Author Topic: “อาร์ต พศุตม์” ตัวลอย ได้เป็น พระเอก ละครหลังข่าว ซะที ปัดไม่อยากเป็น เหมือน “ณเดชน์”  (Read 724 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai






      “อาร์ต พศุตม์” ดีใจได้เป็นพระเอกละครหลังข่าวซะที หลังได้เป็นแต่พระเอกละครเย็น ออกตัวไม่อยากเป็นเหมือน “ณเดชน์” เพราะแค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว พร้อมปัดไปวัดหาฤกษ์แต่ง แจงแค่ไปปรึกษาพระเรื่องทำธุรกิจกับ “น้ำฝน”
       
       เล่นละครเป็นพระเอกช่อง 3 มานาน แต่ “อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม” เพิ่งขึ้นแท่นเป็นพระเอกละครหลังข่าวเรื่องแรก “กุหลาบไฟ” หลังเล่นแต่ละครเย็นมาตลอด งานนี้ทำเอาหนุ่มอาร์ตดีใจเนื้อเต้น พร้อมเผยว่าได้รับการติดต่อให้เล่นเรื่องนี้นานแล้ว แต่เพิ่งมารู้ว่าเป็นละครหลังข่าว
       
       “เป็นพระเอกละครหลังข่าวเรื่องแรกครับ แต่ก็เล่นละครหลังข่าวมา 3-4 เรื่องแล้ว แต่เป็นพระรองหลังข่าว มันก็ดีนะ มันก็มีบทอะไรให้เราเล่นเรื่อยๆ ถามว่ากดดันไหม ก็ไม่กดดันนะครับ เราก็เล่นให้เต็มที่ ส่วนใหญ่จะเล่นเป็นพระเอกเย็น ส่วนกลางคืนเป็นพระเอกคู่บ้าง เป็นพระรองบ้าง ก็ดี”
       
       “เรื่องนี้เขาจองผมมานานมาก จองมาตั้งแต่พฤศจิกาฯปีที่แล้ว นี่เพิ่งได้เริ่มถ่าย แต่ผมไม่รู้ว่าถูกวางเป็นละครหลังข่าวตั้งแต่แรกหรือเปล่า เพราะก็เพิ่งรู้วันนี้เหมือนกันว่าเป็นละครหลังข่าว ก็คิดว่าละครหลังข่าวก็ดี ตอนนี้กระแสข่าวผมบางทีมันมาหลายกระแสครับ ทั้งถ่ายเมนเฮลท์ ทั้งข่าวเต็มไปหมดเลย ถ้าเป็นโอกาสดี มันก็ดีครับ อายุมันมาแล้ว ก็ต้องสดใสบ้างนะ”
       
       ไม่เกร็ง แม้ละครหลังข่าวจะมี “ณเดชน์-หมาก” เป็นตัวพ่ออยู่แล้ว
       
       “ไม่เกร็งครับ เพราะจะเป็นหลังข่าว หรือตอนเย็น เราก็เล่นให้เต็มที่ เพราะมีคนดูอยู่แล้ว ก็เล่นให้เต็มที่ครับ แล้วพอดีมาเจอซาร่า เล็กจ์ ด้วย เล่นคู่กันมาหลายเรื่อง เรื่องนี้เรื่องที่ 4 แล้ว จริงๆ ได้เล่นกับซาร่าบ่อยๆ ก็ดีเหมือนกัน อย่างที่บอกครับ ได้เล่นกับคนคุ้นเคย อย่าง ณเดชน์-ญาญ่า เขาเล่นกันจนรู้หมดแล้ว และถ้าเราได้เล่นกับคนที่เราคุ้นเคย มันก็ดี เช่นไปจับเขา เฮ้ยซาร่าโทษนะ มันจะเป็นการพูดผ่านๆ ถามว่ามีเกรงใจไหม มีครับ แต่ก็ด้วยความที่เราสนิทกัน”
       
       “หลายคนอาจจะมองว่าเป็นช่วงทองของผม แต่ไม่นะ เพราะถ้าเป็นละคร จริงๆ ผมว่าตั้งแต่ทำงานมาเป็นช่วงเวลาทองของผมทั้งหมดเลย เพราะละครเต็มที่ผมได้พักแค่ 2-3 อาทิตย์ แล้วก็จะมาใหม่อีกเรื่องแล้ว ผมเคยมีปีหนึ่ง 5 เรื่อง จริงๆ มีคนถามว่าไม่อยากเป็นแบบณเดชน์เหรอ ก็บอกว่าอย่าเป็นเลย แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว คือเรามีคนเดียว ความสามารถเราคือทำงานได้แค่คนเดียว 24 ชั่วโมง ถ้าแยกร่างออกได้สิ จะเป็น บอกเอาเถอะ ให้ณเดชน์เขาดังไปน่ะดีแล้ว”
       
