Catalogs บริการใหม่จากกูเกิล กูเกิลเปิดศักราชใหม่วงการค้าปลีกอเมริกันด้วยการนำแค็ตตาล็อกร้านค้าหลายพันเล่มมาเผยแพร่บนเว็บไซต์ หวังเพิ่มความสะดวกสบายให้ชาวออนไลน์เลือกซื้อหาสินค้าจากหลายร้านค้าได้จากแหล่งเดียว ไม่พอ กูเกิลยังถูกลือว่าได้ตัดสินใจซื้อบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีเสมือนและระบบวิเคราะห์ใบหน้า ทำให้นักลงทุนมั่นใจจนส่งให้มูลค่าหุ้นกูเกิลสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยมูลค่าตลาดบริษัทกูเกิลนั้นขึ้นแท่นอันดับ 2 ในกลุ่มบริษัทไอทีโลก แซงหน้าไมโครซอฟท์และเป็นรองเพียงแอปเปิลในขณะนี้ การรุกตลาดค้าปลีกด้วยการรวบรวมแค็ตตาล็อกสินค้าหลากหลายไว้บนบริการของกูเกิลครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวให้ทันฤดูกาลจับจ่ายปลายปี โดยกูเกิลออกแถลงการณ์ว่าบริษัทจะรวมแค็ตตาล็อกสินค้าหลายพันเล่มจากผู้ค้าปลีกมากกว่า 300 แบรนด์ เพื่อให้ชาวออนไลน์สามารถเปิดชมได้จากหน้าเว็บไซต์
www.google.com/catalogs ซึ่งเป็นการขยายจากเดิมที่กูเกิลเคยให้บริการในรูปแอปพลิเคชันฟรีสำหรับไอแพด และอุปกรณ์แอนดรอยด์ ในชื่อบริการ Google Catalogs ตั้งแต่ปี 2011 ที่ผ่านมา
ผู้ใช้บริการ Google Catalogs บนเว็บไซต์กูเกิลจะสามารถชมแค็ตตาล็อกของแบรนด์ดังอย่าง BCBGMAXAZRIA, Bose, Crate & Barrel, Crutchfield, Fossil, Lands' End Canvas, Lane Bryant และอื่นๆ โดยสามารถเลือกรายชื่อแค็ตตาล็อกที่ต้องการได้โดยเรียงตามตัวอักษร หรือจะเลือกเปิดแค็ตตาล็อกตามประเภทหมวดสินค้า 25 กลุ่ม เช่น สินค้าสตรี ของแต่งบ้าน สินค้าเด็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่น สุขภาพ
ขณะเดียวกันก็สามารถขยายภาพผลิตภัณฑ์ อ่านรายละเอียดสินค้าและราคา ก่อนจะคลิกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เว็บไซต์ของบริษัท
นอกจากนี้ บนเว็บไซต์จะมีพื้นที่แนะนำแค็ตตาล็อกน่าสนใจประจำสัปดาห์ที่กองบรรณาธิการเป็นผู้เลือก พร้อมกับพื้นที่แนะนำแค็ตตาล็อกออกใหม่ ทั้งหมดนี้ไม่มีข้อมูลว่ากูเกิลจะได้รับส่วนแบ่งรายได้ใดๆ
กูเกิลไม่ใช่รายเดียวที่พยายามรวบรวมแค็ตตาล็อกค้าปลีกไว้บนโลกออนไลน์ ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์เคยร่วมมือกับเว็บไซต์อย่าง TheFind.com ในการสร้างเว็บไซต์เทคโนโลยี HTML5 เพื่อให้บริการออนไลน์ชอปปิ้งที่ผู้ใช้จะได้รับความรู้สึกเหมือนอ่านนิตยสาร แต่เว็บไซต์ดังกล่าวที่ให้บริการในชื่อ Glimpse Catalogs สามารถรวบรวมแค็ตตาล็อกสินค้าจากผู้ค้า 90 รายเท่านั้น ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่า Google Catalogs มากนัก
ในส่วนของกูเกิลก็เคยให้บริการค้นหาแค็ตตาล็อกสินค้าในชื่อ Catalog Search แล้วตั้งแต่ปี 2001 แต่ก็ระงับบริการไปในปี 2009 ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ถือว่าเป็นการลุยตลาดค้าปลีกรอบ 2 ทั้งหมดนี้กูเกิลอธิบายไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทว่าเป็นความพยายามในการสร้างประสบการณ์ Google Shopping ซึ่งผู้บริโภคจะได้มีแรงบันดาลใจและหนทางใหม่ในการซื้อสินค้าและรับข้อมูลจากแบรนด์ที่ชอบได้ดีกว่าเดิม
