์โฟน 8 ที่ออกมาในช่วงปลายปี ทำให้เชื่อได้ว่า โฟกัสของไมโครซอฟท์ และพาร์ทเนอร์ต่างมองไปที่ปี 2013 ที่น่าจะเป็นปีที่วินโดวส์โฟน 8 พร้อมรุกตลาดอย่างแท้จริง
       
       สำหรับปี 2013 ที่กำลังจะมาเยือนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คาดว่าจะมีสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน 8 โชว์โฉมหน้าออกมาให้เห็นอีกพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนตระกูล Lumia รุ่นใหม่ของโนเกีย หรือจากฝั่งเอชทีซีที่น่าจะมีทีเด็ดออกมาให้เห็นอีก ส่วนซัมซุง คงสงวนท่าทีรอดูว่าตลาดวินโดวส์โฟน 8 จะเป็นอย่างไร ถ้ามีแนวโน้มไปได้สวย เชื่อว่าซัมซุงเองก็คงจะจัดหนักกับวินโดวส์โฟน 8 เช่นกัน
       
       นอกจากนี้ยังมี 2 แบรนด์จากจีนที่น่าจับตามมองทั้ง แซดทีอี และหัวเว่ย โดยเฉพาะหัวเว่ยต้องจับตามองให้ดี เพราะแบรนด์นี้มีทั้งทุน และเทคโนโลยี ที่พร้อมจะใส่ไม่ยั้งกับตลาดสมาร์ทโฟน
       
       เมื่อมาถึงบรรทัดนี้ ภาพกว้างๆ ในตลาดสมาร์ทโฟนปี 2013 การขับเคี่ยวระหว่างบรรดาผู้ผลิตสมาร์ทโฟน จะเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น อันเนื่องมาจากแพลตฟอร์มวินโดวส์โฟน 8 มีผู้ผลิตหลายแบรนด์เริ่มให้การซัพพอร์ต ทำให้ทางเลือกของผู้บริโภคกว้างขึ้น ไม่ตีบตันเฉพาะแอนดรอยด์ หรือไอโอเอส เพียง 2 ทางเลือก
       
       นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งความน่าสนใจ นั่นคือ การที่ไมโครซอฟท์ กระโจนพาตัวเองเข้าสู่สมรภูมิด้านฮาร์ดแวร์อย่างเต็มตัว จากการเปิดตัวแท็บเล็ตนามว่าเซอร์เฟซ และอาจมีสมาร์ทโฟนเซอร์เฟซ สิ่งนั้นถือว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า เทรนด์โลกไอทีในปีหน้า เจ้าของแพลตฟอร์มจะเป็นฝ่ายกุมอำนาจ และจะเป็นตัวขับเคลื่อนดีไวส์ทั้งสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตได้ด้วยตัวเอง จนเกิดทางแยกออกเป็น 2 ทาง ให้ผู้บริโภคได้เลือกว่า ถ้าต้องการประสบการณ์ในการใช้งานแบบธรรมชาติที่สุด (Pure Experience) ก็สามารถเลือกอุปกรณ์ที่ผลิตจากเจ้าของแพลตฟอร์ม อย่างกูเกิล ไมโครซอฟท์ และแอปเปิล ได้โดยตรง แต่ถ้าหากต้องการที่จะลิ้มรสสัมผัสความสามารถเฉพาะตัวด้านฟีเจอร์ หรืออินเตอร์เฟส คงต้องเลือกจากค่ายผู้ผลิตอย่าง เอชทีซี แอลจี โนเกีย และซัมซุง
       
       ------------------------------------------------
       
       วินโดวส์โฟน 8 บุกตลาดไทย
       
       หลังจากที่รอคอยกันมานานว่า วินโดวส์โฟน 8 จะได้ฤกษ์จุดพลุเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อไหร่ ล่าสุดมีการประกาศอย่างเป็นทางการออกมาแล้วว่า วินโดวส์โฟน 8 ของโนเกีย และเอชทีซี จะเริ่มคิ๊กออฟวางจำหน่ายครั้งแรกภายในงานคอมมาร์ท คอมเทค 2012
       
       โดย Lumia 920 สมาร์ทโฟนระดับเรือธงของโนเกีย จะวางจำหน่ายในราคา 21,500 บาท ส่วนรุ่นเล็ก Lumia 820 เคาะราคาที่ 16,600 บาท
       
       ส่วนทางด้านเอชทีซี เลือกงานเปิดตัววินโดวส์โฟน 8 ที่จัดขึ้นที่ ION SKY ประเทศสิงคโปร์เป็นเวทีเปิดราคา Windows Phone 8X และ 8S ซึ่งราคาจำหน่ายวินโดวส์โฟน 8 ของเอชทีซี จะถูกกว่าโนเกียพอสมควร โดย 8X เปิดตัวที่ราคา 19,900 บาท ส่วน 8S เคาะราคาเบาๆ เฉียดหลักหมื่น 9,990 บาท
       
       ส่วน Ativ S ของซัมซุงเวลานี้ยังเร้นกายอยู่ในเงามืด


Ativ S ผลิตภัณฑ์นำร่อง

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)