       “อีเวนต์ก็มีเยอะขึ้นครับ คนที่คุ้นเคยกับเราไปทำร่วมกับเรา เพราะเขารู้ว่าเราทำงานให้เกินค่าจ้าง ซึ่งเราก็รู้ว่าการที่เรามาขนาดนี้ เพราะเราง่ายๆ สบายๆ จริงๆ ผมก็งานขนาดนี้มาสักพักแล้วนะ แต่ว่าคนเพิ่งมาสนใจ แต่ไม่รู้สึกแปลกอะไร ผมว่าดี เวลาไปไหนมาไหน คนก็จะทัก ขอถ่ายรูป คือเวลามีคนขอถ่ายรูปจะไม่มีปฏิเสธเลย คือถ้าเขาเกลียดเรา เขาคงไม่ขอถ่ายรูป”
       
       ปัดไปวัดหาฤกษ์แต่งงาน แจงแค่ไปปรึกษาพระเรื่องทำธุรกิจร่วมกัน
       
       “เราทำบุญบ่อย อย่างที่บอก ผมทำอะไรแบบนี้มาเยอะนะ นานมากแล้ว แต่คนยังสนใจน้อย อย่างเวลาทำบุญผมก็ลงอินสตาแกรม ไปเก็บหมา โดนรถชน ลองไปย้อนดูเลย ผมไปเก็บเจ้าโชคมา โดนรถชนขาลากกับพื้นผมก็เก็บมาเลี้ยง หลายตัวแล้ว เพิ่งจะมีตัวนี้ที่มีคนมากด 3-4 พันไลท์ คนเพิ่งมารู้ว่าเราทำบุญ”
       
       “แต่ที่ไปวัดวันนั้นไม่ได้จะไปหาฤกษ์แต่ง คือผมกำลังคิดทำธุรกิจหนึ่งกับฝน แต่ตอนนี้กำลังดูอยู่ก็เลยปรึกษาหลวงพี่ว่าเราทำด้วยกันได้มั้ย เราทำตอนไหนถึงจะดี จริงๆ จะทำธุรกิจแบบพวกบำรุงผิว เราก็เลยคิดว่าควรจะมีฤกษ์มียามสักนิดมั้ย เรียกว่ามันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ”
       
       “เรื่องทำด้วยกันแล้วจะมีปัญหากัน คือถ้าเป็นธุรกิจตีกันเลยครับ ขนาดยังไม่ได้เริ่มทำก็เริ่มมีตีกันแล้วนะ คือฝนเป็นคนที่แบบว่า อยากจะทำอะไร เขาต้องมุ่งมั่นว่าจะไปแบบนี้ อย่างไปที่หมายเลข 1 เขาจะไปที่เลข 1 ไม่มีเผื่อ 2-3-4 เลย ผมก็บอกว่า ความคิดแบบนี้ไม่ดีนะ คนเราพอทำอะไรก็ควรจะมีช้อยส์ไว้เลือกด้วยมั้ย ซึ่งตอนนี้เขาก็รับฟังพอสมควร”
       
       “แหวนที่เคยจะทำให้ปรากฎว่าไม่ได้ทำแล้ว ซื้ออย่างอื่นให้แทน ฝนเขากลัวใส่แล้วหาย เพราะเวลาทำงานไปเองอะไรแบบนี้ คือผมจะไม่ใส่ของมีค่าไปกองถ่ายละครกลัวใส่แล้วไปวางไว้ ไม่ได้กลัวคนขโมยหรอก แต่บางทีไปวางไว้ ถอดล้างมือบ้าง วางไว้ในห้องน้ำ คนอื่นมาหยิบไป เขาก็เลยกลัวหาย เขาอยากได้กระเป๋า ผู้หญิงก็จะมีกระเป๋า รองเท้า แค่นี้ กระเป๋านี่ซื้อให้ตั้งหลายใบแล้ว เล็งๆไว้ เดี๋ยวรอวันก่อน อันนี้ก็ครบรอบ 5 ปีแล้ว”
       
       “จริงๆ ความรักเราไม่มีปัญหาเลยนะ ตั้งแต่เป็นข่าว เป็นอยู่ประมาณ วัน 2 วันที่เขายังไม่เข้าใจเรานิดหน่อยแค่นั้นเองครับ แต่พอเขานิ่งและเปิดรับฟัง เราก็อธิบายทุกอย่างให้เขาฟัง เขาก็ยังแบบจริงเหรอพี่ เราก็เอาให้เขาดู ว่าจริงเปล่าล่ะ เขาก็เชื่อก็รับปาก”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)