กสทช.ควง 3 โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของประเทศ จัดงาน'Countdown การประมูล 3G ร่วมสานฝันภารกิจเพื่อชาติ' ย้ำความมั่นใจ 16 ต.ค.ประมูล 3G ความถี่ 2.1 GHz 'เศรษฐพงค์' ลั่นไม่มีใครกล้าล้มประมูลแน่นอน ด้านเอไอเอส ดีแทค กลุ่มทรู ย้ำเงินเต็มกระเป๋าพร้อมสู้ศึก เมื่อวันที่ 20 ก.ย. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้จัดงาน Countdown การประมูล 3G ร่วมสานฝันภารกิจเพื่อชาติ โดยใช้เงินประมาณ 7 ล้านบาทเพื่อเป็นการนับถอยหลังเข้าสู่การเปิดประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์มือถือ 3G ย่านความถี่ 2.1 GHz ในวันที่ 16 ต.ค.2555 ซึ่งหากนับจากวันที่ 20 ก.ย.จะเหลือระยะเวลาอีกประมาณ 26 วัน หรือ 647 ชั่วโมง โดยการประมูลครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการปรับโฉมธุรกิจโทรคมนาคมของไทย จากระบบสัญญาสัมปทานสู่ระบบใบอนุญาตอย่างสมบูรณ์ และยังเป็นการก้าวเข้าสู่การให้บริการ 3G อย่างเต็มรูปแบบของประเทศไทย
โดยการจัดงานครั้งนี้มีบริษัทเอกชนที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทที่ 3 แบบมีโครงข่ายของตัวเองมาร่วมเป็นสักขีพยาน และร่วมผลักดันให้เกิดการประมูล 3G อาทิ บริษัท ทีโอที ,บริษัท กสท โทรคมนาคม ,บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ,บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ,บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ,บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (ไออีซี) ,สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมถ์ โดยผู้บริหารระดับสูงได้ร่วมกล่าวสัตยาบันเพื่อสนับสนุนการเปิดประมูล 3G อย่างพร้อมเพียงกัน
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรรณ รองประธานกสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวว่าการประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์มือถือ 3G ความถี่ 2.1 GHz ในวันที่ 16 ต.ค.2555 จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่สำหรับวงการโทรคมนาคมของไทย และจะทำให้บริการโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันมีคุณภาพดียิ่งขึ้น รวมไปถึงไม่มีปัญหาสัญญาณขัดข้องอีกต่อไป
'เชื่อว่าการประมูล 3G ครั้งนี้จะไม่มีใครกล้าล้มประมูลอย่างแน่นอน เนื่องจากประเทศไทยจำเป็นต้องมีการให้บริการ 3G เพื่อทำให้บริการโทรศัพท์มือถือมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการก้าวเปลี่ยนผ่านจาก 2G ไปสู่ 3G รวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้วย เพราะนอกจากจะนำเงินจากการประมูลส่งเป็นรายได้รัฐแล้ว เอกชนยังต้องเตรียมเงินลงทุนอีกหลายหมื่นล้านบาท ส่งผลให้เกิดการจ้างงาน และธุรกิจต่อเนื่องอีกมากในอนาคต'
ขณะที่รูปแบบการประมูลที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 ต.ค.นี้ จะใช้สำนักงาน กสทช.เป็นสถานที่ประมูลโดยกสทช.ได้เตรียมห้องประมูลไว้แล้ว 7 ห้อง 7 ชั้น ซึ่งก่อนการประมูลจะมีการจับสลากเลือกห้อง โดยจะเปิดให้เคาะราคาประมูลในเวลา 10.00 น. และจะให้เคาะราคาประมูลทุกๆ 1 ชั่วโมงๆละ 5% ของราคาเริ่มต้นประมูล 4,500 ล้านบาท หรือเคาะราคาครั้งละ 200 ล้านบาท ไปจนกว่าจะไม่มีการเคาะราคาใดๆหรือราคาไม่มีการเคลื่อนไหว เป็นเวลา 2 ครั้ง ก็จะถือว่าสิ้นสุดการประมูล
อย่างไรก็ตามหากการเคาะราคายังเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง กสทช.ก็จะปิดการประมูลในเวลา 21.00 น.ของวันที่ 16 ต.ค.และจะเริ่มการประมูลอีกครั้งในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 17 ต.ค.โดยจะใช้ราคาสุดท้ายวันที่ 16 ต.ค.เป็นราคาเริ่มต้นการประมูล
ด้านนายสมประสงค์ บุณยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินทัช กล่าวว่า การประมูลใบอนุญาต 3G ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น อินทัชมีความมั่นใจว่ากสทช.จะสามารถผลักดันให้เกิดการประมูลได้อย่างแน่นอน ซึ่งหากมีการเปิดประมูล 3G แล้วไทยก็จะมีเวลา 2ปี ในการวางโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้เอไอเอสได้เตรียมความพร้อมด้านเงินลงทุน โดยได้เปิดวงเงินกู้กับสถาบันทางการเงินในประเทศไว้แล้ว ซึ่งบริษัทมีความพร้อมเต็มที่ อีกทั้งในปี 2558 ประเทศไทยต้องเข้าสู่การเปิดเสรีอาเซียน (AEC) ดังนั้นไทยจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้น
ขณะที่นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวว่าบริษัทเพิ่งลงนามเซ็นสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเตรียมวงเงินไว้สำหรับการประมูล นอกเหนือจากกระแสเงินสดของบริษัท และขอย้ำว่าดีแทคเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจภายใต้กฎหมายประกอบธุรกิจของไทยมาโดยตลอด
ส่วนนายวิเชาว์ รักพงษ์ไพโรจน์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ด้านปฎิบัติการ กลุ่มทรูกล่าวว่า กลุ่มทรูมีความมั่นใจเต็มที่ว่าการประมูลจะสามารถเกิดขึ้นได้ และไม่มีความกังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ไม่สามารถเปิดประมูลได้ ส่วนงบประมาณที่กลุ่มทรูจะใช้ในการประมูลครั้งนี้ ได้เตรียมไว้เพียงพอสำหรับประมูลใบอนุญาตจำนวน 3 สลอตหรือ 15 MHz โดยแหล่งเงินทุนมาจากผู้ถือหุ้น และสถาบันทางการเงินในประเทศ
Company Relate Link :
กสทช.
ที่มา: manager.co.th