เทคโนโลยีวิเคราะห์ใบหน้า อาวุธใหม่ของกูเกิล และแอนดรอยด์ ? ***ลือกูเกิลฮุบบริษัทเทคโนฯ AR-วิเคราะห์ใบหน้า ไม่เพียงการรุกตลาดค้าปลีก กูเกิลยังถูกรายงานว่ากำลังอยู่ระหว่างกระบวนการซื้อบริษัทดาวรุ่งผู้พัฒนาเทคโนโลยีเสมือนจริง (Augmented-Reality) และเทคโนโลยีวิเคราะห์ใบหน้า (facial-recognition) สัญชาติยูเครนนามว่า Viewdle คาดว่าการเสนอซื้อบริษัทครั้งนี้จะทำให้อุปกรณ์พกพาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์มีความสามารถใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเหล่านี้ในอนาคต
รายงานระบุว่า กระบวนการเจรจาซื้อบริษัทดาวรุ่งสัญชาติยูเครนนี้เกิดขึ้นมานานนับปี แต่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์ต้นเดือน ต.ค.นี้ โดยขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดการซื้อกิจการที่เกิดขึ้น และยังไม่มีการยืนยันใดๆ จากกูเกิล
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเชื่อว่าราคาเสนอซื้อบริษัท Viewdle จะมีมูลค่าสูงถึง 30-45 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยหากดีลนี้เกิดขึ้นจริงเทคโนโลยีของ Viewdle จะทำให้วิดีโอที่ถ่ายบนอุปกรณ์แอนดรอยด์สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเป็นภาพของบุคคลใด ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถ Tag หรือติดป้ายชื่อได้โดยอัตโนมัติ ขณะเดียวกัน เทคโนโลยี AR ก็จะทำให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลเสมือนผ่านกล้องดิจิตอลของอุปกรณ์ได้อย่างเหนือชั้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องจำกัดการพัฒนาที่สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตอย่างเดียว แต่อาจจะขยายพื้นที่ไปครอบคลุมโครงการแว่นตาอัจฉริยะของกูเกิลได้ด้วย
***มูลค่าตลาดแซงไมโครซอฟท์ ทิศทางบริษัทที่สดใสทำให้มูลค่าตลาดของกูเกิลเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดเดือน ก.ย. ล่าสุดกูเกิลสามารถแซงหน้าไมโครซอฟท์ และขึ้นเป็นบริษัทไฮเทคที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดอันดับ 2 ของโลกได้แล้วเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นรองเพียงแอปเปิลรายเดียวเท่านั้น
ราคาหุ้นกูเกิลทำนิวไฮที่ 761.78 เหรียญสหรัฐ ทำให้บริษัทมีมูลค่าตลาดสูง 249,100 ล้านเหรียญสหรัฐ สวนทางกับราคาหุ้นไมโครซอฟท์ที่ร่วงลง 0.91% มาปิดที่ 29.49 เหรียญสหรัฐ ทำให้ไมโครซอฟท์มีมูลค่าตลาดรวม 247,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งต่ำกว่ากูเกิลเป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัทยังถือว่าห่างไกลกับแอปเปิล ซึ่งราคาหุ้นตกลงเล็กน้อยเหลือ 659.39 เหรียญสหรัฐเมื่อวันที่ 1 ต.ค. โดยคิดเป็นมูลค่าตลาดรวม 618,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นสถิติสูงสุดในโลกเมื่อเทียบกับบริษัทในกลุ่มอื่นๆ
ที่น่าสนใจคือ บทวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปซึ่งตีพิมพ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าราคาหุ้นกูเกิลมีแนวโน้มขยับสูงขึ้นอีกมากในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งตรงกันข้ามกับแนวโน้มหุ้นไมโครซอฟท์ที่ยังไม่ตื่นตัวเท่าที่ควร ทั้งที่ใกล้ถึงกำหนดเปิดตัวระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 8 ก็ตาม
Company Related Link :
Google Catalogs
Google
Microsoft
ที่มา: manager.co.th