Author Topic: ศาล ยกคำร้อง และ จำหน่ายคดี 'อนุภาพ' ฟ้องระงับประมูล 3G  (Read 925 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




ศาลปกครองยกคำร้องและจำหน่ายคดีที่ 'อนุภาพ ถิรลาภ' ฟ้องระงับประมูล 3G ในขณะที่ศาลรับคำร้องคดี 'สุริยะใส กตศิลา' แต่ไม่มีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉินหรือให้การคุ้มครองชั่วคราว ทำให้ขณะนี้การประมูล 3G ในวันที่ 16 ต.ค.ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้
       
       รายงานข่าวแจ้งว่าศาลปกครองได้มีคำสั่งยกคำร้อง และจำหน่ายคดีออกจากสารบบ กรณีนายอนุภาพ ถิรลาภ ฟ้องระงับการประมูล 3G เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมาและได้มีการไต่สวนฉุกเฉินในวันที่ 11 ต.ค. ส่วนกรณีนายสุริยะใสศาลปกครองรับคำร้องแต่พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีมีเหตุผลสมควรที่จะยังไม่ดำเนินการไต่สวนในวันนี้ ซึ่งจะแจ้งให้ผู้ฟ้องคดีทราบว่าศาลจะมีคำสั่งในภายหลังโดยเร็ว
       
       'สุริยะใส' ฟ้องศาลปกครอง ยันต้องเลื่อนประมูล 3G อ้างราคาถูกเกินไป และเกณฑ์การประมูลที่เอื้อประโยชน์การฮั้ว
       
       นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีนกล่าวว่า การมายื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางในวันที่ 15ต.ค.เพื่อที่จะให้ระงับการประมูลหรือทำการใดๆอันเกี่ยวกับการจัดการประมูลคลื่นความถี่(3G)ที่จะเกิดขึ้นในวันที่16 ต.ค.55ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา เนื่องจากเล็งเห็นว่ากสทช.ได้กำหนดวิธีการ เงื่อนไข ราคาในการประมูลใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 2.1GHz โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดกับรัฐธรรมนูญ และทำให้รัฐสูญเสียรายได้มหาศาล
       
       โดยเฉพาะใน 2 ประเด็น ได้แก่ 1.ราคาตั้งต้นการประมูลที่ลดลงจาก 6,444 ล้านบาท ที่คณะเศรษฐศาสตร์จุฬาฯ ไปศึกษามาให้เหลือเพียง4,500 ล้านบาทซึ่งทำให้รัฐเสียรายได้ไปกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท 2.หลักเกณฑ์การประมูลในครั้งนี้ส่อต่อความผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542(พ.ร.บ.ฮั้วประมูล)
       
       เนื่องจากกสทช.ได้กำหนดวิธีการ เงื่อนไข ราคาในการประมูลใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 2.1GHz โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตแต่ละรายมีสิทธิยื่นประมูลได้ไม่เกิน 15 MHzโดยกสทช.จะนำคลื่นความถี่มาประมูลเพียง 45 MHz ประกอบกับมีผู้เข้าประมูลในครั้งนี้ 3 รายเท่านั้นซึ่งสุดท้ายก็ไม่จำเป็นต้องมีการแข่งขันเพราะจำนวนคลื่นที่มีอยู่ลงตัวกับผู้เข้าประมูลอยู่แล้ว
       
       'จุดยืนการฟ้องให้ระงับการประมูลในครั้งนี้ไม่ได้ต้องการจะล้มการประมูลแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการให้มีการปรับหลักเกณฑ์การประมูลในครั้งนี้เท่านั้น'
       
       นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะต่อกสทช.ให้นำเอาเกณฑ์การประมูลสูตร N-1 (จำนวนคนชนะจะน้อยกว่าคนเข้าประมูล 1 ราย เช่น เข้าประมูล 3 รายจะได้ผู้ชนะแค่ 2 ราย) มาใช้ด้วย เพราะจะทำให้รัฐจะได้ประโยชน์มากกว่าเนื่องจากจะเกิดการแข่งขันของผู้ประมูลทั้ง3ราย รวมทั้งต้องการให้กสทช.มีการทบทวนการตั้งราคาเริ่มต้นการประมูลให้สมเหตุสมผล เพื่อให้รัฐได้รับประโยชน์สูงสุด และอยากให้แก้ไขหลักเกณฑ์การประมูลในครั้งนี้โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของ ประชาชนและประเทศชาติ
       
       'เราต้องการเพียงให้เลื่อนการประมูลในครั้งนี้ออกไปก่อน เพื่อให้กสทช.แก้ไขหลักเกณฑ์ต่างๆที่ยังไม่ชัดเจน และถูกต้อง ซึ่งอาจจะใช้เวลาไม่นานเป็นปีอย่างที่มีการออกมาให้ข่าวแต่อย่างใด โดยเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานมากเพราะกสทช.มีอำนาจหน้าที่เต็มที่อยู่แล้วในการจัดการประมูล'
       
       ขณะที่การยื่นฟ้องในวันที่ 15 ต.ค.นอกจากนายสุริยะใส ยังมีนายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นายกิตติชัย ใสสะอาด รักษาการรองประธานสหภาพรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายจาตุรันต์ บุญเบญจรัตน์ นายปกิต จันทร์สมวงศ์ นายธนา วรพจน์ ในฐานะประชาชนผู้ใช้โทรศัพท์เมือถือมาเป็นแนวร่วมในการยื่นฟ้องให้ระงับการประมูลในครั้งนี้ด้วย
       
       Company Relate Link :
       กสทช.

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)