เอชพี หวังสร้างกระตุ้นตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทหมึกแท้ ออกเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ชูจุดเด่นพิมพ์ได้ 1,500 แผ่นต่อหมึก 1 ตลับ ก่อนต่อยอดชิงส่วนแบ่งตลาดเข้าใกล้ผู้นำตลาด พร้อมทุ่มงบการตลาดกว่า 80 ล้านบาท นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทว่า ปัจจุบันมีจำนวนราว 1.3 - 1.4 ล้านเครื่องต่อปี โดยในจำนวนนี้ราว 5 - 6 แสนเครื่องเป็นเครื่องพิมพ์ที่ถูกนำไปติดแทงก์ ส่งผลให้เอชพีไม่มีส่วนแบ่งในกลุ่มดังกล่าว
ดังนั้นจึงมองว่าด้วยเครื่องพิมพ์ HP Deskjet Ink Advantage รุ่นใหม่ ที่เริ่มทำตลาดด้วยจุดเด่นที่ช่วยลดต้นทุนในการผลิต ด้วยจำนวนพิมพ์สูงสุดต่อ 1 ตลับหมึกที่ 1,500 แผ่นราคา 350 บาทนั้น จะเข้ามาตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่จากเดิมเคยใช้เครื่องพิมพ์ที่ต่อแทงก์แล้วมีปัญหา ซึ่งเบื้องต้นเอชพีตั้งเป้าว่าจะสามารถทำยอดขายได้ 1 ใน 3 ของกลุ่มผู้ใช้เครื่องพิมพ์ติดแทงก์
นายวัตสัน กล่าวต่อว่ากลุ่มเป้าหมายหลักจะอยู่ในกลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กรสำนักงาน หรือธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งจากการสำรวจพบว่าในกลุ่มตลาดการศึกษามีความต้องการพิมพ์ปริมาณมาก แต่มีงบประมาณน้อยทำให้ต้องการเครื่องพิมพ์ราคาไม่แพง ส่วนในธุรกิจขนาดเล็กก็ไม่มีบุคลากรด้านไอทีมาดูแลจึงต้องการเครื่องพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพและสเถียรภาพ ซึ่งเครื่องพิมพ์หมึกแทงก์ไม่สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้
"เมื่อเทียบอัตราการทำสำเนาเอกสาร 1 แผ่น ตามร้านค้าทั่วไปจะอยู่ที่ 50 สตางค์ แต่เครื่องพิมพ์ของเอชพีใช้ต้นทุนต่อแผ่นอยู่ที่ 23 สตางค์ ดังนั้นจึงช่วยประหยัดได้มากกว่า 50%" สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาดเอชพีจะเน้นไปที่การให้ความรู้แก่ผู้บริโภคถึงข้อดีของการใช้งานหมึกแท้ รวมถึงให้ลูกค้าที่มีประสบการณ์ใช้งานเครื่องพิมพ์แบบหมึกแทงก์มาลองใช้งานตามกิจกรรมสัมมนา และการออกโร้ดโชว์ในสถานบันการศึกษา ไม่นับรวมสื่อโฆษณาต่างๆ ภายใต้งบประมาณ 80 ล้านบาทตลอดช่วงระยะเวลา 6 เดือน
ทั้งนี้เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทในตระกูล Deskjet Ink Advantage จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือรุ่นที่ลงมีรหัสลงท้ายด้วย hc (High Capacity) จะสามารถพิมพ์ได้ 1,500 แผ่นต่อ 1 ตลับหมึก ส่วนรุ่นที่ไม่มีจะมีอัตราการพิมพ์อยู่ที่ 600 แผ่นต่อ 1 ตลับหมึก
โดยใน Deskjet Ink Advantage จะมีทั้งรุ่นที่เป็นเครื่องพิมพ์ออลอินวัน สแกน ซีร็อกซ์ พรินต์ และเฉพาะเครื่องพิมพ์อย่างเดียวในราคา 3,990 บาท (2520hc All-in-One) และ 2,990 บาท (2020hc) ตามลำดับ
Company Relate Link :
HP
ที่มา: manager.co.th