“บ๊วย” ลั่นขอทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุดจนกว่าจะตาย เรื่องคืนดี “ตุ๊ก” เป็นเรื่องของอนาคต แต่ ณ ตอนนี้ตนพอใจกับสถานะที่เป็นอยู่ ขอบคุณอดีตภรรยาที่ไม่มีท่าทีรังเกียจ ส่วนความรักครั้งใหม่ยังไม่คิด แม้ “บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ” จะเคยออกมาเคลียร์ไปแล้ว กรณีโพสต์ข้อความ “วันนี้ผมได้รู้แล้วว่า ผมเลวแค่ไหน รับไม่ได้ ขยะ แขยง ขอโทษกับคนที่ ผมเป็นด้วยครับ” โดยครั้งนั้นเจ้าตัวเผยว่า เป็นการด่าตัวเองหลังได้คิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้หมายความถึงเรื่องเกี่ยวกับอดีตภรรยา “ตุ๊ก ชนกวนันท์” เพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงชีวิตทั้งหมดของตนเอง แต่กระนั้นทุกคนก็ยังคงให้ความสนใจและพูดถึงประโยคเด็ดแห่งปีนั้นอยู่ดี
“นี่ยังไม่จบอีกเหรอ จบไปได้แล้วมั้ง มันเป็นเรื่องของคนอื่นแล้วครับ ที่ผมทำ ผมแสดงความรับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อชีวิตของผม ทั้งหมด 37 ปี ผมรู้ว่าผมทำอะไรบ้าง ก็ประกาศออกมาว่าผมจะเป็นคนยังไง ผมรู้ว่าอะไรไม่เวิร์คในชีวิตก็จะทำให้มันเวิร์คแค่นั้นเองครับ ก็เวลาเราประกาศออกไป คนได้ยินเยอะ ยิ่งทำให้เราต้องรักษาคำพูดครับ ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ต้องมานั่งดูแลตัวเอง วันนี้รู้สึกยังไง อยากทำอะไรก็ทำ ไม่อยากทำอะไร ผมว่าเราต้องก้าวไปที่เหตุผลแล้วครับ”
“เรื่องที่พูดว่าผมขยะแขยงตัวเองจริงๆ ครับ เวลาเราทำอะไร แล้วรู้สึกว่า เราอยู่ในพื้นที่ตรงนั้นจริงๆ คือวันหนึ่งเรารู้สึกว่า เราอยู่ในพื้นที่ที่ไม่โอเคเราก็อยากจะลุกออกมา (ส่วนไหนที่ยังรู้สึกว่าตัวเองแย่ที่สุด) ผมมีประโยคหนึ่งของคุณครูผมที่เขาบอกว่า คุณรู้ไหมอะไรที่สำคัญที่สุดสำหรับผมตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เป็นที่บ้าน เป็นแฟน ภรรยา ลูก ไม่ใช่หมด เขาบอกว่า คนที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือพวกคุณไง มันหมายความจนผมสะเทือนเลยว่า ผมไม่เคยอยู่กับใคร 100 เปอร์เซ็นต์เลย ในตลอดชีวิตผม”
“อย่างที่บอก ว่าถ้าผมอยู่กับใครไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ ชีวิตผมก็ไม่เวิร์ค เพราะนั้นทุกๆ พื้นที่ มันก็เหลือเพียงแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เอง ตอนนี้ชีวิตผม 20 เปอร์เซ็นต์มันยังมีโอกาสเป็นไปได้อีกตั้ง 80 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นเราเต็มที่ทุกอย่าง เต็มที่ไม่ใช่สเปคว่า ทุกอย่างต้องได้เป๊ะๆ ถ้าเกิดไม่ได้ เราก็ต้องสื่อสารว่าไม่ได้ คือเราต้องเป็นพูดตัวเอง ต้องให้เกียรติคำพูดเรา เวลาเราให้เกียรติคำพูดเรา ทุกอย่างที่พูดไปมันคือตัวนั้นเลย กำลังใจผมดีเพราะมันไม่แย่มาตั้งแต่แรกแล้วครับ”
