จบลงด้วยดี?
<![CDATA[<a href="https://www.youtube.com/watch?v=3lIsWEh5_X8" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=3lIsWEh5_X8</a>]]>
เกิดข้อกล่าวหาขึ้นเมื่อผู้กำกับ เจิ้งหยงโห แห่งซีรีส์เรื่อง Heart Road GPS ได้ใช้ความรุนแรงเกินเหตุ ในการกดดันดาราสาวดาวรุ่ง เจนนี หลิว ถึงขั้นร้องห่มร้องไห้ แสดงอาการรับแรงกดดันดังกล่าวไม่ไหว จนหลายคนตั้งคำถามถึงการทำงานของ TVB ว่าอาจจะเข้าขั้นเกินเหตุ และล่วงละเมิดนักแสดงกันเลยทีเดียว
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในกองถ่ายซีรีส์เรื่อง Heart Road GPS กับฉากที่ตัวละครของดาราสาว เจนนี หลิว ต้องโดนพวกทวงหนี้ราวี ด้วยการถูกถุงพลาสติกคลุมหัว, ผลักติดกำแพง และใช้กบมาขู่ให้กลัว ซึ่งในภาพเบื้องหลัง ก็เผยให้เห็นว่าดาราสาวต้องโดนกดดัน ไม่แตกต่างอะไรจากตัวละครของเธอเลย
การถ่ายทำฉากดังกล่าวกลายเป็นเรื่องเครียดขึ้นมาได้ เพราะผู้กำกับยังไม่พอใจกับการแสดงของเธอเสียที ดาราสาวจึงต้องแสดงฉากดังกล่าวซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ ฝ่ายผู้กำกับก็สอนการแสดงแบบค่อนข้างจะรุนแรง และบีบบังคับกดดันดาราหน้าใหม่อยู่ตลอด สุดท้าย เจนนี หลิว จึงร้องไห้ออกมา จนคลิปเบื้องหลังการถ่ายทำดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ในเน็ต และกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ มากมาย
จับมือขอโทษ - จบลงด้วยดี? ซึ่งล่าสุดตัวผู้กำกับสุดโหด ได้ขออภัยนักแสดงสาวอย่างเป็นทางการผ่านทางรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ที่ทั้งสองมาเป็นแขกรับเชิญร่วมกัน พร้อม ๆ กับที่ทางต้นสังกัดสถานีโทรทัศน์ TVB ได้ออกจดหมายตักเตือนผู้กำกับรายนี้เช่นเดียวกัน
ในการเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว เจนนี หลิว ยอมรับว่าเธอรู้สึกกดดันกับการแสดงฉากดังกล่าวมาก เพราะไม่สามารถแสดงได้อย่างที่ผู้กำกับสั่ง ซึ่งในตอนแรกไม่ได้มีบทที่เธอต้องโดนถุงพลาสติกครอบหัว แต่มีการเพิ่มเข้าไปทีหลัง นอกจากนั้นเธอเองยังกลัวกบมาก ๆ แต่ก็ยอมรับว่าเมื่อผู้กำกับถามว่าจะแสดงฉากดังกล่าวได้รึเปล่า เธอก็ยังยืนยันว่าแสดงได้
ฝ่ายผู้กำกับ เจิ้งหยงโห เองก็ยอมรับผิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าเขาจะปรับปรุงตัวเองต่อไป "ผมคงต้องปรับปรุงตัวเองในเรื่อง EQ ต่อไป บางทีอาจจะจริงจังกับงานมากเกินไป ผมขอโทษด้วย ขอโทษทุกคนที่ผมเคยดุด่าไป หวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นแล้ว"
ในการพบกันอีกครั้งของดาราสาว และผู้กำกับคู่กรณี ฝ่ายของ เจนนี หลิว ที่ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ยังคงเปิดใจว่าเธอไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องผิดปกติ หรือตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำแต่อย่างใด เพราะในฐานะดารารุ่นใหม่ เธอจำเป็นต้องผ่านเรื่องหนักหนาสาหัสแบบนี้ให้ได้ สุดท้ายทั้งสองจึงได้จับมือเพื่อขอโทษ และอภัยให้กันอีกครั้ง
