เปิดกลยุทธ์ชุมชนคนรักความงามชื่อดังของไทยอย่าง Jeban.com ระบุความท้าทายวันนี้คือการดึงเว็บไซต์มาผนึกกับกระแสโซเชียลมีเดียให้ได้ ตามเทรนด์โซเชียลชอปปิ้งที่ขยายตัวทั้งในไทยและทั่วโลก เชื่อเพจวิว 9 ล้านต่อเดือนและยอดสมาชิก 120,000 คนจะโตต่อเนื่องผ่านแอปพลิเคชัน iOS ล่าสุดที่เริ่มให้บริการ สุดภูมิใจกูเกิลเลือกจีบันเป็น “แฮงก์เอาต์ฮับ” ด้านความงามซึ่งทำสถิติผู้ร่วมแฮงก์เอาต์มากที่สุดในประเทศไทย นางจีราภัสร์ อริยบุรุษ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์จีบันดอตคอม (Jeban.com) คอมมูนิตีออนไลน์ผู้หญิงรายใหญ่ของไทย ให้สัมภาษณ์ในโอกาสเปิดตัวแอปพลิเคชัน “Jeban On App” ว่า ตลาดโซเชียลชอปปิ้งหรือกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมค้นหาข้อมูลและรีวิวสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อนั้นมีจำนวนมากขึ้นต่อเนื่องในประเทศไทย จีบันจึงมีนโยบายพยายามเข้าถึงอุปกรณ์ของสาวยุคดิจิตอลให้ได้มากที่สุด โดยอนาคตมีแผนจะนำเทคโนโลยีโลเกชันเบสมาประยุกต์เพื่อส่งโปรโมชันน่าสนใจแก่แฟนจีบัน
ที่น่าสนใจคือ พาร์ตเนอร์ธุรกิจของจีบันวันนี้ไม่ได้จำกัดอยู่ที่สินค้ากลุ่มดูแลผิวพรรณ แต่กำลังครอบคลุมทั้งคอนซูเมอร์โปรดักต์ เช่น แบรนด์โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป ธนาคาร สีทาบ้าน หรือแม้แต่ยางรถยนต์
โซเชียลชอปปิ้งมาแรง
จีบันนั้นให้คำนิยามตัวเองว่าเป็นคอมมูนิตีออนไลน์ผู้หญิงที่ให้บริการเว็บไซต์ในรูปแบบผู้ใช้สร้างเนื้อหา (User Generated Content) จุดเด่นคือสาวๆสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านความงามและแฟชั่นระหว่างกันได้อย่างเสรี ซึ่งข้อมูลทดลองใช้สินค้า (รีวิว) ที่ส่งต่อกันอย่างจริงใจโดยผู้ใช้ชาวไทยด้วยกันนี้เองที่เป็นแรงผลักดันให้จีบันเติบโตก้าวกระโดดในยุคโซเชียลชอปปิ้ง หรือยุคที่ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าด้วยข้อมูลจากเครือข่ายสังคม
การวิจัยของเพอร์ฟอร์มิกส์ (Performics) พบว่า ชาวออนไลน์ 98% อ่านบทความรีวิวสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ ขณะเดียวกัน เครือข่ายสังคมเฟซบุ๊กที่ถูกใช้งานแพร่หลายในปัจจุบันก็ยิ่งทำให้ชาวออนไลน์สามารถค้นพบสินค้าและบริการใหม่ โดยมีโอกาสได้รับข้อมูล การรีวิว รวมถึงคำแนะนำในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการนั้นๆ อย่างทันทีผ่านอุปกรณ์พกพา ทั้งที่แต่ละคนยืนอยู่คนละสถานที่ในเวลานั้น
จุดนี้การสำรวจพบว่า ในกลุ่มผู้อ่านรีวิวออนไลน์ 98% ราว 60% นั้นค้นหาเทียบข้อมูลราคาระหว่างอยู่ในร้านค้า โดยอีก 40% ใช้สมาร์ทโฟนโพสต์ถามความเห็นบนเครือข่ายสังคมขณะอยู่ที่ร้านค้าแล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้จีบันเปิดตัวโมบายล์แอปพลิเคชัน “Jeban On App” เพื่อเป็นตัวช่วยให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ต่างๆ พร้อมเปรียบเทียบก่อนการตัดสินใจซื้อได้ทันทีที่ต้องการ ซึ่งเพียงสัปดาห์แรกยอดการดาวน์โหลดก็สามารถขึ้นสู่อันดับที่ 2 ของ App Store ได้บนยอดดาวน์โหลดรวมกว่า 80,000 ครั้ง และคาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะมีจำนวนการดาวน์โหลดกว่า 100,000 ครั้ง
“เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกเว็บไซต์ขึ้น 20% และเพิ่มยอดวิวผ่านมือถือขึ้นอีก 100%”
Jeban On App จะยังรองรับเฉพาะ iOS ในช่วงแรก เหตุผลคือเพราะจากฐานข้อมูลผู้ใช้จีบันพบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้อุปกรณ์ไอโอเอส (iOS) ราว 80% คาดว่าปีหน้าจะเริ่มออกเวอร์ชันสำหรับผู้ใช้แอนดรอยด์ และจะนำเสียงตอบรับมาปรับปรุง
“เพจวิวแอปพลิเคชันตั้งแต่เปิดให้บริการ (13 กรกฎาคม) ทั้งหมดคือ 6.6 ล้านวิวในเวลา 2 เดือน เชื่อว่าจำนวนผู้ใช้จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะในเพจวิวเว็บไซต์จีบันดอตคอม 9 ล้านต่อเดือนนั้นเป็นการใช้งานจากโมบายล์ราว 2 ล้านเพจวิว จำนวนนี้เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่แล้ว”
ฟีเจอร์น่าสนใจในแอปพลิเคชันนี้คือการเปิดให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลรีวิวสินค้าได้ทันใจ โดยมีข้อมูลตรงจากแบรนด์หรือผู้นำเข้า โดยสมาชิกจีบันจะร่วมกันให้คะแนนและแสดงความเห็นได้อย่างเสรี ซึ่งปัจจุบันมีข้อมูลผลิตภัณฑ์ความงามกว่า 30,000 ชิ้น และมีสมาชิกช่วยกันรีวิวไปแล้วกว่า 100,000 ความเห็น
อีกคุณสมบัติคือบิวตี้เช็ก สมาชิกสามารถถ่ายภาพสไตล์การแต่งตัวในแต่ละวัน พร้อมทั้งติดแท็กที่มาของเสื้อผ้าและเครื่องประดับ และอัปโหลดให้เพื่อนๆ ได้ดูและแสดงความเห็น โดยแผนในอนาคตจีบันเตรียมใช้เทคโนโลยีโลเกชันเบสเพื่อเสนอโปรโมชันพิเศษแก่ผู้เดินห้างฯ ผ่านแอปฯ ซึ่งจะช่วยให้สาวจีบันมีทางเลือกมากขึ้น
ทั้งหมดนี้ นางธุวรักษ์ ปัญญางาม ผู้จัดการฝ่ายการตลาดจีบันดอตคอม ระบุว่า นี่คือเทรนด์ต่อไปของพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค
“สมัยก่อนผู้บริโภคที่อยากซื้อสินค้ามักต้องการข้อมูล โดยจะเดินเคาน์เตอร์แล้วรอพนักงานแนะนำจึงค่อยซื้อ วันนี้ไม่ต้องหาข้อมูลแล้ว เราทำให้ผู้บริโภคสามารถดูข้อมูลบนแอปฯ จากหน้าเคาน์เตอร์ได้เลย แค่เลือกช่วงอายุ เปรียบเทียบกับข้อมูลตัวเอง ก็จะทำให้มีข้อมูลและไม่หลงเชื่อพนักงานขายมากเกินไป”
ภูมิใจกูเกิลเลือก
ไม่เพียงแอปพลิเคชัน ก้าวใหม่ของจีบันในวันนี้ยังมีฐานะ “แฮงก์เอาต์ฮับด้านความงาม”ห้อยท้าย โดยนางธุวรักษ์เล่าว่า กูเกิลต้องการประชาสัมพันธ์เครือข่ายสังคมกูเกิลพลัส (Google Plus) ซึ่งมีคุณสมบัติแฮงก์เอาต์ (บริการแชตผ่านวิดีโอที่เปิดให้สมาชิกกูเกิลพลัสเกิน 10 รายสามารถสนทนาถึงกันได้ทันใจ) กูเกิลจึงเลือกบุคคลผู้มีชื่อเสียงหรือบริษัทในประเทศไทยให้เป็นตัวแทนหรือฮับรวมพลผู้ใช้กูเกิลพลัสที่มีความสนใจในด้านที่ต่างกัน ซึ่งด้านความงาม กูเกิลได้เลือกให้จีบันเป็นแฮงก์เอาต์ฮับด้านความงามหรือบิวตี้
