แฟ้มภาพดารานักร้องดาวรุ่งไต้หวัน กับสมาร์ทโฟนที่อ้างว่าเป็น iPhone รุ่นใหม่ ที่กำลังมีคิวเปิดตัววันที่ 12 กันยายนตามเวลาสหรัฐฯ ไม่ต้องถึงมือหน่วยงานเศรษฐกิจของรัฐ เพราะสินค้าใหม่ของแอปเปิลอย่างไอโฟนรุ่นล่าสุดอาจจะเป็นฮีโร่ที่ดันตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีของสหรัฐฯ ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ได้เกิน 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะส่งให้อัตราเติบโตจีพีซีสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในสัดส่วน 0.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทมองว่า ไอโฟนรุ่นใหม่ที่เชื่อว่าจะถูกเปิดตัวในวันที่ 12 กันยายนนี้ตามเวลาสหรัฐฯ จะช่วยผลักดันให้ระบบเศรษฐกิจอเมริกันมีเงินหมุนเวียนทั้งระบบในวงกว้าง ไม่เพียงแอปเปิลที่จะทำรายได้จากการขายเครื่อง แต่ยังมีผู้เล่นในห่วงโซ่ธุรกิจเทคโนโลยีที่จะได้รับรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทั้งกลุ่มโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ กลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์หรือซัปพลายเออร์ และผู้ค้าอุปกรณ์เสริม
ทั้งหมดนี้ทำให้มาร์ก มอสโควิตซ์ (Mark Moskowitz) นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนตั้งข้อสังเกตให้กลุ่มนักลงทุนฟังในงานประชุมที่จัดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ว่าไอโฟนจะเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตัวหลักในช่วงปลายปีนี้ จุดนี้หัวหน้ากลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกน ไมเคิล เฟโรลิ (Michael Feroli) ประเมินว่าไอโฟนรุ่นใหม่จะเพิ่มมูลค่าจีดีพีของสหรัฐฯ ราว 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐช่วงปลายปีนี้ ซึ่งคิดเป็นอัตราเติบโต 0.25-0.5%
ไอโฟนเป็นสินค้าที่ทำเงินให้แอปเปิลอย่างมหาศาล โดยยอดจำหน่ายไอโฟนรวมตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อปี 2007 มีจำนวนมากถึง 244 ล้านเครื่องทั่วโลก คาดว่ายอดจำหน่ายไอโฟน รวมถึงสินค้าและบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 46% ของรายได้แอปเปิลในช่วงไตรมาสปัจจุบัน ซึ่งลดลงจาก 58% ในไตรมาสก่อนหน้านี้
เฉพาะปี 2011 แอปเปิลรายงานว่า บริษัทสามารถทำเงินจากสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับไอโฟนราว 4.71 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 87% เมื่อเทียบกับปีการเงิน 2010 ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ไอโฟนเป็นสินค้าที่มีผลต่อผลประกอบการของแอปเปิลมากที่สุด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสัดส่วนกำไรที่แอปเปิลจะได้จากไอโฟนราว 50% ซึ่งถือเป็นตัวเลข gross margin ที่สูงที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล
สำหรับไอโฟนรุ่นใหม่ นักวิเคราะห์เชื่อว่าแอปเปิลจะสามารถทำยอดขายทะลุ 10 ล้านเครื่องในช่วง 10 วันแรกของการวางจำหน่าย และอาจจะทะลุหลัก 50 ล้านเครื่องในช่วงไตรมาสปลายปีซึ่งคลุมเทศกาลจับจ่ายปีใหม่ โดยตัวเลข 50 ล้านเครื่องนี้เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2011 ที่แอปเปิลระบุว่าสามารถจำหน่ายได้ 37 ล้านเครื่องหลังจากเปิดตัวไอโฟนรุ่นปัจจุบัน iPhone 4S
อย่างไรก็ตาม ในตลาดรวมโทรศัพท์มือถือในสหรัฐฯ การสำรวจของบริษัทวิจัยคอมสกอร์ (ComScore) พบว่า แพลตฟอร์มของแอปเปิลยังเป็นรองแอนดรอยด์ของกูเกิล ซึ่งครองตลาดสมาร์ทโฟนแดนลุงแซมมากกว่า 51.6% เทียบกับ 32.4% ที่แอปเปิลทำได้
Company Related Link :
Apple
ที่มา: manager.co.th