Author Topic: “บอย ถกลเกียรติ” เผย ซิทคอม “เป็นข่าว” หลุดผังแล้ว  (Read 671 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




“บอย ถกลเกียรติ” รับซิทคอมเป็นข่าวหลุดผังแล้ว เตรียมทำรายการวาไรตี้ “ครอบครัวขำ” เสียบแทน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด รุกทำภาพยนตร์ 2 เรื่องรวด “The way” และ “รักจับใจ” โต้หาช่องทางผลักดันให้เด็กเดอะสตาร์ ในสังกัดได้มีงานทำ
       
       หลังจากถูกทางช่อง3 สั่งปรับเปลี่ยนซิทคอม “เป็นต่อ” ทางค่ายเอ็กแซ็กท์ก็ปรับเปลี่ยนเป็นซิทคอม “เป็นข่าว” แทน แต่ปรากฎว่าทางช่อง3 สั่งถอดทั้งที่เพิ่งออกอากาศได้ไม่นาน ด้วยเหตุผลที่ว่ากระแสตอบรับไม่เป็นที่น่าพอใจ ล่าสุด “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ก็ออกมาเปิดเผยว่า ได้เตรียมปรับปรุงรายการใหม่ ชื่อ “ครอบครัวขำ”เป็นรายการวาไรตี้ สนุกสนาน ลงจ่อแทนในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยซิทคอมเป็นข่าวได้ปิดกล้องแล้วเป็นที่เรียบร้อย
       
       “ซิทคอมเป็นข่าวตอนนี้จบแล้วครับ ปิดกล้องแล้วครับ ก็เตรียมเรื่องใหม่ไว้แล้ว ไม่งั้นจอดำนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าแกรมมี่จะมีแต่จอดำ ก็จะออนแอร์ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนครับ ชื่อรายการว่า ครอบครัวขำให้สอดคล้องกับหลายๆ ครอบครัวของช่อง3 เป็นรายการวาไรตี้ ตลกหัวเราะกันมีความสุขก่อนนอน จะออกมาเป็นยังไง เดี๋ยวมีเข้ากองครับ ยังบอกรายละเอียดไม่ได้ แต่เป็นรายการตลก ตอนนี้ยังไม่ได้ถ่ายเลยครับ แต่ผมอ่านบทแล้ว ฮาเว่อร์ครับ ยังไงขออุบไว้ก่อนดีกว่าครับ รอดูเอาเอาดีกว่า ผมก็พูดไม่ถูก”
       
       หันมาจับงานด้านภาพยนตร์ เปิดกล้องทีเดียวพร้อมกัน 2 เรื่องรวด ทั้ง “The way” และ “รักจับใจ” ก่อนยันไม่ได้หาช่องทางให้เด็กเดอะสตาร์ได้มีงานทำ
       
       “สำหรับเดอะเวย์ จะเป็นหนังที่ดีให้แสงสว่างในชีวิต หลังจากที่เราไปบวชมา 3 ปีที่แล้ว เราได้รู้และสัมผัสอะไรที่เราไม่เคยรู้มาก่อน มันจะแตกต่าง เราก็อยากจะนำเสนอ (มีแต่นักแสดงเดอะสตาร์ ) เราเป็นที่ปรึกษาสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ เราก็จัดหานักแสดง เราก็พยายามช่วยเหลือตรงนี้ แต่ไม่ใช่ว่ามีเฉพาะเดอะสตาร์ ไม่ใช่ผลักดันให้มีผลงาน ไม่ใช่ครับ”
       
       “ผมว่านักแสดงที่เราสามารถคุยได้ที่มาแสดงหนังเรื่องนี้ เราก็เป็นคนแนะนำให้ลองดูและเหมาะสมกับบท ไม่ใช่ช่องทางในการผลักดันอะไร ผมจะคุยกับผู้กำกับหนังเป็นแนวคุณธรรม เพราะทุกวันนี้คนเข้าวัดมากขึ้น นั่งสมาธิมากขึ้น แต่จริงๆ เราต้องดูเหตุและผลว่าสิ่งที่ทำได้ผลจริงไหม หนังเรื่องนี้น่าจะมีการบอกอะไรได้อยู่ ถามว่าจะรุกภาพยนตร์มากขึ้นไหม ก็แล้วแต่โอกาสที่จะเข้ามาครับ”
       
       “ส่วนเรื่องรักจับใจจะบอกว่าตื่นเต้นมาก เพราะเป็นเรื่องที่ยากมาก บางคนคิดว่าเป็นละครเวทีมาทำเป็นภาพยนตร์จะยากตรงไหน มันไม่ได้ทำแบบนี้ได้ทุกเรื่อง ภาพยนตร์มีจอใหญ่และมีภาษาคนละอย่างกับทีวี หรือละครเวที สิ่งที่เราจะทำรักจับใจจากละครเวทีเป็นภาพยนตร์ไม่ใช่แค่ตั้งกล้องอย่างเดียว มันต้องเซ็ทถ่ายต่างหากใช้อุปกรณ์พิเศษต่างๆ ให้มันหวือหวามากขึ้น”
       
       “เหตุผลที่ทำไมเลือกละครเวทีรักจับใจมาทำเป็นภาพยนตร์ มันอาจจะเป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียวก็ได้ ผมว่าเนื้อเรื่องรักจับใจลงตัวที่เป็นภาพยนตร์ได้มีทั้งสนุกสนาน โรแมนติก ขอย้ำว่าไม่ได้ทำทุกเรื่องนะครับ อย่าหวังจะได้ดูทุกเรื่อง มันต้องมีความลงตัว แต่ไม่ได้ตั้งใจทำตั้งแต่แรก ผมตั้งใจทำตอนท้ายๆ ของเรื่องตอนแสดงไปแล้วประมาณ 20 -30 รอบ ทางเมเจอร์ก็มาชวนด้วย เราก็มองความเป็นไปได้ เรื่องบทผมไม่ได้เพิ่มครับ แต่ทำให้กระชับขึ้นมากกว่า คนดูก็จะอิ่มเอมไปอีกแบบนึง แต่มันจะอิ่มเอมด้วยภาพ”
       
       “ถามว่าตื่นเต้นไหม ก็ตื่นเต้นแน่นอนครับ เพราะผมเตรียมตัวเตรียมใจมาแล้ว ผมว่าวงการภาพยนตร์น่ากลัวมากครับจริงๆ หลายครั้งที่ผมถูกมองจากสายภาพยนตร์ จะถูกมองแบบว่ากล้าดีอย่างไร ผมก็บอกว่าไม่ได้กล้าดีหรอกครับ แต่อยากลองมากกว่า ที่กล้าลองเพราะมีความเชื่อว่าภาพยนตร์มันไม่เหมือนเดิม อย่างสาระแนที่ทำก็ไม่มีสคริปต์”
       
       “แต่จะอิ่มเท่าละครเวทีหรือไม่นั้น ก็ต้องลองดูครับ แต่ผมว่าจะทำอย่างไรกับการฉายครั้งนี้มันลงตัว ถ้าคนดูอยากเต้นก็เต้นเลยครับ ผมก็คาดหวังว่าผู้ชมน่าจะชอบนะ กับโรแมนติกคอมเมดี้ เพราะจากละครเวทีคนดูมีความสุขมาก คุณภาพของนักแสดงหลายคนเขาเก่งกันมาก สื่ออารมณ์ได้ดี สิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด จะอยู่ในโรงนานแค่ไหน ก็ตอบไม่ได้ครับ มันต้องดูกระแส”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)