Author Topic: เอชพี ระบุ เอเชียแปซิฟิก โอกาสทางการตลาด สูง  (Read 950 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


เอชพีเชื่อโครงสร้างใหม่เอื้อต่อการทำธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใน 3 เรื่อง ครอบคลุมตลาดเพิ่มขึ้น ส่งสินค้ารุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดเร็วกว่าเดิม รวมถึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ได้ตรงจุด
       
       นายดิออน ไวส์เลอร์ รองประธานอาวุโส กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดคอมพิวเตอร์ในเอเชียแปซิฟิกรวมทั้งเอชพียังมีอัตราการเติบโตที่สูง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นไทย อินโดนีเซีย เนื่องจากในเอเชียแปซิฟิกมีการผสมกันระหว่างตลาดที่พัฒนาแล้ว และตลาดเพิ่งเกิดใหม่ โดยมีตลาดใหญ่ 2 ประเทศคือจีนกับญี่ปุ่น ทำให้จำเป็นที่จะต้องผลิตสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการในภูมิภาคนี้เป็นพิเศษ
       
       “เอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดที่ใหญ่ทั้งจำนวนผู้ใช้และโอกาสทางธุรกิจ ทำให้เอชพีต้องเข้ามาศึกษา รับฟังความต้องการของผู้ใช้งานในแต่ละประเทศเพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงความต้องการ”
       
       การที่เอชพีรวมกลุ่มธุรกิจเพอร์ซันนัลซิสเต็มส์ (ไอพีจี) ที่รับผิดชอบโน้ตบุ๊ก เซิร์ฟเวอร์ เวิร์กสเตชัน กับกลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ (พีเอสจี) ที่ดูแลธุรกิจการพิมพ์ทั้งหมดเข้าด้วยกันในชื่อกลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ (พีพีจี) ทำให้การทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์มีความคล่องตัวมากขึ้น ทำให้เกิดการประหยัดและสามารถนำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุด รวมทั้งครอบคลุมพื้นที่การขายได้มากยิ่งขึ้น หมายถึงเอชพีสามารถนำทรัพยากรที่ประหยัดมาใช้ลงทุน 3 เรื่องเพิ่ม คือ 1. การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ 2. การสื่อสารทางการตลาด และ 3. การวางโครงสร้างระบบที่จะใช้ทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่ช่วยให้การขยายตลาดง่ายและดีขึ้น
       
       “เอชพีเป็นผู้นำในธุรกิจพีซีและด้านการพิมพ์ เมื่อรวมกันทำให้ขนาดตลาดของเอชพีมีมูลค่าสูงถึง 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับเป็นการขยายและครอบคลุมพื้นที่ในการทำตลาดมากยิ่งขึ้น รวมถึงการสร้างความแตกต่างด้านกลยุทธ์การตลาดด้วย”
       
       นอกจากนี้ยังทำให้การตอบสนองความต้องการผู้บริโภครวดเร็วขึ้นโดยเฉพาะเอเชียแปซิฟิกมีลักษณะตลาดที่หลากหลาย ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำตลาดจึงต้องมีความแตกต่างจากภูมิภาคอื่น โดยเอชพีได้จัดตั้งแล็บในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นในจีนและอินเดีย โดยอินเดียจะเน้นการพัฒนาซัปซิสเต็มส์ต่างๆ แล้วส่งไปยังแล็บที่จีนเพื่อนำมาประกอบเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะ
       
       ในอนาคตจะเห็นผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมสอดคล้องกับความต้องการในตลาดมากขึ้น อย่างพฤติกรรมการใช้พรินเตอร์ในไทยจะเห็นว่ามีติดตั้งแท็งก์เติมหมึกเพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้บริโภคบางคนไม่ต้องการที่จะทำเช่นนั้นเนื่องจากไม่มีทางเลือก เอชพีจึงได้พัฒนานวัตกรรมที่เรียกว่า Ink Advantage ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการหมึกที่มีราคาไม่แพง
       
       Company Related Link :
       HP

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)