“เรื่องคืนดีตุ๊กมันเป็นเรื่องของอนาคต ผมเป็นพ่อเป็นแม่ นอกจากผมตายแหละครับ ก็คือสิ้นสุดความเป็นพ่อ แต่ใครจะรู้วิญญาณก็คงจะผูกพันกับลูกอยู่นะครับ ฉะนั้นความเป็นพ่อแม่ ผมกับตุ๊ก ไม่มีวันเสื่อมคลายต่อลูกอยู่แล้ว เพราะนั้นเรื่องการเป็นครอบครัว เป็นสามีภรรยา จะกลับมาคืนดีกันหรือไม่ มันเป็นเรื่องของอนาคตจริงๆ ผมพูดตอนนี้ ไปดูหมอดูยังมีแม่นไม่แม่นเลย ใช่ไม่ใช่ มันเป็นเรื่องของอนาคต ถ้าใช่ก็เห็นเอง”
“ทุกวันนี้อย่างที่บอกว่าหลายๆ คน ที่ผมประกาศวันนี้ หลายคนคงสงสัยว่าผมจะกลับไปขอคืนดีหรือเปล่าผมว่าอันนี้ผมชัดเจนว่าผมรับผิดชอบตัวผมเอง ที่ผ่านมาผมพูดยังไง และผมพูดกับตุ๊กยังไงบ้าง เราคุยกันทุกเรื่องเรื่องลูกเลยครับ เราหย่าร้างกันแล้ว ความเป็นเพื่อนมีให้เหมือนเดิม แล้วตุ๊กก็ต้องใช้คำว่ากรุณา กรุณากับผมมาก ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจ มีสัมพันธ์อันดีมากสำหรับความเป็นเพื่อนตอนนี้”
“ถามว่าผมแฮปปี้ไหมกับการอยู่คนเดียว ผมไม่ได้อยู่คนเดียวนะครับ ผมมีอะไรรับผิดชอบเยอะมาก สิ่งที่ผมไม่อยากทำอะไร ผมอยากให้กับการทำงานของผม เพราะมีอะไรที่ต้องรับผิดชอบเยอะ ผมมีพ่อแม่ พี่น้องผมที่ยังต้องดูแลนะครับ ลูก เรื่องของตุ๊ก หลังจากที่เราตกลงกันไว้ มันมีความรับผิดชอบเยอะ และทุกอย่างมันเรียกร้องให้ทำทุกอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ เวลาเราทำอะไร 100 เปอร์เซ็นต์ เราก็จะปิดข้างๆ แล้วโฟกัสไปที่ข้างหน้าอย่างเดียว”
แจงไม่คิดมีรักใหม่ บอกขอตั้งหน้าตั้งตาทำงาน อยากเกษียณอายุให้เร็วเพื่ออยู่กับลูกๆ
“เรื่องความรักครั้งใหม่ก็ผมบอกแล้วว่า ทุกอย่างมันเรียกร้องให้ผมร้อยเปอร์เซ็นต์กับการทำงาน การที่เรามีรักใหม่ ผมว่ามันเป็นประเด็นรองๆ ให้เราสำเร็จก่อน อยากมุ่งเรื่องงานมากกว่ามากเลยครับ ไม่รู้จะพูดยังไง มากที่สุดในชีวิตเลยครับ เรื่องลูกผมจะบอกว่า ผมอยากโฟกัสตรงนั้น และอยากเกษียณอายุให้เร็ว แล้วอยากอยู่กับลูกให้เยอะ หาตังค์ให้มาก เพื่อสร้างความมั่นคง เพราะชีวิตเวลาถึงวันหนึ่ง กราฟมันจะดร็อป คนอายุมาก ทุกอย่างมันไม่มาพร้อมกัน เวลา สุขภาพ และเงิน มันจะเสียอย่างใดอย่างหนึ่งครับ”
ที่มา: manager.co.th