“โตโน่” เผยอาการลมพิษดีขึ้น แต่หมอสั่งให้พัก 3 วัน รอผลตรวจเลือดอีก 1 สัปดาห์ รู้ผลแน่ชัดว่าแพ้อะไร คาดพักผ่อนน้อย และอากาศเปลี่ยน พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้ สัญญาจะรีบหายกลับไปทำงาน ป่วยเป็นลมพิษเฉียบพลันจนถูกหามส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด วานนี้ (22) หนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” หรือ “โตโน่ เดอะสตาร์” ได้เปิดแถลงข่าวถึงอาการป่วยของตนเองให้แฟนคลับได้หายห่วง โดยยืนยันว่า อาการโดยรวมดีขึ้นแล้ว แต่หมอสั่งให้พักผ่อนเป็นเวลา 3 วัน ทั้งนี้ เจ้าตัวได้เผยถึงอาการทั้งหมดว่า…
“เป็นวันแรกตอนวันศุกร์ (19 ต.ค.) ครับ คือว่าเราโหมงานหนักติดๆ กันมาหลายวัน วันพฤหัสฯไปถ่ายซิตคอมตั้งแต่เช้าแล้วก็เลิกดึก วันศุกร์ก็ต้องตื่นเช้ามาถ่ายซิตคอมอีก แล้วตอนเย็นก็ต้องไปเดินแบบที่เซ็นทรัลลาดพร้าว พอเดินแบบเสร็จเราต้องมาถ่ายซิตคอมต่อ ก็เสร็จตีสอง คืนนั้นมันเริ่มขึ้น มันก็เริ่มเกาน่ะครับ เป็นอะไรคันๆ แดงๆ ที่คอ”
“ก็นึกว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่ว่าพอถ่ายเสร็จก็รู้แล้วว่ามันขึ้นเยอะ เป็นผื่น เป็นลมพิษ แต่ว่าผมมันเป็นเหมือนกับเป็นประจำตระกูลผม คือว่าคุณพ่อผมก็เป็น แต่ว่าไม่เป็นหนัก ปกติผมจะเป็นทุกปีครับผม แต่ว่าเป็นแล้วก็กินยาก็หาย แต่ครั้งนี้มันอาจจะบวกกับเราทำงานหนักมาด้วยหลายวัน”
“แล้วก็พอเรานอนคืนวันศุกร์ตื่นเช้ามามันก็ขึ้นเยอะแล้วใช่ไหมครับ แต่ว่าตอนเช้าเราต้องไปถ่ายรายการต่อ แล้วผมก็ไม่อยากหยุด เพราะว่าถ้าหยุดแล้วทีมงานเขาก็ต้องเสียเวลาครับผม ผมก็เลยอยากถ่ายรายการให้เสร็จก่อน แต่ว่าในใจตอนนั้นมันรู้แล้วล่ะว่าต้องเข้าโรงพยาบาล”
“ส่วนอาการภายในไม่มีอะไรครับ ผมแข็งแรงดีทุกอย่าง ข้างในไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ว่าข้างนอกเนี่ยมันขึ้นเยอะ แล้วคุณหมอเป็นห่วงว่า ถ้าเกิดว่ามันไปเกี่ยวกับข้างในมันจะทำให้อันตราย เพราะว่ามันจะไปปิดหลอดลม”
“ใจก็อยากรอให้มันหายขาด ตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าเราแพ้อะไร คุณหมอบอกว่าผลตรวจเลือดต้องใช้เวลาอีกประมาณอาทิตย์นึงถึงจะรู้แน่ชัดว่าแพ้อะไร แต่ตอนนี้ที่สันนิษฐานไว้ก่อนว่า คือพักผ่อนน้อย แล้วก็อากาศเปลี่ยนอะไรประมาณนี้ จริงๆ ที่ผมคุยคุณหมอบอกว่าอยากให้พักอีกประมาณ 3 วันครับ แต่ว่าผมอยากออกแล้วครับ”
“ก็ขอบคุณแฟนๆ ทุกๆ คนนะครับที่เป็นห่วงผม ผมรู้สึกมีความสุขนะครับผม มีความสุขหมายความว่า ผมเชื่อว่ากายนี้มันก็ไม่ใช่ของเราครับ เราพยายามตั้งใจทำงาน ทำมันให้ดีที่สุด แล้วก็ผมมีกำลังใจที่ดีมากๆ จากทุกๆ คน ขอบคุณมากๆ ที่เป็นห่วงครับ จะรีบหายเร็วๆ แล้วก็ไปทำงานที่ผมรัก แล้วก็ทำให้ทุกคนมีความสุขต่อไปครับ”
ที่มา: manager.co.th