บริษัทวิจัยตลาดอีมาร์เกตเตอร์ (EMarketer) คาดยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจินอย่างกูเกิลจะแซงหน้าเครือข่ายสังคมยอดฮิตอย่างเฟซบุ๊กในสมรภูมิภาพโฆษณาบนเว็บไซต์หรือ online display ad ในสหรัฐฯ ช่วงปีนี้ ถือเป็นแนวโน้มใหม่หลังจากเฟซบุ๊กสามารถแซงหน้ากูเกิลไปในปีที่แล้ว ธุรกิจแสดงภาพโฆษณาออนไลน์หรือออนไลน์ดิสเพลย์แอดนั้นหมายถึงกลุ่มโฆษณาภาพกราฟิกทุกชนิดที่ชาวออนไลน์จะได้เห็นบนเว็บไซต์ สำหรับปีนี้บริษัทวิจัยตลาดคาดว่ากูเกิลจะครองส่วนแบ่งตลาดดิสเพลย์แอดอันดับหนึ่งในสหรัฐฯ โดยมีแนวโน้มจะมีส่วนแบ่งมากกว่า 15.4% ถือเป็นการยึดแชมป์คืนจากคู่แข่งอย่างเฟซบุ๊ก เบื้องต้นคาดว่ายอดรายรับรวมตลาดออนไลน์ดิสเพลย์แอดของกูเกิลจะมีมูลค่าทะลุหลัก 2.31 หมื่นล้านเหรียญ (ราว 6.93 แสนล้านบาท)
สำหรับเฟซบุ๊ก อีมาร์เกตเตอร์คาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดออนไลน์ดิสเพลย์แอดราว 14.4% ของตลาดรวมสหรัฐฯ โดยจะมีรายได้ทะลุ 2.16 หมื่นล้านเหรียญ (ราว 6.48 แสนล้านบาท) น้อยกว่ากูเกิลเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้อีมาร์เกตเตอร์เชื่อว่าเฟซบุ๊กจะครองแชมป์ตลาดดิสเพลย์แอดเหนือกูเกิล โดยช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาบริษัทเผยแพร่บทวิเคราะห์ว่าเฟซบุ๊กจะครองแชมป์ดิสเพลย์แอดในสหรัฐฯ ต่อไปหลังจากทำได้ในปี 2011 แต่ปรากฏว่ารายได้จากธุรกิจดิสเพลย์แอดของเฟซบุ๊กตกต่ำลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้บริษัทต้องปรับเปลี่ยนคำวิเคราะห์ตลาดใหม่
การสำรวจตลาดดิสเพลย์แอดครั้งนี้ยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงในตัวกูเกิลที่น่าสนใจ เพราะที่ผ่านมากูเกิลทำรายได้หลักจากโฆษณาในรูปแบบข้อความ ซึ่งจะปรากฏอยู่ถัดจากรายการค้นหาข้อมูลในหน้าผลการค้นหา โดยยาฮู (Yahoo!) เป็นแชมป์ในตลาดออนไลน์ดิสเพลย์แอดสหรัฐฯ มาตลอดด้วยส่วนแบ่งตลาดราว 14% กระทั่งปี 2011 เฟซบุ๊กสามารถครองส่วนแบ่งตลาดออนไลน์ดิสเพลย์แอดในสหรัฐฯ ราว 14.4% เหนือกว่ากูเกิลที่ทำได้ 13.5% และยาฮูอยู่ในอันดับรองลงมา
แต่จากการพัฒนาเครือข่ายโฆษณาของกูเกิล โดยเฉพาะระบบโฆษณาบนบริการวิดีโอออนไลน์บนยูทิวบ์ (YouTube) และบริการโฆษณาบนระบบอุปกรณ์พกพาอย่างแอดม็อบ (AdMob) ซึ่งกูเกิลซื้อกิจการมาเมื่อปี 2010 ทำให้กูเกิลสามารถขยายรายได้ในธุรกิจดิสเพลย์แอดได้มากขึ้น จนทำให้อีมาร์เกตเตอร์เชื่อว่ากูเกิลจะสามารถครองตลาดหลักในวงการออนไลน์ดิสเพลย์แอดได้ในปี 2012
เรื่องนี้มีผลทำให้กูเกิลมีความแข็งแกร่งทางด้านธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากโฆษณาแบบรูปภาพนั้นมีกำไรมากกว่าการโฆษณาแบบข้อความ เท่ากับกูเกิลมีแนวโน้มว่าจะสามารถทำเงินเข้ากระเป๋าได้มากขึ้นแน่นอน
แต่ในมุมของเฟซบุ๊ก แนวโน้มนี้กลับแสดงว่าเฟซบุ๊กยังไม่สามารถขยายฐานตลาดดิสเพลย์แอดได้มากเท่าที่ควร โดยเฉพาะระบบโฆษณาบนอุปกรณ์พกพาที่เพิ่งเริ่มโฆษณาแก่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนได้ในปีนี้ ถือเป็นจุดอ่อนที่เปิดทางให้กูเกิลสามารถแซงหน้าไปได้อย่างไม่น่าสงสัย
ในภาพรวม อีมาร์เกตเตอร์เชื่อว่าตลาดดิสเพลย์แอดอเมริกันจะเติบโตราว 21.5% ทำสถิติที่ 1.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ผลจากการขยายธุรกิจของทั้งเฟซบุ๊กและกูเกิล โดยภายในปี 2014 คาดว่าทั้ง 2 ยักษ์ใหญ่โลกออนไลน์จะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดออนไลน์ดิสเพลย์แอดเกิน 37% ของตลาด ซึ่งจะยิ่งทำให้เจ้าของเว็บไซต์รายเล็กมีโอกาสลืมตาอ้าปากได้ยากขึ้น
นอกจากนี้ อีมาร์เกตเตอร์ยังเชื่อว่าส่วนแบ่งตลาดออนไลน์ดิสเพลย์แอดของยาฮูจะลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียว เช่นเดียวกับเว็บไซต์ใหญ่สัญชาติอเมริกันรายอื่นอย่างเอโอแอลและไมโครซอฟท์ ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากการเติบโตของเฟซบุ๊กและกูเกิลในสมรภูมิออนไลน์ดิสเพลย์แอด
Company Related Link :
Google
Facebook
ที่มา: manager.co.th