“ครั้งแรกเราทำแฮงก์เอาต์เรื่องแฉก่อนสวย เอาคนที่ปัจจุบันสวยแต่สมัยก่อนธรรมดามาคุยกัน ครั้งนั้นคนดูสดมากกว่า 1,000 คน ทั้งที่มีเวลาประชาสัมพันธ์งานน้อยเพียง 4 วัน ซึ่งกูเกิลบอกว่ากลุ่มแฮงก์เอาต์จากจีบันนั้นมีจำนวนมากที่สุด เราจัดมาแล้ว 4 ครั้งซึ่งยอดชมเกิน 1,000 ทุกครั้ง ตรงนี้รู้สึกดีมาก ที่อื่นเขาใช้เซเลบริตี แต่ของจีบันใช้ความเป็นคอมมูนิตีที่ประสบความสำเร็จ คือเราไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน จากเว็บ ภาพนิ่ง มาเป็นทีวีน้อยๆ ที่มีภาพเคลื่อนไหว”
วันนี้จีบันใช้ฟีเจอร์แฮงก์เอาต์เป็นห้องปฏิบัติการสดเพื่อให้ผู้ใช้ได้ทดสอบเขียนอายไลเนอร์จากบ้าน โดยที่สมาชิกรายอื่นสามารถชมไปพร้อมกันแม้จะอยู่คนละจังหวัด ขณะเดียวกันก็สามารถทดสอบลิปสติกว่ายี่ห้อใดทำให้สาวๆ สามารถกินน้ำแล้วลิปติดแก้วน้อยที่สุด หรือบางครั้งก็จัดแฮงก์เอาต์นำสาวๆ และผู้สนใจมาร่วมสนทนาเรื่อง “ท้องก่อนแต่ง” ซึ่งเป็นเรื่องที่สาวๆ ให้ความสนใจ
“ต้องบอกว่านี่เป็นอีกช่องทางที่ดี เราอยากจะปรับใช้เทคโนโลยีให้ดีที่สุด ถามว่าเราอยากทำทีวีไหม ก็ไม่ แต่การร่วมมือกับกูเกิลทำให้เราลดข้อจำกัดได้หลายอย่าง และเป็นโอกาส เป็นโจทย์ใหม่ให้ลองทำ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จดี”
ผู้บริหารจีบันระบุว่ายังคงยึดช่องทางโซเชียลหลักคือเฟซบุ๊กต่อไป โดยยอมรับว่าเครือข่ายสังคมที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงอย่าง Pinterest นั้นเป็นพื้นที่ที่สนใจ ซึ่งยังต้องรอดูความนิยมจากผู้ใช้คนไทยและเสียงเรียกร้องในอนาคต
“5 ปีที่แล้วเรายังไม่มีเฟซบุ๊ก ไม่มีโซเชียลมีเดีย เว็บก็โตไปเรื่อยๆ ความท้าทายของเราในวันนี้ก็คือจะดึงเว็บมาเมิร์ซกับโซเชียลให้ได้ ตอนนี้มีโมบายล์มีแอนดรอยด์ มีไอโอเอส ไม่รู้ว่าอนาคตมีอะไรอีก แต่เราก็จะพยายามเข้าถึงดีไวซ์ คนยุคนี้ใช้อะไรเราจะตอบให้ทัน บนคอนเซ็ปต์หลักเดิม คือให้คนอ่านสวยขึ้น และเลือกได้อย่างฉลาด”
นับจากวันก่อตั้งจีบันดอตคอม 5 ปีที่ผ่านมาจีบันมียอดผู้เข้าชมเว็บไซต์มากกว่า 1.7 ล้านคนต่อเดือน (สถิติจาก Google Analytics) ขณะที่เพจวิวในปัจจุบันอยู่ที่ 9 ล้านเพจวิวต่อเดือน (สถิติจาก Truehits) โดยผู้เข้าชมเว็บไซต์ 95% เป็นเพศหญิง ในจำนวนนี้ 40% เป็นผู้เข้าชมในกลุ่มอายุ 18-25 ปี และอีกประมาณ 30% อายุ 26-30 ปี โดยพาร์ตเนอร์ 80% เป็นสินค้าบิวตี้เคาน์เตอร์แบรนด์, 13% เป็นแบรนด์แฟชั่น และ 7% เป็นแบรนด์ด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ ซึ่งเริ่มขยายไปยังกลุ่มสินค้าไอทีที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มตลาดผู้หญิงเช่นกัน
Company Relate Link :
Jeban
ที่มา: manager.co.th
