Author Topic: ถ้า ผมเหม็น ทำอย่างไร  (Read 1603 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

ถ้า ผมเหม็น ทำอย่างไร
« on: October 12, 2012, 05:44:04 PM »

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ผมส่งกลิ่นไม่น่าพึงพอใจแม้ผมสะอาดหรือเพิ่งสระผมไม่นาน อาการของโรคผมเหม็น รู้สาเหตุและวิธีแก้ปัญหาเพื่อเพิ่มความมั่นใจ

หลังต้องฝ่ามลภาวะ ทั้งควันรถ ควันบุหรี่ และสภาพอากาศทั้งฝนตกแดดออก ผมของคุณอาจมีกลิ่นเหม็น ส่งผลต่อบุคลิกภาพและชีวิตทางสังคม ซึ่งในบางครั้งแชมพูหรือการล้างน้ำสะอาดก็ไม่สามารถแก้ไขได้ โดยเฉพาะในบางรายที่ผมมีกลิ่นอับเหมือนฟองน้ำเก่าๆ หรือขนสุนัขเปียกๆ ซึ่งเป็นกลิ่นที่ไม่น่าพึงพอใจ แม้หลังสระผมกลิ่นจะลดลงบ้างแต่สงสัยบ้างไหมว่าทำไมกลิ่นพวกนี้ไม่หายไปสักที

โรคผมเหม็นหรือสเมลลี่ แฮร์ ซินโดรม (เอสเอชเอส) เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งโรคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะผมสกปรก แต่เกิดจากต่อมผลิตไขมันซึ่งติดกับรากผมแต่ละเส้นผลิตไขมันออกมามากเกินไป ทำให้ผมมันและดูดกลิ่นในอากาศเอาไว้ ผมจึงมีกลิ่น

นอกจากนี้ ปัญหาไม่ได้เกิดจากแค่ต่อมไขมันเท่านั้น เพราะหนังศีรษะยังมีต่อมเหงื่อที่จะผลิตเหงื่อออกมาและก่อให้เกิดปัญหาผมเหม็นอับเหมือนกันซึ่งเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก อย่างในบางคนแม้จะใช้ยาระงับกลิ่นแล้วแต่ก็ยังมีแนวโน้มที่จะมีเหงื่อและมีกลิ่นมากกว่าคนอื่น

สภาพเส้นผมก็มีส่วน หากมีผมธรรมดาจะไม่ค่อยประสบปัญหาผมดูดกลิ่นมาก แต่ถ้าผมเส้นเล็กละเอียดจะเกิดปัญหาผมมันและมีกลิ่นมากกว่า โดยเฉพาะถ้าใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมพวกมูสหรือเซรั่มก็เหมือนใส่น้ำมันลงบนผม เพราะผมจะดูดกลิ่นมากขึ้นและทำให้กลิ่นติดบนเส้นผม

หากไม่เคยมีปัญหาผมมีกลิ่น ก็อาจประสบปัญหานี้ได้เพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งเกิดขึ้นได้ในช่วงที่เครียด เพราะความเครียดจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนต่อมหมวกไตซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนแอนโดรเจน ทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามาก กลายเป็นวงจรปัญหาที่ซ้ำซาก หรือกินอาหารที่มีกลิ่นฉุนเช่น เครื่องแกง หรือน้ำมันปลาก็ทำให้เกิดอาการผมมีกลิ่นเหม็นได้เหมือนกัน

การแก้ปัญหา โรคผมเหม็น ทำได้โดยสระผมบ่อยๆ หรือในบางรายควรสระผม 2 ครั้งต่อวันในช่วงเช้าและเย็น ด้วยแชมพูที่อ่อนโยนเพื่อทำความสะอาดและไม่ทำร้ายผมหรือหนังศีรษะ เพราะถ้าแชมพูแรงเกินไปอาจทำให้หนังศีรษะแห้ง และมีการผลิตไขมันมากขึ้น ซึ่งยิ่งทำให้ปัญหาร้ายแรงขึ้นไปอีก และห้ามใช้ครีมนวดผมบริเวณใกล้กับรากผม ที่สำคัญหลังสระผมหากฉีดสเปรย์หอมสำหรับผมก็จะช่วยพรางปัญหานี้ได้

ทีมเดลินิวส์ ออนไลน์
dnshopaholic@gmail.com

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)