นายณัฐวัชร์ วรนพกุลHTC 8XHTC 8S เอชทีซี เตรียมสู้ศึกตลาดสมาร์ทโฟนที่ร้อนระอุปลายปีครั้งใหม่ ประเดิมส่ง Windows Phone 8X และ 8S 2 รุ่นลุยตลาด เชื่อวินโดวส์โฟน 8 มีสิทธิ์บินสูงทาบแอนดรอยด์ได้แน่หากมีผู้ผลิตมากราย นายเลนนาร์ด ฮูร์นิค ประธานประจำภาคพื้นเอเชียใต้ เอชทีซี กล่าวว่า การมาระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน 8 ทำให้วงการสมาร์ทโฟนมีความน่าสนใจมากขึ้น และถือเป็นโอกาสอันดีที่ผู้บริโภคจะมีทางเลือกในการใช้งานสมาร์ทโฟน ที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะแอนดรอยด์ และไอโอเอสอีกต่อไป โดยเบื้องต้นเอชทีซีก็มีผลิตภัณฑ์จากวินโดวส์โฟน 8 ประกอบไปด้วย Windows Phone 8X และ 8S
"Windows Phone 8X และ 8S ของเอชทีซี เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่ว่าจะแง่ของการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งวัสดุประกอบงานก็เป็นวัสดุที่มีคุณภาพ รวมไปถึงยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในชีวิตประจำวันที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพ และการใช้งานเชิงมัลติมีเดีย"
พร้อมกันนี้นายเลนนาร์ด ยังได้ถือโอกาสแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 1 รุ่น โดยเป็นสมาร์ทโฟนสายพันธุ์แอนดรอยด์ นั่นคือ HTC One X+ ซึ่งเป็นรุ่นอัปเกรดของ HTC One X ที่เปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
"HTC One X+ เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่เอชทีซีภาคภูมิใจ โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ จะมีการอัปเกรดความสามารถอย่างมากมาย ตั้งแต่ระบบปฏิบัติการที่ใช้แอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ 4.1 Jelly Bean การเพิ่มสปีดการใช้งานที่เร็วขึ้นกว่า HTC One X ถึง 27% มีการเพิ่มจำนวนประจุของแบตเตอรีเป็น 2,100 mAh ทำให้การใช้งานตัวเครื่องใช้ได้นานมากขึ้น"
ด้านนายณัฐวัชร์ วรนพกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวสมาร์ทโฟนวินโดวส์โฟน 8 ของเอชทีซีในเวลานี้เปรียบเสมือนการหยั่งเชิงตลาด โดยเป้าหมายหลักจะอยู่ที่การเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ทำความรู้จัก และได้ลองการใช้งานวินโดวส์โฟน 8 ผ่านดีไวซ์ของเอชทีซีนั่นคือ Windows Phone 8X และ 8S
"การที่จะบอกว่าวินโดวส์โฟน 8 จะประสบความสำเร็จในตลาดสมาร์ทโฟนได้หรือไม่นั้น คงตอบไม่ได้ในปี 2012 แต่ว่าในปีหน้าปี 2013 เราจะเริ่มเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า วินโดวส์โฟน 8 จะเป็นอย่างไร ส่วนตัวมองว่าวินโดวส์โฟน 8 มีโอกาสที่จะเติบโตเหมือนแอนดรอยด์"
นายณัฐวัชร์ กล่าวต่อว่า ถ้ายังจำกันได้เมื่อ 3 ปีก่อน แอนดรอยด์ยังมีผู้ผลิตจำนวนน้อย แต่พอเริ่มมีผู้ผลิตมากรายขึ้น การเติบโตของแอนดรอยด์ก็ค่อยๆ ถีบตัวสูงขึ้น จนกระทั่งปัจจุบันแอนดรอยด์มีส่วนแบ่งถึง 60% ของตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก ซึ่งถ้าวินโดวส์โฟนทำเช่นนั้นได้ก็ย่อมมีโอกาสเติบโตเหมือนแอนดรอยด์ได้เช่นกัน แต่ถ้าผู้เล่นในตลาดมีเพียงแค่เอชทีซี ซัมซุง และโนเกีย ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะเติบโตได้อย่างรวดเร็วเหมือนอย่างแอนดรอยด์
สำหรับตลาดประเทศไทย ขณะนี้เอชทีซีถือเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนลำดับที่ 2 ของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ รองจากซัมซุง แต่ในตลาดสมาร์ทโฟนรวมทุกแบรนด์ เอชทีซีอยู่ในลำดับที่ 4 รองจากแบล็กเบอร์รี่ แอปเปิล และอันดับ 1 ซัมซุง โดยมีส่วนแบ่งตลาดที่ราว 9.7% คิดเป็นจำนวนสมาร์ทโฟนรวมอยู่ที่ 4 ล้านเครื่อง
นายณัฐวัชร์ กล่าวต่อไปอีกว่า Windows Phone 8X และ 8S จะเป็นสมาร์ทโฟนที่มีโอกาสเติบโตทั้งในแง่ของตลาดคอนซูเมอร์ และตลาดเอ็นเตอร์ไพรส์
“ก่อนอื่นต้องบอกว่าในกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์ส่วนใหญ่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เป็นหลักอยู่แล้วทั้งคอมพิวเตอร์ และมือถือ โดยในส่วนของมือถือ เอชทีซีได้ร่วมมือกับลูกค้าในตลาดองค์กรมาตั้งแต่ยังเป็นวินโดวส์ โมบาย เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงมาเป็นวินโดวส์โฟน 8 เอชทีซึจึงเข้าไปนำเสนอความรู้ในกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์ เพื่อสร้างโอกาสและเป็นการขยายตลาดของวินโดวส์ โฟน 8 ไปในตัว และเมื่อลูกค้าในกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์ได้ทดลองการใช้งานแล้วพบว่าดี ย่อมต้องเกิดการแนะนำ และบอกต่อ ซึ่งจุดนั้นจะทำให้เอชทีซีได้ฐานลูกค้าที่เป็นคอนซูเมอร์ และเอ็นเตอร์ไพรส์ในเวลาเดียวกัน”
ทั้งนี้ เอชทีซีได้ประกาศเคาะราคาจำหน่ายวินโดวส์โฟน 8 ทั้ง 8X และ 8S อย่างเป็นทางการออกมาแล้ว โดยในรุ่นไฮเอนด์ 8X จะวางจำหน่ายในราคา 19,900 บาท ส่วน 8S จำหน่ายที่ราคา 9,990 บาท โดยทั้ง 2 รุ่นนี้จะเริ่มคิ๊กออฟจำหน่ายในงานคอมมาร์ท ที่จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15-18 พฤศจิกายนนี้ ส่วน HTC One X+ สมาร์ทโฟนที่เป็นแอนดรอยด์ จะพร้อมวางจำหน่ายจริงในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน เปิดราคาที่ 21,900 บาท
Company Relate Link :
HTC
ที่มา: manager.co.th