มีรายงานออกมาว่า นินเทนโด้มีรายได้ประจำปีลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี
โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เจ้าของบริษัทผู้ผลิตเครื่องเล่นเกมคอนโซลยอดนิยม Wii ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีผลกำไรประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคมอยู่ที่ 228.6พันล้านเยน หรือประมาณ 2.5พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งลดลงกว่า 18 เปอร์เซ็นต์จากปีที่ผ่านมา โดยมียอดจำหน่ายลดลง 22 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีรายได้อยู่ที่ 1.4ล้านล้านเยน หรือ 15.4พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ โดยนินเทนโด้ได้อ้างประสิทธิภาพทางการเงินที่ลดลงนั้นมาจากปัจจัยหลายๆอย่าง อาทิ ราคาจำหน่ายปัจจุบันที่ลดลงของ Wii, การขาดแรงสนับสนุนที่แข็งแรง, ปัญหาสภาวะทางการเงินของเงินเยน และการปัญหาสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้มียอดซื้อทั่วโลกตกลง โดยมี Demand ใน Wii ลดลงตั้งแต่พาร์ทแรกของปีงบประมาณ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ชะลอการจับจ่ายลงในสภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยในปีงบประมาณที่ผ่านมา นินเทนโด้สามารถจำหน่ายเครื่องเล่นเกม Wii ได้เพียง 20.5 ล้านเครื่องจาก 26 ล้านเครื่องเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อีกทั้งเพื่อเป็นการต่อกรกับคู่ต่อสู้อย่างไมโครซอฟท์และโซนี่ ทำให้นินเทนโด้จำเป็นต้องลดราคาจำหน่ายเครื่องเล่นเกมลง 50ดอลล่าร์สหรัฐฯเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นผลให้มีรายได้ตกลงในครั้งนี้ ในฝั่งตระกูลเครื่องเล่นเกมพกพา DS ก็มีอัตราการจำหน่ายลดลงด้วยเช่นกัน โดยมีอัตราจำหน่ายอยู่ที่ 27.1 ล้านเครื่องจาก 31.1 ล้านเครื่องเมื่อปีก่อน แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมียอดจำหน่ายที่มั่นคงอยู่จากแรงซื้อของคนอเมริกัน โดยเมื่อเร็วๆนี้ นินเทนโด้ได้เพิ่งเสนอโปรโมชั่นใหม่ออกมา โดยการจำหน่ายชุดเครื่องเล่นเกมพร้อมเกม Sports Resort และอุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ Wii Fit Plus โดยไม่บวกราคาเพิ่ม ซึ่งก็น่าจะเป็นการเพิ่งแรงจูงใจในการซื้อของผู้บริโภคได้ไม่มากก็น้อย
ที่มา: pantip.com