เหล่าดารารุมสวดผู้กำกับ "ทำเกินกว่าเหตุ" แม้ฝ่ายหญิงจะไม่ติดใจเอาความอะไร และยืนยันว่าพร้อมจะทำงานกับผู้กำกับคนนี้ต่อไป แต่หลังคลิปการร้องห่มร้องไห้ของเธอหลุดเผยแพร่ออกไปตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ทำให้เกิดข้อถกเถียงเป็นประเด็นเกี่ยวกับการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ในการทำงานเบื้องหลังของบริษัททีวีบี
มีรายงานข่าวว่าดาราสาวคนดัง เสอซื่อม่าน เองก็เคยโดนปฏิบัติอย่างไม่ให้เกียรติจากผู้กำกับคนนี้เช่นเดียวกัน โดยเธอได้ตอบคำถามและให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวผ่านทางการส่ง SMS และให้กำลังใจนักแสดงหญิงรุ่นน้องว่า "ฉันไม่อยากจะแสดงความเห็นอะไรมากว่าใครกันแน่ที่แย่ แต่คิดว่าเธอคนนั้นควรจะปฏิเสธ เธอไม่จำเป็นต้องเล่นฉากนั้นก็ได้ มีผู้กำกับหลายคนในวงการของเราที่ชอบทำกันแบบนั้น"
เช่นเดียวกับ ไช่เส้าเฟิน ที่แสดงความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า "ฉันเห็นคลิปแล้วช็อคไปเลยค่ะ คุณทำแบบนั้นกับคนอื่นได้ยังไง? นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ว่าเธอเป็นเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งด้วยนะ ถึงเธอจะเป็นหน้าใหม่ แต่ก็ต้องเคารพกันบ้าง ผู้กำกับคนนี้แย่มาก ทำให้ทุกคนรู้สึกขยะแขยง"
และไม่ใช่เพียงสาว ๆ เท่านั้นแต่ดาวตลก ตู้เหวินเจ๋อ ก็เขียนข้อความถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน "เขาคนนี้ค่อนข้างจะสติแตกแบบนี้ตั้งแต่ทำงานที่ ATV แล้ว ถ้าไม่ใช่ดาราสาวดาวรุ่งคนนั้น แต่เป็นภรรยาของผม (คริสติน เถียน) ผมคงได้ฆ่าคนแน่ ๆ" หลังจากนั้นดาวตลกชื่อดังจึงได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ว่าเขาเคยทำงานกับผู้กำกับคนนี้มาแล้ว ซึ่ง เจิ้งหยงโห คนนี้ก็มักเป็นคนจุดเดือดต่ำ ระเบิดอารมณ์ง่าย ตั้งแต่สมัยทำงานเป็นผู้ช่วยโปรดิวเซอร์แล้ว "ถ้าเกิดว่าดาราชายไม่สามารถเล่นบทจูบกับดาราหญิงได้ สงสัยเขาคงจะผลักหนุ่มคนนั้นไป แล้วจูบดาราสาวให้ดูเป็นตัวอย่างแน่ ๆ เลยมั้ง? คุณต้องใจเย็น และมีวิธีปฏิบัติกับหน้าใหม่ในวงการที่ดีกว่านี้ ถ้าสอนแบบดี ๆ ไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาเป็นผู้กำกับแล้ว นี่มันหน้าที่ของคุณชัด ๆ"
TVB กางปีกปกป้อง อย่างไรก็ตามแม้ทาง TVB จะออกจดหมายตักเตือนผู้กำกับรายนี้ไปแล้ว แต่สำหรับผู้บริหารของสถานีอย่าง แคธเทอรีน เจิ้ง ยังคงปกป้องเขา และอธิบายว่าภาพแบบนี้เป็นเรื่องปกติของงานในวงการโทรทัศน์อยู่แล้ว นอกจากนั้นทาง TVB ยังไม่พอใจที่มีคนนำคลิปเหตุการณ์ไปเผยแพร่ ซึ่งสร้างความเสื่อมเสียให้กับทางสถานี ซึ่งจะมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป
ที่มา: manager.co.th
